30 ต.ค. 2023 เวลา 03:17 • ไลฟ์สไตล์

ในทุกวันเราเจอกับคนเพี้ยนๆ ไม่มีเหตุผลใดๆ ในชีวิต จนทำให้ชีวิตคนรอบข้างเหมือนตกนรกทั้งเป็นมากมาย

หลายเหตุการณ์ที่เราสามารถสังเกตุเห็นความผิดปกติง่ายๆ จากพวกคนโง่ที่ชอบอวดฉลาดพวกนี้ ชอบทำตัวโอเว่อร์แอคชั่น ทำชีวิตประหนึ่งพระเอกหนังในคราบตัวโกง ต่อกรกับคนรอบตัวอย่างไม่รามือกับเรื่องขี้ประติ๋ว ไม่มีสาระ
คนที่ทำทุกวิธีเพื่อที่จะชนะ ใช้ทุกกลยุทธ์เพื่อให้ตัวเองดูเป็นฝ่ายถูก ต่อสู้กับทุกเรื่องราวที่พบเห็น เรื่องเล็กก็ตีกระพือให้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ไว้หน้าใครจะเจ้านายหรือลูกน้อง ญาติฝ่ายไหน เพียงแค่ขัดใจเขาคนนั้นขึ้นมา ก็มีราวีกันจนพังไปข้าง
หากเจอคนแบบนี้ให้หนีห่างให้ไกล เปลืองตัว เปลืองเวลา เอาว่า มาดูกันดีกว่า คนจำพวกไหนที่เราไม่ควรไปข้องแวะและยุ่งเกี่ยวด้วย มาค่ะ จะเล่าให้ฟัง
1. เถียงกับใครก็ชนะทุกครั้ง
2
ลองมองไปรอบๆ ตัวดูสิ มันจะมีคนอยู่บางประเภทที่มีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น คนที่จ้องจับผิดคนอื่น คนที่ชอบพูดเอาความดีเข้าตัว เอาความชั่วโยนให้คนอื่น คนประเภทเถียงกับคนร้อยคนก็ชนะร้อยหน ด้วยการชนะแบบเถียงเอาเป็นเอาตาย หน้าดำหน้าแดง
เป็นคนประเภทเถียงๆ เถียงเอาให้อีกฝ่ายเถียงไม่ออก เพราะไม่ใช้ตรรกะอะไรเลย เอาแค่ว่าจ้องเอาจุดเล็กๆ ในบทสนทนาของอีกฝ่ายมาตีความหมาย อย่างเช่น อีกฝ่ายอาจบอกว่า "พูดแบบนี้มันไม่ดีจะทำให้คนอื่นเสียหายได้" คนที่อยากเถียงชนะก็จะพูดว่า "อ้อ.. นี่ไม่เชื่อที่พูดใช่ไหม หาว่าใส่ความอีกฝ่ายใช่ไหม หาว่าฉันมันเลวเป็นเป็นไม่ดีใช่ไหม" อะไรประมาณนี้ไป
3
พอออกมารูปนี้ ฝ่ายตรงข้ามก็หนักใจ ถึงขั้นถอดใจ เถียงไปก็ไม่ชนะ เพราะเถียงกับคนโง่ คนไร้ปัญญา สู้หยุดเปลืองตัว เลิกราเองดีกว่า เหมือนเอามือทุบกำแพงคนที่เจ็บก็คือเรา สู้ปล่อยคนแบบนี้ไปเถอะ ให้ไปโดนยำบาทาที่ไหนก็ไป ดีกว่าเราเหนื่อยมาคอยเถียงด้วย
นี่เป็นตัวอย่างของคนโง่ที่ไม่รู้ว่าตัวเองโง่ คนที่มั่นอกมั่นใจว่า ตัวเองเก่ง ตัวเองเจ๋ง ประหนึ่งเป็นผู้ชนะทั้งสิบทิศ แต่ความจริง ก็ไม่ต่างกับก้อนปฏิกูลที่ไม่มีใครกล้าแตะให้เสียมือต่างหาก ถ้ามีนิสัยแบบนี้ จงเลิกเสียเถอะ เดี๋ยวจะไม่มีใครคบด้วยเอานะ
2. ทุกคนต้องยอมให้ตลอด
