ทำความรู้จัก "Cold Brew" เครื่องดื่มสกัดเย็นยอดนิยม
เครื่องดื่มสกัดเย็นที่หลายคนคุ้นเคยตามคาเฟ่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะเรียกกันว่า Cold Brew ซึ่งอาจจะมีทั้ง Cold brew coffee หรือ Cold brew tea เรียกง่าย ๆ ว่าเครื่องดื่มอะไรก็ตามที่นำมาต่อท้ายด้วย Cold brew คือเครื่องดื่มสกัดเย็นแบบไม่ผ่านความร้อนค่ะ
History of Cold brew coffee
กาแฟ Cold Brew มีต้นกำเนิดในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมาจากวิธีการชงกาแฟแบบดั้งเดิมที่เรียกกันว่า Slow drip cold brew ชาวญี่ปุ่นนิยมทำกันมานานมากแล้ว โดยการนำกากกาแฟมาแช่ไว้ในน้ำที่อุณหภูมิห้องเป็นเวลาหลายชั่วโมง
ต่อมาในช่วงต้นทศวรรษ 1990 วิธีการดังกล่าวก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลกอีกครั้งเมื่อ ท็อดด์ ซิมป์สัน ได้คิดค้นกาแฟสกัดเย็นเวอร์ชันใช้เองโดยใช้อุปกรณ์ที่เรียกว่า Coffee Filtron ในการสกัด เพราะเขาต้องการดื่มกาแฟยามเช้าที่มีรสชาติดียิ่งขึ้น
หลังจากได้ทดลองทำกาแฟสกัดเย็น ด้วยเครื่องสกัดกาแฟที่เขาคิดค้นมาแล้ว กาแฟมีรสชาติที่อร่อยขึ้นจริง ๆ และเป็นที่ชื่ชอบในหมู่เพื่อนของเขา ในเวลาต่อมาเขาจึงมีความคิดที่จะจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Coffee Filtron และได้ก่อตั้งบริษัท Filtron ขึ้นมาในปี 1995 ซึ่งทำให้บริษัทของเขากลายเป็นหนึ่งในบริษัทแรกๆ ที่ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสกัดกาแฟ และกาแฟสกัดเย็น
Cold brew coffee
กาแฟสกัดเย็น หรือ กาแฟ Cold Brew เป็นเครื่องดื่มที่ต้องใช้ความพิถีพิถัน และใช้เวลาในการชงที่ค่อนข้างนาน โดยวิธีการทำจะต้องนำเมล็ดกาแฟบดหยาบใหม่ ๆ มาแช่ไว้ในน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง เป็นเวลาประมาณ 8 – 24 ชั่วโมง เมื่อครบกำหนดให้กรองเฉพาะน้ำออกมา แล้วนำมาผสมน้ำแข็งดื่มได้เลย หรือจะนำไปผสมนม แต่งกลิ่นก็ได้เช่นกัน โดยวิธีการนี้จะทำให้กาแฟมีรสชาติขมฝาด หรือเปรี้ยวน้อยลง แต่ยังคงรสชาติของความเป็นกาแฟได้อย่างครบถ้วน
การชงแบบสกัดเย็นจะทำให้กาแฟมีระดับความเป็นกรดต่ำ และมีคาเฟอีนน้อยกว่าการชงแบบร้อน เพราะรสชาติของกาแฟจะค่อยๆ ถูกดึงออกมาอย่างช้าๆ ไม่เหมือนกับการใช้น้ำร้อน ที่รสชาติความเข้มข้นจะถูกดึงออกมาอย่างรวดเร็ว โดยน้ำเย็นจะช่วยสกัดเอาไขมัน และกรดออกมาน้อยกว่าการใช้น้ำร้อน นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมกาแฟสกัดเย็นจึงมีรสชาติที่นุ่มนวล ความขมน้อยลง และตามมาด้วยความหวานที่มากขึ้น ทำให้ดื่มได้ง่าย แม้แต่คนที่ไม่ชอบดื่มกาแฟก็สามารถดื่มได้ค่ะ
Cold brew tea
ชาสกัดเย็น หรือ Cold brew tea เป็นการนำใบชาไปแช่ในน้ำเย็น หรือน้ำอุณหภูมิห้อง แล้วกรองเฉพาะน้ำชาที่ได้ออกมา แน่นอนว่าเมื่ออุณหภูมิของน้ำแตกต่างกัน รสชาติที่ได้จึงแตกต่างกันด้วย การชงชาด้วยน้ำร้อนจะดึงสารในใบชาออกมาในปริมาณมาก ทำให้ชาที่ได้มีรสขม และหากทิ้งไว้ซักพักชาจะมีรสชาติเปลี่ยนไป แต่ถ้าหากเป็นชาสกัดเย็น ชาที่ได้จะมีรสชาติอ่อนนุ่ม ละมุน ไม่ขม เพราะรสชาติของใบชาจะถูกดึงออกมาอย่างช้าๆ และให้รสชาติคงที่กว่า
วิธีการทำชาสกัดเย็น นั้นไม่ยากเลยค่ะ เพราะมีวิธีการทำคล้ายกาแฟสกัดเย็น แต่ใช้เวลาในการแช่น้อยกว่า ทั้งนี้ระยะเวลาในการแช่ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของใบชาด้วยค่ะ เช่น ชาเขียว ชาขาว หรือชาสมุนไพร ใช้เวลาแช่เย็นประมาณ 2-6 ชั่วโมง ถ้านานกว่านี้อาจจะมีรสขมได้ ในขณะที่ชาอู่หลง หรือชาดอกไม้ใช้เวลานานขึ้นเล็กน้อย 6-10 ชั่วโมง
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
