ทำความรู้จักเทรนด์การลงทุนใน Sustainability สินทรัพย์
𝐋𝐮𝐱𝐮𝐫𝐲 𝐌𝐨𝐝𝐞𝐫𝐧 𝐂𝐥𝐚𝐬𝐬𝐢𝐜 𝐇𝐨𝐦𝐞 ที่โครงการ #𝐒𝐞𝐭𝐭𝐡𝐚𝐬𝐢𝐫𝐢 𝐁𝐚𝐧𝐠𝐧𝐚- 𝐒𝐮𝐯𝐚𝐫𝐧𝐚𝐛𝐡𝐮𝐦𝐢 จาก Sansiri PLC
พบเนื้อหาที่น่าสนใจ ที่คุณไม่ควรพลาด โดยเริ่มจาก
> ความน่าสนใจของการลงทุนใน Sustainability
> บทวิจารณ์ สถาปัตยกรรม และงานดีไซน์ Modern Classicประโยชน์ความน่าสนใจของงานออกแบบที่อยู่อาศัย โครงการนี้
> ศักยภาพ และความน่าสนใจของ ทำเล บางนา - สุวรรณภูมิ
เมื่อพูดถึงการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ลักชัวรี่ ณ ปัจจุบัน (พ.ศ.2566) นักลงทุนชั้นนำ ทั้งไทย และต่างชาติ ต่างคำนึงถึงความยั่งยืน (Sustainability) ของสินทรัพย์ และกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อจำนวนมาก ต่างกำลังมองหาสินทรัพย์ ที่ใส่ใจและรักษาสิ่งแวดล้อม ทั้งวัสดุก่อสร้าง ไปจนถึงแนวคิดการออกแบบ Landscape เพื่อการอยู่อาศัย ทั้งโครงการ
> หากจะพูดให้ชัดถึง Sustainability Investment
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ให้คำจำกัดความไว้ว่า
“คือ แนวคิดการลงทุนที่คำนึงถึง การดำเนินงานด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และ บรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ของธุรกิจ
ประกอบการพิจารณาตัดสินใจลงทุนควบคู่ไปกับการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินของธุรกิจ เพื่อสร้างผลตอบแทนในระยะยาวและสร้างผลกระทบเชิงบวก
หรือลดผลกระทบเชิงลบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม”
TEAMS OFFICIAL ได้มีโอกาสเข้าชม บ้านลักชัวรี่ โครงการใหม่จากแสนสิริ ที่ #เศรษฐสิริ บางนา สุวรรณภูมิ Luxury Home Modern Classic Style
บ้านเดี่ยว 2 ชั้น Double Volume สูง 6.5 เมตร พื้นที่จอดรถ 2-4 คัน ที่มาพร้อม EV-Charger และ Solar Panel ทุกหลัง
หลายท่านอาจยังไม่ทราบ ถึงความพิเศษ อีกอย่างคือ?
แสนสิริ คิดค้น และ มอบนวัตกรรมบ้านสีเขียว
หรือ Green Living Designed Home ไว้ตอบโจทย์ การอยู่อาศัย ที่คำนึงถึง Sustainability Home โดยจัดมาให้ครบครัน ทุกหลัง เพื่อความปลอดภัย เพิ่มความสะดวกสบาย ประหยัดพลังงานเป็นมิตร และ อยู่ร่วมกับสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว
บนพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง 5 แบบบ้าน ตั้งแต่ 204 - 407 ตร.ม.กับค่าตัว เริ่มต้นที่ 12-30 ล้านบาท*
สินทรัพย์ที่ยั่งยืน ช่วยให้การลงทุนมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ในระยะยาว กุญแจสำคัญในการเปิดเผยศักยภาพ ในการลงทุนที่แท้จริงของสินทรัพย์คือการทำความเข้าใจถึงศักยภาพและผลกระทบที่มีต่อโลกและผู้คน
TEAMS ได้อ่าน ส่วนนึงของประโยค จากโปสเตอร์ แสนสิริ ก่อนเข้ามาชมโครงการ แล้วจำได้ดีเลยว่า ในวันที่เข้ามาเห็นของจริงแล้วนั้นเข้าใจเลยว่า
คือ "คุณค่าที่ส่งมอบให้แก่ลูกบ้าน จากการตั้งใจทำจริงๆ ของบริษัทที่ไม่ได้สร้างแค่บ้านคุณภาพ แต่ยังสร้าง Growth mindset และบรรทัดฐานใหม่ ของธุรกิจ พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ คือประโยคที่ว่า…..