คนอีกพวกหนึ่งที่รกสังคมอยู่ไม่น้อย ก็พวกที่คิดไปเองว่า ทุกคนเกรงกลัวตน ตัวเองเก่ง มีบารมี มีดีกว่าคนอื่นๆ อะไรต่างๆ นานาก็คิดเข้าข้างตัวเองไปเรื่อย
รู้ไหมว่า บางครั้งคนที่ฉลาดก็สามารถยอมก้มหัวให้คนอื่นได้อย่างง่ายดายด้วยคำนึงถึงเป้าหมายใหญ่ของตนเองมากกว่า คนที่มีปัญญาจะไม่ปล่อยให้อุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ อย่างการคิดว่า เสียศักดิ์ศรีมาขัดขวางทางเจริญก้าวหน้าของตนเองได้
คนที่มั่นใจในเป้าหมายของตัวเอง ว่าสามารถสร้างผลดีกับตนเอง กับครอบครัวหรือกับองค์กรได้ พวกเขาจะสามารถก้าวผ่านเรื่องราวอันไร้ค่าอย่างคำว่า "ศักดิ์ศรี" ได้สบายๆ ไม่มีใครเสียหายอะไรได้ ถ้าคุณไม่ยึดติดกับสิ่งนั้นนั่นเอง
แต่ในทางตรงกันข้าม หากเป็นคนโง่ที่คอยโอบอุ้มคำว่า "ศักดิ์ศรี" ไว้ในใจตลอดเวลา ก้าวนึงก็คิดถึง ขยับตัวก็นึกถึง คนแบบนี้นี่เป็นคนโง่ของแท้ ก็เล่นเอาอัตตามานอนกอด ด้วยเห็นว่ามีค่า มีราคา
คนแบบนี้ทำอะไรก็เจริญรุ่งเรืองยาก ทั้งที่คนอื่นยอมๆ ไปเพราะมองเห็นอย่างอื่นสำคัญกว่า แต่ตัวเองดันคิดว่า ตัวเองดีกว่าคนอื่น เหนือกว่าแบบนี้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่า จุดจบคงไม่สวยแน่นอน
3. เป็นลูกน้องที่หัวหน้าไม่ยุ่งด้วย
บางคนอาการหนักเข้าไปอีก ไปทำงานหาเงินมาเลี้ยงปากเลี้ยงท้องแท้ๆ แต่แทนที่จะทำตัวเป็นน้ำครึ่งแก้ว คอยเรียนรู้คอยเก็บเกี่ยวประสบการณ์ต่างๆ จากที่ทำงาน เป็นพนักงานที่ดีของหัวหน้า เป็นลูกจ้างที่ดีของบริษัท ทำตัวให้น่ารัก น่าชื่นชม เข้ากับคนอื่นได้ง่าย
แต่กลับกัน ดันมาทำตัวว่าข้าเก่ง ข้าฉลาดกว่าคนอื่น ทำตัวไม่น่ารัก รุ่นพี่เอือมระอา เจ้านายก็ส่ายหน้า ทำตัวใหญ่คับที่คิดว่าตัวเองมีดีกว่ากว่าชาวบ้าน คนแบบนี้อยู่ไหนก็ไปได้ไม่ไกล จะคอยมีคนหมั่นไส้เอาเรื่อยๆ
ความจริงแล้ว เป็นผู้น้อยก็ควรรู้ว่า กาละเทศะเป็นสิ่งสำคัญ คนสอนงาน เจ้านาย ผู้ใหญ่ในที่ทำงาน ควรมีลำดับขั้นตอน ควรเว้นวรรค เว้นระยะห่างแค่ไหน ผู้น้อยควรรู้ว่า ควรพูดยังไง ตอนไหน ควรปฏิบัติตัวยังไงถึงจะถูก
1
เพราะหน้าที่ตอนนี้คือ เป็นลูกน้อง เป็นลูกจ้าง ทุกตำแหน่งมีเกียรติของตนเอง ต้องรู้หน้าที่ๆ กำลังเป็นอยู่ แล้วรอเอาไว้เป็นเจ้าของกิจการเองก่อน แล้วค่อยกร่าง อยากจะทำอะไรก็ทำไป กิจการของเราเอง เราสามารถจัดการได้ตามต้องการ แต่ตอนนี้ควรรู้จุดยืนของตัวเองก่อนก็น่าจะดีนะ ว่าไหม?
