25 ต.ค. 2023 เวลา 07:35 • ความคิดเห็น
พุทธศาสนาแตกต่างจากจิตวิทยามากอยู่
2
พุทธศาสนา "เป็นศาสนา" ดังนั้นจึงมีองค์ประกอบของทั้ง "พิธีกรรม" และบริบทที่เกี่ยวข้องกับสังคม เช่น ข้อกำหนดทางศีลธรรม (หมายความว่ามีการกำหนดค่านิยมอยู่ในนั้น) ส่วนจิตวิทยา "เป็นสาขาหนึ่งของวิทยาศาสตร์" ดังนั้นทั้งสององค์ประกอบที่ว่ามาจึงไม่มีอยู่ในจิตวิทยา มันจึงเป้นเพียงแค่วิชาการแขนงหนึ่งที่ศึกษาจิตใจของมนุษย์
2
ยิ่งไปกว่านั้น "เป้าหมาย" ของทั้งพุทธศาสนาและจิตวิทยายังต่างกันอย่างที่สุด จิตวิทยามีเป้าหมายเพียงเพื่อ "เข้าใจ" กระบวนการทางจิตของมนุษย์ แน่นอนและหวังว่าเมื่อเข้าใจมันแล้วจะสามารถนำความรู้นั้นมาใช้ประโยชน์ให้กับมนุษย์ได้ แต่ต้องสำคัญให้ดีว่า ประโยชน์ในทางจิตวิทยานั้นยังเป็นประโยชน์ "แบบโลกๆ" เพียงเท่านั้น ดังนั้นมันจึงยังอยู่ในแดนของกามสุข
2
ส่วน "เป้าหมายสูงสุด" ของพุทธศาสนา ไม่เพียงแค่ต้องการเข้าใจกระบวนการทางจิตของมนุษย์เพียงเท่านั้น แต่เป็นการ "หลุดพ้น" หรือ "พ้นทุกข์" ซึ่งเป็นหัวใจหลักในปรัชญาของพุทธศาสนา และพุทธศาสนาได้นำเสนอความสุขที่พ้นไปจาก "โลกียสุข" ดังนั้นการศึกษา อบรม ประพฤติพรหมจรรย์ในศาสนานี้จึงไม่ใช่การศึกษาปรากฏการณ์อันเป็นไปตามธรรมชาติ แต่เป็นการ "เอาชนะ" ธรรมชาติอย่างสุดโต่งเลยทีเดียว
2
ตัวอย่างเช่น ธรรมชาติของมนุษย์คือหมกอยู่ในกิเลส เพลิดเพลินในกามสุข วนเวียนอยู่ในความโกรธ เกลียด และการล้างแค้นเข่นฆ่า หรือก็คือจมอยู่ในกองทุกข์นั่นแหละ แต่พุทธศาสนาได้ชี้แนะให้มนุษย์จงเอาชนะธรรมชาตินั้นเสีย แล้วยกตัวขึ้นสู่สภาวะอีกอันหนึ่งที่อยู่เหนือกองทุกข์เหล่านั้น ความต่างของพุทธศาสนาและจิตวิทยาก็มีด้วยประการละฉะนี้😜
2
อ้อเพิ่มเติมอีกหน่อย ศาสนาพุทธ "ไม่ใช่" วิทยาศาสตร์อย่างแน่นอน อย่างน้อยที่สุด ก่อนที่จะมี "วิทยาศาสตร์" เกิดขึ้น (ในยุโรป) และแพร่อิทธิพลเข้ามาในดินแดนที่ผู้คน "นับถือ" ศาสนาพุทธ ไม่มีใครคนใดคิดว่าพุทธศาสนา "เป็นวิทยาศาสตร์" เลยแม้แต่คนเดียว การตีความพุทธศาสนาแบบ "ปรัชญา" (หมายถึงว่าทำให้มันเป็นเหมือนวิชา "ปรัชญา(philosophy)" แบบกรีกนั่นแหละ และอธิบายคำสอนกันให้พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์นั้น เพิ่งมีขึ้นอย่างเป็นระบบ เป็นรูปเป็นร่างจริงๆ ก็โดยท่าน "พุทธทาส" แค่นั้นเอง
2
พระเถระก่อนหน้านั้นไม่มีใครอธิบายอย่างงี้สักคนเดียว กลับกันพุทธศาสนาแบบที่คนทั่วไปเขานับถือและสืบทอดกันมานั้นเต็มไปด้วยความขลึมขลังและเรื่องราวของอิทธิปราฏิหาริย์เลยทีเดียว ดังนั้นการ "เตะพุทธเข้าวิทย์" นั้นเพิ่งมีขึ้นมาก็ในยุคสมัยใหม่นี่แหละ ซึ่งนับเป็นความพ่ายแพ้ของพุทธเลยทีเดียว เพราะก่อนหน้านี้มีแต่พุทธเท่านั้นที่ "เตะ" คนอื่นเขาให้มาเข้ากะตัวเอง ดูอย่าง "ผี" และ "พราหมณ์" ในดินแดนนี้เถิด ถูกเตะเข้าวัดด้วยกันทั้งนั้น
2
แน่นอนการที่คนสมัยใหม่จะมองว่า "พุทธศาสนาเป็นวิทยาศาสตร์" มันก็คงมีส่วนดีสำหรับคนสมัยใหม่อยู่บ้าง และบางทีมันก้ทำให้ "คิดเอา" ได้ว่าเป็นการมองพุทธศาสนาแบบเป็นวิทยาศาสตร์ แต่ความริงแล้วมันไม่ใช่อย่างนั้น เพราะ คุณแค่ "เลือก" เอาเฉพาะส่วนที่คุณพอใจและเห็นว่าเข้าได้กับความคิดของตน แต่ตัดส่วนอื่นของศาสนานี้ออก (ย้ำว่าศาสนานี้เกิดขึ้นมาก่อนวิทยาศาสตร์ และคนที่ "นับถือ" และ "สืบทอด" มันมา ก็ไม่ได้คิดว่ามันเป็นแบบนั้น) ดังนั้นหากจะมี "พุทธศาสนาที่เป็นวิทยาศาสตร์" เกิดขึ้น มันหมายถึงการ "ปฏิรูปคำสอน"
2
ไม่ใช่ "การหวนกลับไปหา" คำสอนเก่า ทั้งไม่ใช่การ "รื้อฟื้น" คำสอน (เสียใจด้วยสำหรับใครที่อยากเป็นนักเรเนซองส์แห่งพุทธศาสนา) และที่สำคัญที่สุด มันหมายถึงว่าคุณไม่ได้ศึกษาพุทธศาสนา "แบบเป็นวิทยาศาสตร์" เลยทีเดียวล่ะ
2
โฆษณา