29 ต.ค. 2023 เวลา 11:56 • ไลฟ์สไตล์

- ความทรงจำและมิตรภาพ -

‘ความทรงจำ’ และ ‘มิตรภาพ’ นั้นเป็นสิ่งที่ทุกท่านน่าจะเคยได้รับรู้และสัมผัสทั้งโดยทางตรงและทางอ้อม มีคำสุภาษิตโบราณ คำคมของนักปราชญ์ที่เกี่ยวข้องกับ 2 สิ่งนี้อยู่ไม่น้อย เช่น ‘อยากลืมกลับจำ อยากจำกลับลืม’ หรือ ‘มิตรภาพต้องใช้เวลาสร้างกว่าชั่วชีวิตแต่สามารถพังทลายลงได้ภายในเพียงชั่วพริบตา’
ความทรงจำคือข้อมูลที่ถูกบันทึกลงในสมอง ผ่านกิจกรรมต่างๆ ที่ได้มีโอกาสกระทำร่วมกันกับคนรอบข้าง เพื่อน พ่อแม่พี่น้องญาติ หรือคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตด้วยกัน ซึ่งแน่นอนว่าย่อมมีทั้งความทรงจำของเรื่องที่ดีและไม่ดี ถ้าเราสามารถเลือกจดจำแต่ความทรงจำที่ดี และตัดความทรงจำของเรื่องร้ายๆ ออกไปได้ ก็คงจะดีไม่น้อย
แต่แล้วความทรงจำของเรื่องร้ายๆ ในอดีตที่ไม่อยากจดจำ ทำไมยังฝังลึกอยู่ในสมองเราไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานกี่ปีก็ตาม เช่น วันเกิดของแฟนที่เป็นรักแรกพบ (แต่ถูกบอกเลิกทีหลัง) ญาติหรือเพื่อนสนิทหลอกยืมเงินแล้วไม่คืน หรือ เหตุการณ์การฆ่าตัวตายของหัวหน้าในที่ทำงาน เป็นต้น ซึ่งงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ในปัจจุบันได้ให้คำอธิบายไว้ว่า ‘สมองจะจดจำเฉพาะในสิ่งที่ทำให้เราสามารถอยู่รอดตามสัญชาตญาณ’ เท่านั้น
เรื่องร้ายๆ ที่เกิดขึ้นในอดีตก็ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ทำให้เราจดจำไม่ลืมจะได้ไม่ทำผิดพลาดอีกในครั้งต่อไป โดนแฟนบอกเลิกก็ต้องพยายามมองคนให้รอบคอบมากกว่าเดิม แล้วก็ต้องมาดูตัวเองด้วยว่าทำผิดอะไรหรือป่าว โดนเพื่อนสนิทหลอกยืมเงินก็ต้องระวังตัวให้มากขึ้น ถ้าไม่จำเป็นก็พยายามอยู่ห่างๆ เพื่อนคนนั้น เจอหัวหน้าฆ่าตัวตายในบริษัท... ก็ต้องทำใจว่าชีวิตคนเรามันสั้นยิ่งนัก ต้องพยายาม ‘ใช้ชีวิตให้มีคุณค่า’ มากที่สุด
ในทางกลับกันเรื่องราวดีๆ บางอย่างที่เราอยากจดจำแต่กลับดันลืมก็มีไม่น้อย ยิ่งถ้าเราไม่มีโอกาสแม้แต่กระทั่งจะ ‘จดจำ’ เรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ เหล่านั้นที่เกิดขึ้นในแต่ละวันหรือกลายเป็น ‘คนที่ไม่สามารถมีความทรงจำ’ แล้วเราจะสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างไร...
ผมได้มีโอกาสดูภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง今夜、世界からこの恋が消えても (Even if This Love Disappears from the World Tonight) นักเรียนหญิง ม.ปลาย คนหนึ่งที่เผอิญโชคร้ายเจออุบัติเหตุทางรถยนต์เพราะพยายามเข้าไปช่วยเหลือชีวิตเด็กคนหนึ่งที่ไม่รู้จัก แต่แล้วทำให้สมองบางส่วนเสียหายและทุกเช้าที่ตื่นขึ้นมา ‘ความทรงจำทุกอย่างในอดีตทั้งหมดก็จะเลือนหายไปทั้งหมด’ คล้ายๆ กับการรีเซ็ตข้อมูลในฮาร์ดดิสก์โดยใช้คำสั่ง Format...
