27 ต.ค. 2023 เวลา 12:19 • หนังสือ

📗 REVIEW: #สู้จนเลือดหยดสุดท้ายเป้าหมายฉันต้องได้เด เล่ม 1-3

ผู้เขียน : เยี่ยนไป๋ไป๋
ผู้แปล : ติงติง
#Lilac
6 เล่มจบ
.
---
*รีวิวนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน*
ที่ตัดสินใจอ่านนิยายเรื่องนี้เพราะพล็อตมันค่อนข้างแหวกไปจากที่รู้จัก มันคือรายการเซอร์ไวเวิล + พล็อตเกมแบบเซอร์ไวเวิล มารวมกัน แล้วมันออกมาได้ค่อนข้างอร่อยมากทีเดียว
"อูจิ่น" เด็กหนุ่มอาย 19 หน้าหล่อเหลาฟ้าประทาน อนาคตไอดอลตำแหน่งเต้นหลักที่สังกัดตั้งใจปั้น กำลังเตรียมตัวจะลงแข่งขันรายการเซอร์ไวเวิลปั้นเด็กฝึกไปเดบิวต์เป็นไอดอล แต่ดันจับพลัดจับผลูทะลุไปโลกอนาคต จากที่จะเดบิวต์เป็นไอดอลก็ดันต้องไปเดบิวต์เป็นนักเซอร์ไวเวอร์ในรายการเซอร์ไวเวิลแทน
ไอ้รายการนี้มีปืนทุกรูปแบบให้เลือกสรร แถมผู้แข่งขันคนอื่นๆ ก็ล่ำบึ้กกล้ามใหญ่กันทุกคน ท่ามกลางคนกล้ามแน่นทั้งหลาย อูจิ่นเป็นคนเดียวที่ผอมเพรียวแถมมีใบหน้ากระชากใจ ทักษะสู้ติดลบ แต่ใบหน้ากลับเรียกสปอนเซอร์ได้ดีที่สุด แฟนคลับโพแม่ปักธงกันเป็นแถว
และในรายการนั้น อูจิ่นได้รู้จักกับ "พี่ใหญ่" หรือก็คือ "เว่ยสือ" ผู้แข็งแกร่งที่ดูเหมือนจะเข้ามาในรายการด้วยการพยายามปกปิดความแข็งแกร่งเอาไว้ ทั้งเงียบครึมและความลับเยอะ เรียกว่าแข่งมาหลายด่านก็ยังไม่เคยได้ออกกล้อง (เพราะพี่เล่นยิงกล้อง เตะกล้องกระจุย) แต่พี่ใหญ่คือเซฟโซนของอูจิ่น เจ้ากระต่ายน้อยคนนี้ก็ดันนุ่มนิ่มถูกใจพี่ใหญ่ซะด้วย
ดังนั้นในรายการเซอร์ไวเวิลที่ต้องหยิบปืนมาสู้ทั้งยังต้องตะลุยด่านมากมาย ฝ่าเด็กฝึกหลายร้อยคนเพื่อเข้าสู่ตำแหน่งเดบิวต์ให้ได้ อูจิ่นจึงต้องพยายามให้หนัก พร้อมกันนั้นก็ต้องจัดการกับหัวใจตัวเองไปด้วย แต่ถึงจะพูดแบบนี้แต่แค่ช่วงเล่ม 2 พระนายเค้าก็ชอบกันละ เข้าเล่ม 3 ก็คบกันอย่างเป็นทางการ (และจูบกันบ่อยมาก คนอ่านนั่งเบ้ปากใส่แล้ว 5555)
ด่านแต่ละด่านที่เด็กฝึกต้องผ่านมีทุกสไตล์ ทุกธีมเลย เพราะวิทยาการที่ล้ำหน้าจึงสามารถสร้างโลกเสมือนหรืออะไรที่คล้ายๆ แนว Escape room ออกมาได้ (ซึ่งแต่ละธีมก็จะแบบ คิดได้ไงวะ 5555) ถ้านึกภาพไม่ออกก็คล้ายๆ พวกนิยายเซอร์ไวเวิลทั้งหลายที่ต้องเข้าดันเจี้ยนไปสู้ ไปไขปริศนาอะไรทำนองนี้ แต่มันก็จะมีชีวิตประจำวันของเด็กฝึก มีถ่ายโฆษณา มีคู่ CP มีเต้นเพลงธีมด้วย อห!! อันนี้ขำสุด นึกสภาพหนุ่มกล้ามโตถือปืนถูกบังคับให้มาเต้นนะ
