ทำไม INTUCH มีกำไร มากกว่ารายได้
ปกติแล้ว บริษัทส่วนใหญ่จะมีกำไรน้อยกว่ารายได้ เพราะเมื่อมีรายได้ เราต้องไปหักต้นทุนและค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ส่วนที่เหลือ จึงเป็นกำไร
แต่ก็ไม่ใช่ทุกบริษัทที่เป็นแบบนี้ เพราะกรณีของ บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์ หรือ INTUCH นั้น บริษัทกลับมีกำไรมากกว่ารายได้เป็นอย่างมาก
เรื่องนี้ เป็นไปได้อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ถ้าเราลองมาดู ภาพรวมรายได้และกำไรของ INTUCH ที่ผ่านมา
ปี 2565
รายได้ 61 ล้านบาท
กำไร 10,533 ล้านบาท
6 เดือนแรก ปี 2566
รายได้ 21 ล้านบาท
กำไร 5,572 ล้านบาท
โดยสาเหตุที่ทำให้ INTUCH มีกำไรมากกว่ารายได้ เพราะว่าทำธุรกิจโฮลดิง ซึ่งแตกต่างจากบริษัททั่วไป
โมเดลของธุรกิจทั่วไป รายได้จะมาจากการขายหรือบริการ
แต่สำหรับธุรกิจโฮลดิง จะได้รับเป็นผลตอบแทน จากการเข้าไปถือหุ้นในบริษัทอื่น แบ่งเป็น 3 แบบ ตามสัดส่วนการถือหุ้น
แบบที่ 1 ถือหุ้นไม่เกิน 20%
สำหรับมูลค่าของบริษัทที่เข้าไปลงทุน จะถูกบันทึกเป็น “เงินลงทุนสุทธิ” ในงบดุล หรืองบที่บอกว่าบริษัทมีสินทรัพย์ หนี้สิน หรือส่วนของผู้ถือหุ้นเท่าไร
ซึ่งถ้าหากบริษัทที่เข้าไปลงทุน อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ จะถูกบันทึกด้วยราคาทุน
แต่ถ้าหากเป็นหุ้นของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
จะสามารถบันทึกได้ 2 แบบ ได้แก่
- แบบเพื่อค้า
บันทึกเงินลงทุน ตามราคาหุ้นบนกระดาน ในวันสิ้นงวด
โดยส่วนต่างของราคาหุ้นที่ขึ้นลง จะถูกบันทึกลงในงบกำไรขาดทุน ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรต่อหุ้น แม้จะยังไม่ได้ขายหุ้นก็ตาม
- แบบเผื่อขาย
บันทึกเงินลงทุน ตามราคาหุ้นบนกระดาน ในวันสิ้นงวด
โดยส่วนต่างของราคาหุ้นที่ขึ้นลง จะถูกแยกไปบันทึกไว้ในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จอื่น ซึ่งจะไม่กระทบกับกำไรต่อหุ้น หากยังไม่ได้ทำการขาย
ในขณะที่หากกิจการเหล่านั้น มีผลตอบแทนในรูปแบบของเงินปันผล บริษัทที่เข้าไปลงทุน ก็จะนับว่าเงินปันผลส่วนนี้ เป็น “รายได้ของบริษัท”
แบบที่ 2 เข้าซื้อกิจการ หรือเข้าไปถือหุ้น เกิน 50%
จนมีอำนาจในการควบคุมบริษัท
วิธีนี้ บริษัทแม่ จะต้องบันทึกรายการต่าง ๆ ของบริษัทลูก เสมือนเป็นอีกหน่วยธุรกิจของบริษัทไปเลย
แบบที่ 3 จะเป็นกรณีของ INTUCH ก็คือ เข้าไปถือหุ้นบริษัทอื่น ในสัดส่วน 20% แต่ไม่เกิน 50% ขึ้นไป
โดยงบแสดงฐานะทางการเงิน จะมีการบันทึกมูลค่าของบริษัทลูกที่เข้าไปถือหุ้น ในรายการเงินลงทุน ในบริษัทร่วมในรูปแบบเงินทุน
บวกกับส่วนแบ่งกำไร หรือขาดทุน แล้วนำมาหักด้วยเงินปันผลรับ
ในขณะที่ งบกำไรขาดทุน ก็จะมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรขาดทุนด้วย ตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทลูก ซึ่งตรงนี้จะไม่ได้ถือเป็นรายได้เหมือนกับเงินปันผล แต่จะเป็น “ส่วนแบ่งกำไร หรือขาดทุนจากบริษัทร่วม”
ปัจจุบัน ส่วนแบ่งกำไรที่ INTUCH ได้รับ มาจากการถือหุ้นใน บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส หรือ ADVANC เจ้าของเครือข่าย AIS ในสัดส่วน 40.44%
ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2566 ADVANC แบ่งส่วนแบ่งกำไรให้ INTUCH ถึง 5,636 ล้านบาท
ซึ่ง INTUCH มีผลตอบแทนหลัก ๆ มาจาก ADVANC นั่นจึงทำให้กำไรของ INTUCH มากกว่ารายได้นั่นเอง
ปิดท้ายด้วยข้อมูลที่น่าสนใจ
รู้หรือไม่ว่า บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ หรือ GULF ที่มีเจ้าของเป็นคุณสารัชถ์ รัตนาวะดี เศรษฐีอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 1 ของ INTUCH พูดง่าย ๆ ก็คือ เหมือนไปเป็นผู้ถือหุ้นทางอ้อมใน ADVANC
โดย GULF ถือหุ้น INTUCH ในสัดส่วน 41.91% คิดเป็นมูลค่าราว 95,000 ล้านบาท
และก็ยังถือหุ้นใน GGC และกิจการร่วมค้าในโอมาน โดยทั้ง 3 ธุรกิจนี้ GULF ได้รับส่วนแบ่งกำไรมา 3,844 ล้านบาท ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ คิดเป็นครึ่งหนึ่ง ของกำไรทั้งหมด เลยทีเดียว..
References
-แบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี/รายงานประจำปี 2565, บมจ.อินทัช โฮลดิ้งส์
- 98
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