“เพื่อให้ คุณ และคนรุ่นต่อไปได้เติบโตบนคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน”
คุณครับ…. จากที่ทีมได้เห็นมากับตา สัมผัสมากับมือ
เราพบว่า ประโยคที่จำได้ขึ้นใจนี้ “ไม่เกิน ความเป็นจริง” เลยครับ
> มาร่วมพิจารณารายละเอียดโครงการไปพร้อมกัน
โดยทีมสรุปรวม มา 4 ข้อสั้นๆ ที่คุณควรทราบ
ถึงความน่าสนใจของโครงการนี้
เริ่มต้นกันที่ อย่างแรกเลย คือ…
1. การก่อสร้างที่มีคุณภาพ:
สิ่งสำคัญที่ทางโครงการให้ความสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น
นั่นก็คือเรื่องการก่อสร้างที่มีคุณภาพซึ่งลงลึกไปถึงระบบ
อย่างระบบ Precast (พรีคาสท์) เป็นการสร้างบ้านโดยใช้วัสดุแผ่นคอนกรีตสำเร็จรูปที่สร้างจากโรงงานด้วยเทคโนโลยี ก่อนที่จะนำชิ้นส่วนเหล่านั้นมาประกอบต่อกันจนกลายเป็น โครงสร้างของบ้าน มีข้อดีคือคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐาน ที่ผลิตจากโรงงาน มีความแข็งแรงทนทานสูง ป้องกันเสียงได้อย่างดีเยี่ยม และช่วยเรื่องการจัดวางพื้นที่ใช้สอยให้ มากขึ้นอีกด้วย
นอกจากนี้ทางโครงการยังให้ความสำคัญกับพื้นที่สีเขียว
ด้วยการออกแบบวางผังโครงการให้มีธรรมชาติเข้ามา
แทรกซึม ทำให้บรรยากาศในโครงการมีความร่มรื่น
ส่วนการออกแบบตัวบ้านก็คำนึงถึงการใช้ธรรมชาติ
เข้ามาเป็นองค์ประกอบในการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืน
แต่มีความเรียบง่าย อย่างเช่นการออกแบบพื้นที่
ให้มีแสงและลมจากธรรมชาติเข้าถึงอย่างลื่นไหล
กลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกัน
2.ประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
สังเกตุได้ว่าบ้านของแบรนด์เศรษฐสิริจะให้ความสำคัญในเรื่องของการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยเช่นเดียวกันซึ่งการใช้พลังงานในลักษณะนี้คือการใช้อย่างรู้คุณค่าเพื่อความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
จึงเกิดเป็นนวัตกรรมบ้านสีเขียว หรือ Green Living Designed Home ขึ้น ซึ่งมีฟังก์ชั่นที่น่าสนใจมากมายตั้งแต่หลังคา ไปจนถึงภายในบ้านทั้งSolar Panel, Roof Ventilation ฝ้าระบายอากาศเหนือชายคา
ไปจนถึงสุขภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อประหยัดน้ำรวมทั้งการใช้ไฟ LED และระบบบ้านอัจฉริยะซึ่งทั้งหมดนี้ไม่เพียงแต่จะช่วยลดต้นทุนการใช้ชีวิตโดยผ่านสาธารณูปโภคเท่านั้น แต่คือความยั่งยืนในไลฟ์สไตล์
ที่สามารถทำได้ทุกวันอย่างไม่ยากลำบากอีกด้วย
3.สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ด้วยองค์ประกอบ คุณสมบัติ และฟังก์ชั่นของบ้าน
ซึ่งมีหลายอย่างที่สร้างขึ้นมาเพื่อคุณภาพในการ
อยู่อาศัยและการใช้ชีวิตอย่างยั่งยืนและรื่นรมย์
ในเรื่องของข้อดีที่เป็นเหมือนกำไรชีวิตของลูกบ้าน
