29 ต.ค. 2023 เวลา 06:00 • ธุรกิจ

เปิดปูมธุรกิจ ‘รัสเซียน โอนลี่’ เมื่อรัสเซียยึดงานคนไทยในคราบ ‘นักท่องเที่ยวภูเก็ต’

ส่งเสริมเศรษฐกิจ VS แย่งอาชีพคนในพื้นที่? รู้จัก “รัสเซียน โอนลี่” ธุรกิจของคนรัสเซียเพื่อคนรัสเซีย ชาวบ้านชี้ ธุรกิจ “รัสเซียน โอนลี่” โตพุ่ง กระทบผู้ประกอบการไทย แฝงมาในคราบนักท่องเที่ยว ครอบคลุมแท็กซี่-นำเที่ยว-ตัดผม-ค้าบริการทางเพศ
นักท่องเที่ยวรัสเซียในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจนสร้างแรงกดดันให้กับราคาอสังหาริมทรัพย์ จักรยานยนต์ และรถยนต์บนเกาะภูเก็ต โดยเฉพาะกลุ่มเศรษฐีชาวรัสเซียที่ได้รับ “Thailand Elite Visa” สามารถพำนักในประเทศได้นานสูงสุด 20 ปี หลายคนกว้านซื้อโรงแรม ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก และธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเซกเตอร์การท่องเที่ยวมาเป็นของตัวเอง
1
จากเดิมที่ชาวรัสเซียอยู่ในสถานะ “นักท่องเที่ยว” มาตอนนี้ได้กลายเป็น “คู่ค้า” ที่ค่อนไปทาง “คู่แข่ง” ทั้งยังมีอำนาจต่อรองสูงกว่าเพราะถือครองทรัพยากรที่มีแต้มต่อสูง
เว็บไซต์ “เดอะสตาร์” (The Star) ระบุว่า “สเตฟาน ซิช” (Stefan Zich) ผู้จัดการโรงแรมนอกชายฝั่งภูเก็ตให้สัมภาษณ์ว่า ชาวรัสเซียในภูเก็ตขึ้นชื่อเรื่องพฤติกรรมไม่ดี มีเรื่องทะเลาะวิวาทและความรุนแรงจากความมึนเมา รวมทั้งอุบัติเหตุทางจราจรจากการขับขี่ก็เกิดขึ้นบ่อยครั้งด้วย นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาลป่าตองยังให้ข้อมูลกับ “เดอะสตาร์” ว่า ชาวรัสเซียติดอันดับการถูกจับกุมในภูเก็ตฐานก่ออาชญากรรม โจรกรรม ไปจนถึงประมาทจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย รวมทั้งข้อหาที่เกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดก็ด้วย
ชาวรัสเซียไม่เพียงเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในฐานะผู้ประกอบการแต่ยังประกอบอาชีพในท้องถิ่น-ขึ้นแท่นคู่แข่งคนในพื้นที่ ตั้งแต่ตำแหน่งมัคคุเทศก์ พนักงานขับรถ ไปจนถึงหมอนวดเพื่อบริการให้กับนักท่องเที่ยวรัสเซียโดยเฉพาะ นักท่องเที่ยวเหล่านี้ใช้วิธีการต่ออายุวีซ่าท่องเที่ยวทุกๆ 30 วัน บวกกับความสามารถทางภาษาที่มีเป็นทุนเดิมในการหารายได้และประกอบอาชีพอย่างผิดกฎหมาย
โดยมีภาวะสงครามที่ยังคุกรุ่นเป็นชนวนเหตุทำให้ชาวรัสเซียเหล่านี้แฝงตัวในคราวนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ชายชาวรัสเซียบางคนยอมรับว่า พวกเขาไม่อยากกลับบ้านอันเนื่องมาจากประกาศเกณฑ์ทหารฉบับใหม่ที่มีการขยายเพดานอายุ เสริมกำลังพลเตรียมพร้อมสำหรับภาวะสงครามที่ยังไม่สงบลงทุกเมื่อ
ด้านสำนักข่าว “อัลจาซีรา” (Aljazeera) ระบุว่า นับตั้งแต่เดือนมกราคมถึงกรกฎาคม 2566 มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเดินทางมายังภูเก็ตแล้ว 400,000 คน เพิ่มขึ้นสองเท่าเมื่อเทียบกับก่อนเกิดความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน “ประยุทธ์ ทองมุกสิก” ประธานชมรมผู้ขับรถตู้ภูเก็ตและตัวแทนผู้ประกอบการรถสองแถวในภูเก็ตให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นดังกล่าวว่า
ชาวรัสเซียนำรถที่ไม่ได้จดทะเบียนกับกรมขนส่งเข้ามาประกอบกิจการรับนักท่องเที่ยวที่จองรถผ่านแอปพลิเคชันจากรัสเซียโดยตรง โดยใช้วิธีการ “ตัดราคา” ถูกกว่าผู้ประกอบการเดินรถในไทยราว 20%
“ประยุทธ์” แสดงความกังวลว่า จากที่เคยคิดว่านักท่องเที่ยวเหล่านี้ช่วยกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวมากขึ้น อาจกลายเป็นว่า “เงินรูเบิล” ทั้งหมดจะตกเป็นของรัสเซียเสียเอง โดยในเพจเฟซบุ๊กท้องถิ่นมีโพสต์รวบรวมความกังวลที่เพิ่มขึ้นของคนในท้องถิ่นที่เกรงว่า งานของพวกเขาจะถูกคุกคามมากขึ้นเรื่อยๆ และท้ายที่สุดคนไทยอาจกลายเป็นเจ้าของธุรกิจในฉากหน้าโดยมีนักลงทุนรัสเซียอยู่เบื้องหลัง
1
ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ตำรวจภูเก็ตได้เข้าจับกุมชาวรัสเซีย 3 คนที่ประกอบอาชีพเปิดร้านตัดผมหลังจากทางการได้รับเรื่องร้องเรียนจากชาวบ้านในพื้นที่ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ถูกแจ้งข้อหาฝ่าฝืนกฎหมายทำงานที่สงวนไว้ให้คนไทยเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีรายงานเกี่ยวกับหญิงสาวในสถานบันเทิงยามค่ำคืนบนถนนบางลาพบว่า เป็นชาวรัสเซียที่มุ่งเน้นให้บริการลูกค้าชาวรัสเซียเป็นหลัก
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเจ้าหน้าที่ในจังหวัดจะยืนยันว่า กลุ่มชาวรัสเซียที่ทำผิดกฎหมายเป็นเพียงส่วนน้อยบนเกาะภูเก็ต แต่การขยายตัวอย่างรวดเร็วที่เกิดขึ้นได้สร้างความกังวลให้กับผู้ค้าท้องถิ่นไม่น้อยจนมีเสียงเรียกร้องไม่พอใจกับการมีอยู่ของกลุ่มคนเหล่านี้เพิ่มขึ้น ถึงอย่างนั้นประเด็นดังกล่าวก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อนอย่างเสียไม่ได้ เนื่องจากเศรษฐกิจของภูเก็ตพึ่งพาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกว่า 80% การเข้ามาของชาวรัสเซียจึงมีความสำคัญต่อท้องถิ่นอย่างมาก
โฆษณา