4. อยากพูดหรือทำอะไรตอนไหนก็ได้
คนอีกประเภทที่คนในสังคมเบื่อหน่ายไม่น้อย ก็คนที่ใช้ประโยชน์จากคำว่า อิสระเสรีในการกระทำหรือการพูดจา ในทางที่ผิดไปไกลจากความถูกต้อง
คนเราสามารถแสดงความคิดเห็นหรือพูดในสิ่งที่ปรารถนาได้ ตราบใดที่คุณไม่ไปทำความเดือดร้อนให้คนอื่น เพราะเมื่อไหร่ที่การกระทำทุกอย่างของคุณส่งผลกระทบกับบุคคลอื่น มันมักจะมีเรื่องราวต่างๆ นานาตามมาอีกมากมาย
ไม่ว่า จะด่าทอกันไปมา เขียนคอมเม้นต์โต้ตอบในสื่อโซเชียล หรือกระทั่งการถูกฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลาและทรัพย์สิน ด้วยเหตุเพียงความคึกคะนองชั่วครู่ ขาดการยั้งคิด แค่นี้ก็เสียเวลาที่จะสามารถทำเรื่องดีๆ หาเงินเข้ากระเป๋าได้ไปแล้วมากมาย
ทางที่ดีและลดปัญหาในชีวิต จงคิดให้มาก พูดให้น้อย ตัดสินใจให้ดีก่อนจะทำสิ่งใดลงไป ควรทำสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตนเองและผู้อื่นจะดีกว่า
เพราะการอยู่ร่วมกันแบบจ้องจับผิดกัน ไม่ชอบหน้ากันมันเหนื่อยกว่าอยู่ร่วมกันแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน คุยกันถึงเหตุและผลของสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างเห็นต่าง ค่อยพูดค่อยจากันมันดีกว่าเยอะเลยนะ
5. คนในครอบครัวไม่มีใครขัดใจ
2
คนประเภทสุดท้ายที่น่าสงสารไม่น้อย เพราะไม่รู้ตัวว่าถูกลอยแพ ไม่มีใครใส่ใจและสงสารเมตตา แม้กระทั่งคนในครอบครัว ก็คนที่คนในครอบครัวปล่อยให้ชนะไปเลย ในทุกๆ เรื่อง
เพราะว่า นิสัยที่ชอบเอาแต่ชนะ ทำให้คนใกล้ตัวเอือมระอา ไม่อยากเปลืองตัว พูดอะไร เตือนอะไรก็มีแต่ทะเลาะกันรุนแรงขึ้นทุกที จนจบด้วยสุดท้ายคนในครอบครัวก็ปล่อยให้ทำทุกสิ่งที่ต้องการ เพราะเอาไม่อยู่ ดูแลไม่ไหว ได้แต่มานั่งคอยเช็ดคอยล้างตามให้ทีหลัง
จนตัดสินใจปล่อยคนแบบนี้ ให้ไปเป็นภาระของสังคม เป็นเรื่องที่สังคมต้องรับมือกับคนไม่มีความคิดไปเองโดยอัตโนมัติ แบบไม่มีทางเลือก ก็อย่างคนที่ชอบฉุนเฉียวง่าย ก็ปล่อยให้ไปมีเรื่องกับคนอื่นไป หรือคนที่ชอบดื่มก็ปล่อยไป จะขับรถชนใครก็ให้ติดคุกติดตะรางไป พูดง่ายๆ ก็เหมือน ตัดหางปล่อยวัดนั่นแหล่ะ
ดังนั้นใครก็ตาม ที่มีสภาพนี้ เป็นคนที่ครอบครัวยอมให้ตลอดเวลา จงรู้ไว้ว่า คุณกำลังไม่มีคนใส่ใจอีกต่อไป คุณคือ ภาระดีๆ นี่เอง ทางที่ดีขอให้ตั้งสติและกลับใจมาคิดถึงสิ่งที่ทำลงไปดู คุณเป็นคนเจ้าอารมณ์ใช่ไหม ใช้โทสะโมหะ โมโหโกรธานำพาชีวิตมาตลอดหรือเปล่า ลองถอยมามองตัวเองให้ดี
ลองมองย้อนดูว่า ทำอย่างที่เคยทำมา มีเรื่องราวอะไรเกิดขึ้นบ้างในชีวิตมาบ้าง ทุกยากลำบากขนาดไหนกว่าจะแก้ไขปัญหามาได้ กลับตัวตอนนี้ก็ยังไม่สาย เพราะไม่เคยมีคำว่า "สาย" สำหรับคนที่สำนึกผิดหรอกนะ
และนี่ละ กลุ่มคนต้องห้ามที่คุณควรเว้นวรรคระยะห่าง ถ้าไม่อยากปวดหัว ปวดใจให้รำคาญเปล่า สิ่งที่ดีคือ เรื่องราวที่ตรงกันข้าม กับคนเหล่านี้เป็น คนที่เขามีวุฒิภาวะทำกัน เขาจะไม่ใส่ใจกับการต่อสู้เล็กๆ น้อยๆ ให้เสียเวลา พวกเขาจะโฟกัสที่เป้าหมายใหญ่ใจความหลักกันมากกว่า มานั่งทะเลาะกับคนไปทั่ว
และหากต้องประสบพบเจอกับเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตก็จงตั้งรับอย่างมีสติ ไม่โวยวายให้เป็นที่น่าเวทนาของคนอื่น แต่จงใช้ชีวิตอย่างสุขุมและเปี่ยมด้วยกลยุทธ์ รับมือทุกสิ่งอย่างชาญฉลาด
อย่างที่คุณทามุระ โคทาโร่ เจ้าของหนังสือ"ถึงโมโหก็อย่าสู้กับคนโง่" กล่าวไว้ว่า "ใจเย็นในเวลาที่เรื่องราวไปได้ดี และ สงบนิ่งในเวลาที่เรื่องราวติดขัด" ทำง่ายๆ แค่นี้คุณก็ไม่ดูโง่ในสายตาคนอื่นแล้วละค่ะ ส่งกำลังใจให้ทุกคนเสมอนะคะ
1
🦙 ชอบก็กดไลค์ ใช่ก็กดแชร์
ถ้าจะให้รู้ว่าแคร์ ก็คอมเม้นท์มานะคะ
1
ติดตามเราตามช่องทางอื่นๆ
• Youtube (เสียงอ่านบทความ) https://youtube.com/channel/UCBddu-n2Z6GQg3N66F2FnSg
โฆษณา