ประเด็นที่น่าสนใจ 3 ข้อ ของหุ้น QH
1. QH เป็นHoldingที่ถือหุ้น HMPRO LHFG QHPF QHHR อารมณ์คล้ายๆกับINTUCH ADVANC ถ้ามีบริษัทใหญ่ๆสนใจจะเข้ามาซื้อHMPRO อาจจะใช้วิธีtakeover offer QHแทนคุ้มกว่า และQHอาจจะถูกปลดล็อคมูลค่าตอนนั้น
2. QH ลงบัญชี HMPRO โดยใช้Equity Method ซึ่งจะลงบันทึกHMPROเป็นเงินลงทุนที่โดยใช้P/BV=1 ทำให้งบดุลของQHไม่ได้สะท้อนสินทรัพย์อย่างHMPROที่ควรเทรดกันP/BVสูง จากการที่ROEของHMPROสูง ถ้าบันทึกบัญชีด้วยวิธี FVOCI โดยวัดจากMarket Value อาจจะทำให้P/BV ของQH เหลือไม่ถึง0.5เท่า หรือสรุปสั้นๆว่า งบดุลของQH ไม่ได้แสดงสินทรัพย์ที่บริษัทนั้นมีจริงๆ
3. ในสภาวะดอกเบี้ยสูง QHมีหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยน้อย แถมหลายปีที่ผ่านมาหนี้สินมีทิศทางลดลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นหุ้นที่ไม่ได้มีปัญหากับดอกเบี้ยเหมือนกับอสังหาเจ้าอื่นๆที่หนี้เยอะ
ประเด็นนี้น่าสนใจเพราะที่ผ่านมา บริษัทมีPayout ratio แค่ราวๆ 0.65 เหตุผลเป็นเพราะว่า ถ้าไปดูงบกระแสเงินสด จะพบว่ากระแสเงินสดจากกิจกรรมหาเงิน จะติดลบอยู่เรื่อยๆจากการ”ชำระหนี้คืน” ถ้าเงินไม่ถูกไปชำระหนี้ ก็ควรถูกจ่ายมาเป็นปันผลแทน ซึ่งถ้าpayout ratioของQH เพิ่มไปเป็น0.80 จะทำให้ dividend yield อาจจะขึ้นไปราวๆ8.5% โดยยังไม่รวมการเติบโต โดยถ้าบริษัทสามารถโตเฉลี่ยได้ปีละ1.5%และเพิ่มpayoutเป็น0.80 ก็อาจจะให้Dividend Yieldสูงถึง10%ได้
ส่วนตัวคิดว่า QH คงไม่ขายHMPROออกมา ซึ่งก็คงไม่น่าจะปลดล็อคมูลค่าตรงนี้ที่ซ่อนอยู่(แต่ก็เห็นsynergyของบริษัท โดยเวลาขายบ้าน ใช้วิธีให้ส่วนลดเป็นการไปใช้จ่ายในHMPROหรือการให้ดอกเบี้ยบ้านเวลาซื้อบ้านกับQHในอัตราพิเศษจากLHBANK) UpsideของQHจะเป็นการนำเงินที่เคยใช้ชำระหนี้มาจ่ายปันผล ทำให้payoutเพิ่มจนปันผลเพิ่มขึ้น รวมกับการเติบโตของHMPROจะช่วยเพิ่มปันผลของQHไปเรื่อยๆ อยู่นิ่งๆรับปันผลไปเรื่อยๆ6-10% ก็คิดว่าดีกว่าฝากเงินและซื้อตราสารหนี้
ประเด็นต่อมาคือคำถามโลกแตก ว่า LH หรือ QH อะไรน่าสนใจกว่า อารมณ์เหมือนคำถามว่าINTUCHหรือADVANCดี บางคนก็อาจจะบอกว่า งั้นก็ลงไปอย่างละครึ่งๆ แต่สำหรับผมแล้ว ส่วนตัวผมจะเลือกแค่ตัวเดียว เพราะจะได้ไม่ต้องตามหลายตัว และถ้าเปรียบเทียบการลงทุนที่ให้กระแสเงินสดเยอะกว่า แถมความเสี่ยงน้อยกว่า ผมก็คงเลือกสิ่งนั้นอันเดียว คงไม่แบ่งเงินครึ่งหนึ่งไปลงของที่เสี่ยงกว่าแถมได้กระแสเงินสดน้อยกว่า