คนรอบข้างก็พยายามช่วยเหลืออย่างเต็มที่ มีการเตรียมสมุดบันทึกประจำตัวให้หญิงสาวได้อ่านทุกเช้า มีการระบุชื่อพ่อแม่และเพื่อนที่สนิทที่ไว้ใจได้ เคยไปเที่ยวทำอะไรที่ไหนกับใคร ฯลฯ โดยให้หญิงสาวคนนั้นจดบันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ได้พบเจอในแต่ละวันเพื่อให้สามารถยังเป็นสิ่งมีชีวิตที่ยังมี ‘ความทรงจำ’ ถึงเรื่องราวต่างๆ ที่ได้เกิดขึ้นกับเจ้าตัวในอดีตที่ผ่านมาเมื่อวาน
แต่แล้วพอได้มาพบกับเพื่อนชายคนหนึ่งที่ค่อนข้างมีปฏิกิริยาทางเคมีและความสัมพันธ์ในเชิงบวก หญิงสาวคนนั้นเริ่มไม่อยากให้ความทรงจำของตัวเองลืมเรื่องราวของเค้าคนนั้น ถึงกับเขียนข้อความลับว่า ‘ห้ามลืมชื่อคนนี้เป็นอันขาด’ ส่วนชายหนุ่มคนนั้นก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้หญิงสาวนั้นกลับมามีความทรงจำเหมือนคนทั่วไป โดยศึกษาหาข้อมูลจนพบว่าความทรงจำบางอย่างที่เกี่ยวข้องกับ ‘การสัมผัสทางร่างกาย’ ของคนเรานั้นไม่สามารถเลือนหายไปได้ง่ายๆ เช่น ทักษะการขี่จักรยาน การวาดภาพศิลปะ เป็นต้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้จบลงด้วยความเศร้าเพราะว่าชายหนุ่มคนนั้นเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจตามกรรมพันธุ์ ซึ่งเจ้าตัวก็พอทราบมาล่วงหน้าแล้วเลยบอกเพื่อนสนิทของนางเอกว่า ‘ให้ลบชื่อของเค้า’ ในสมุดบันทึกประจำตัวของนางเอกทั้งหมด เพื่อที่นางเอกจะได้พบกับความทรงจำใหม่ๆ ที่ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับเค้าในอดีตที่ผ่านมาทั้งหมด...
ในหนังสือเรื่อง ‘วิทยาศาสตร์ว่าด้วยเรื่องคน (Plays Well with Others)’ ซึ่งเขียนโดย Eric Barker ได้ให้ข้อคิดที่น่าสนใจว่า มิตรภาพนั้นเป็นสิ่งที่ค่อนข้างเปราะบาง เพราะว่าไม่เหมือนกับความสัมพันธ์อื่นๆ โดยไม่มีสถาบันรองรับอย่างเป็นทางการ ไม่มีกฎหมาย ศาสนา นายจ้าง หรือสายเลือดมาคอยสนับสนุน... ทำให้เป็นสิ่งที่เปราะบางและอ่อนไหวบริสุทธิ์เป็นอย่างยิ่ง
คำว่ามิตรภาพนั้นเกิดจากความสมัครใจ 100 เปอร์เซ็นต์ โดยไม่มีคำจำกัดความที่ชัดเจน ถ้าอยู่กับภรรยาโดยไม่คุยกันเลยเป็นเวลา 6 สัปดาห์ก็เตรียมตัวรอรับใบหย่าได้เลย ถ้าไม่ไปทำงานที่บริษัท 1 เดือนก็เตรียมตัวโดนไล่ออกได้เลย ถ้าไม่ส่งเสียเลี้ยงดูลูกหลานตัวเอง ก็เตรียมโดนบริบทสังคมและกฎหมายต่างๆ บังคับลงโทษอย่างแน่นอน
ในทางกลับกันถ้าไม่ได้คุยติดต่อกับ ‘เพื่อนสนิท’ หรือรุ่นพี่รุ่นน้องมาหลายสิบปี แต่แค่ได้มีโอกาสมาพบเจอกันอีกครั้ง ความทรงจำต่างๆ ในอดีตที่ดีระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกันนั้นก็หวนกลับมาเองโดยอัตโนมัติผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘มิตรภาพที่แท้จริง’ ซึ่งแวดวงทางวิทยาศาสตร์เองก็พยายามหาคำตอบเพื่อพิสูจน์ความจริงเรื่องนี้
สิ่งที่เราต้องควรระวังเป็นอย่างยิ่งก็คือ ‘มิตรภาพจอมปลอม’ หรือ ‘ศัตรูในคราบมิตร’ คนที่เราเคยเชื่อถือไว้ใจหรือคนที่เราเคยทุ่มเทใจให้แต่กลับถูก ‘หักหลัง’ หรือแม้กระทั่ง ‘แทงข้างหลัง’ แล้วเราควรตอบสนองกับเหตุการณ์เหล่านั้นอย่างไร... (ไม่มีประเด็นทางการเมืองนะครับ)
คำพูดนักปราชญ์ในอดีตที่ว่า ‘มิตรภาพต้องใช้เวลาสร้างกว่าชั่วชีวิตแต่สามารถพังทลายได้ภายในเพียงชั่วพริบตา’ ก็น่าจะเป็นคำอธิบายที่ชัดเจนว่า ตราบใดที่ความทรงจำและความสัมพันธ์ในอดีตเป็นในเชิงบวก มิตรภาพก็จะสานต่อไปเองโดยอัตโนมัติ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม ในทางกลับกันมิตรภาพจอมปลอมถ้าถูกจับได้เมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าจะติดต่อกันมายาวนานหลายสิบปี ทุกอย่างก็สามารถถูกตัดขาดความสัมพันธ์ได้ภายในช่วงเสี้ยววินาที
‘ความทรงจำและมิตรภาพ’ นั้นน่าจะเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องและสัมพันธ์กันไม่น้อย ถ้าไม่มีความทรงจำที่ดี มิตรภาพที่มั่นคงและยั่งยืนผ่านความเห็นอกเห็นใจระหว่างเพื่อนมนุษย์ด้วยกันก็คงไม่สามารถเกิดขึ้นได้...
EP042
Kenko2022
2023/10/29
โฆษณา