ตัวละครในเรื่องมีหลายตัวมากที่ตกหัวใจเราได้ นี่คิดว่ามันคือข้อดีของนิยายแนวนี้แหละ เพราะมีตัวละครเยอะและแต่ละคนก็มีคาแรคเตอร์แตกต่างกันไป เรารักตัวละครหลายตัวเลย แต่ที่แอบชอบคือช่วงที่นิยายมันตลกมันก็ตลกจนแทบตกเก้าอี้อ่ะ อันนี้ยอมรับจริงๆ ว่ามุกในนิยายมันขำมาก หลุดหัวเราะออกเสียงหลายรอบมาก (ซึ่งไอ้คนที่ตลกที่สุดคือผู้ชายชื่อซีซาร์ค่ะ จำชื่อนี้เอาไว้ให้ดี 5555)
ส่วนจุดด้อย...ไม่แน่ใจว่าสามารถพูดว่าจุดด้อยได้มั้ย เพราะถ้าคนที่ชอบก็คือชอบเลย คนไม่ชอบก็อาจจะเบื่อๆ หน่อย คือธีมการแข่งในแต่ละด่าน มันหลากหลายมากและส่วนใหญ่ก็ beyond ความคิดเราไปมากโข (หรือเราโง่วะ) คนที่ชอบแนวๆ ลงดันไขปริศนาอาจจะชอบ แต่ปกติเราอ่านอะไรแบบนี้ไม่ค่อยเข้าใจ (เราน่าจะโง่เองจริงๆ) เลยแบบงงๆ กับอีกอย่างคือแต่ละด่านจะมีประวัติของมัน
เช่น ด่านในเล่ม 3 เป็นพระราชวังแวร์ซายส์ก็จะมีการร่ายประวัติพระเจ้าหลุยส์ที่ 14-16 ร่ายความเป็นฝรั่งเศสใดๆ มา ยาวหลายหน้ามาก หรือช่วงปลายเล่ม 2 - ต้นเล่ม 3 เป็นด่านโลกดึกดำบรรพ์มีไดโนเสาร์ คุณจะได้ผจญกับการเปลี่ยนผ่านในยุคต่างๆ ประวัติไดโนเสาร์ต่างๆ ซึ่งอันนี้บางทีมันเยอะไปหน่อยเลยอ่านแบบข้ามๆ ไป
ถ้าให้เปรียบเทียบก็เช่น ถ้าคุณเคยอ่านยอดเซียนสตาร์การ์ด ก็จะเห็นว่าตอนที่นายเอกสร้างการ์ดตัวละครจะร่ายประวัติตัวละครออกมาสักหน้าหนึ่งบ้าง สองหน้าบ้างไรงี้ แต่อันนี้จะยาวกว่านั้นคือแทรกไปเกือบทั้งด่านเลย ซึ่งอันนี้ก็แล้วแต่คนนะ เราเห็นคนอ่านคนนึงเบื่อการร่ายของสตาร์การ์ดแต่กลับชอบไอ้พวกประวัติเหล่านี้ในสู้จนเลือดหยดสุดท้ายฯ แต่กลับกันเราชอบอ่านประวัติในสตาร์การ์ด แต่กลับไม่ชอบในสู้จนเลือดหยดสุดท้ายฯ เท่าไหร่ น่าจะแล้วแต่คนจริงๆ
แต่ถ้าตัดตรงนี้ออกไปเราชอบทุกอย่างในเล่มเลย ชอบความสัมพันธ์พระนาย ตัวเว่ยสือมีประวัติความเป็นมาที่ค่อนข้างรันทดและอยู่ในช่วงเยียวยา ก็ได้อูจิ่นมาเป็นซัพพอร์ตโซนให้ ส่วนอูจิ่นยังไม่เฉลยแต่ก็พอเดาได้ว่าวัยเด็กน่าจะไม่ค่อยดี อิพี่เว่ยสือก็เหมือนจะเดาได้เหมือนกัน น่าจะเฉลยช่วงหลังจากนี้
ตัวละครอื่นๆ อย่างที่บอกไปว่ามีเสน่ห์มาก เราชอบพวกเขาแทบทุกคนเลย แม้แต่ตัวละครตัวนิดตัวน้อยที่ออกมาแวบๆ ยังชอบ แล้วมุกตลกมันตลกมาก อะไรพวกนี้มันทำให้อยากตามต่อ และก็อยากเชียร์ให้ลองอ่าน มันอาจมีจุดที่ไม่ได้ถูกใจทุกคน แต่หักๆ ไปแล้วคะแนนโดยรวมก็ยังสูงมากอยู่ดี
.
🔖#นิยายแปล #แนะนำนิยาย #สู้จนเลือดหยดสุดท้ายเป้าหมายฉันต้องได้เด
โฆษณา