ภาพแรก LH, ภาพสอง QH
เหตุผลที่ผมคิดว่าQHในอนาคต จะดีกว่า LH ก็คือ
1. LHมีสัดส่วนกำไรของHMPRO เพียงแค่22.61% ซึ่งกำไรหลักๆยังมาจากธุรกิจอสังหา และธุรกิจอสังหานั้นไม่ค่อยมีcustomer loyaltyเพราะก็คงไม่ค่อยมีใครที่ซื้อบ้านแล้วกลับมาซื้อบ้านใหม่เรื่อยๆทุกปี ต่างจากธุรกิจค้าปลีก สินค้าใช้แล้วหมดไปหรือพังแล้วต้องซื้อใหม่ที่จะมีdemandจากลูกค้ากลุ่มเดิมๆมาเรื่อยๆ เหมือนกับสมการเส้นตรง mx+c ที่QHมีฐานc ที่แข็งแรงกว่า ในขณะที่ LH ต้องพึ่งพาตัวแปรจากธุรกิจอสังหามากกว่าในการคงกำไรในระดับสูง
2. จากที่ดูแนวโน้มการกู้ยืมตั้งแต่ปี2557-2565 LHมีแนวโน้มก่อหนี้เพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะที่สวนทางกับQHที่หนี้ลดลงทุกปี เราก็คงไม่ชอบหุ้นที่หนี้เยอะๆอยู่แล้ว เพราะถ้าเกิดวิกฤติอะไรขึ้นมาจะลำบากกว่าคนที่หนี้น้อย
3. Payout ในอดีต LH จะอยู่ที่0.8-0.95 ในขณะที่QHอยู่ที่0.6-0.7 ตรงนี้เป็นประเด็นที่เชื่อมกับข้อ2 เพราะการที่LHสามารถmaintainปันผลสูงได้ สาเหตุหลักมาจากPayout ratioสูง และที่เป็นแบบนั้นได้ก็เพราะไปกู้เงินมาเพิ่มเพื่อจ่ายปันผล ข้อที่ผมกังวลคือ ถ้าวันหนึ่งหนี้LHเยอะเกินไป แล้วกู้เพิ่มไม่ได้ ยิ่งช่วงดอกเบี้ยสูงก็กู้เยอะไม่ได้เพราะกำไรหดตัวแน่ ในอนาคตLHจะนำเงินจากไหนมาจ่ายปันผลในระดับเดิม กลับกันกับQHที่ชำระหนี้ลดลงทุกปี พอหมดภาระหนี้แล้ว จะมีupsideของปันผล จากการที่Payout ratioเพิ่มเป็น0.8-0.9ได้
ซึ่งสรุปได้ว่า ในความคิดเห็นส่วนตัวของผมนั้น QHดูเสี่ยงน้อยกว่าและดูมีแนวโน้มจะให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าLH จากการที่มีสัดส่วนกำไรจากธุรกิจที่มั่นคงกว่า ภาระหนี้สินที่น้อยกว่า และ ศักยภาพในการปันผลในอนาคตที่สูงกว่าLH จึงทำให้ส่วนตัวผมคิดว่าQHน่าสนใจกว่าLH
Disclaimer: การลงทุนมีความเสี่ยง โพสนี้เป็นการแชร์ไอเดียแนวคิดการลงทุนในหุ้นQH ผู้อ่านควรไปศึกษาเพิ่มเติมและตัดสินใจเอง เพราะผมไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียกับกำไรขาดทุนของท่าน
- 30
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