นั่นก็คือเรื่องของสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสภาพแวดล้อม บรรยากาศ
ความสะดวกสบายไปจนถึงอากาศและเรื่องของแสง
ทั้งหมดนี้จะช่วยส่งเสริมให้คนในบ้านสามารถใช้ชีวิต
โดยที่มีสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงขึ้นได้ไม่ยาก
และนี่ก็คือหนึ่งในคุณสมบัติของบ้านที่ดีนั่นเอง
4. ความน่าสนใจของ ทำเล บางนา- สุวรรณภูมิ
"บางนา" เป็นทำเลที่ตั้งหน้าด่าน EEC และมีความสำคัญ
ในการพัฒนาโครงการอาศัยและธุรกิจต่าง ๆ
ที่รายล้อมไปด้วยเมกะโปรเจ็กต์มากมาย เช่น
แบง ค็อก มอลล์ , เมกะ ซิตี้ , AIA ,East Gateway
,เซ็นทรัลวิลเลจ และ เดอะฟอเรสเทียร์
หากคิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวม มากกว่า หลักแสนล้านบาท
โดยมีผู้พัฒนาหลายรายที่ทำโครงการต่าง ๆ ในบริเวณนี้
ยังเป็นพื้นที่ที่อยู่ใกล้โรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนเซนต์โยเซฟ บางนา คอนคอร์เดียน, เวอร์โซ, TCIS, เซนต์แอนดร์ส และมีความสนใจจากชาวจีนและฮ่องกงในการลงทุนในโครงการอาศัยรอบๆ โรงเรียนนานาชาติ.
จากตัวเลขการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
ที่คาดการว่าอาจขยายตัวได้มากถึง 30 ล้านคนในปีนี้
หลายบริษัทและนักลงทุนทำโครงการอาศัยในบางนา
รวมถึงโครงการที่ราคาและระดับลักชัวรี่ต่าง ๆ
ซึ่งมีความพร้อมเพื่อตอบโจทย์ผู้ซื้อหลายกลุ่ม.
ทำให้ ทำเลนี้มีศักยภาพและความต้องการสูง
และเนื่องด้วยการเดินทางที่สะดวกใกล้สนามบินสุวรรณภูมิและเชื่อมต่อกับนิคมอุตสาหกรรมฝั่งภาคตะวันออก ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายใหญ่เข้ามาพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีแปลงที่ดินที่ยังทยอยออกสู่ตลาด ทำให้ทำเลดังกล่าวมีความคึกคักในการพัฒนาโครงการอยู่อย่างต่อเนื่อง และน่าจับตาในแง่กำลังซื้อทั้งไทยและต่างชาติ
ทำเลที่ตั้ง แนวคิด การออกแบบโครงการ
ที่สะท้อนตัวตนและความสำเร็จของเจ้าของบ้าน
ได้อย่างมีชั้นเชิง เป็นการเลือกที่ตั้งได้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์
ที่ตั้งตระหง่านเด่นชัดบริเวณ Main Gate ทางเข้าหลักโครงการ นั่นคือ พดด้วง สัญลักษณ์ที่เป็นตัวแทนของความ“มั่นคง มั่งคั่ง มั่งมี” ที่ #เศรษฐสิริ บางนา สุวรรณภูมิ เลือกใช้เป็น first impression ได้อย่าง สง่างาม และลงตัว
ถ้ายังไม่จุใจพอ คุณสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติม
ได้ที่ ใต้ภาพถ่าย ที่ทีม ตั้งใจนำเสนอ ภายในอัลบัมนี้ครับ
สนใจนัดหมายเยี่ยมชมโครงการ พร้อมรับดีลพิเศษ
#Setthasiri #PortraitofSuccess #Sansiri
#ซื้อบ้านต้องแสนสิริ #บางนาต้องแสนสิริ
#เศรษฐสิริบางนาสุวรรณภูมิ #Luxury #บ้านเดี่ยว
#Setthasiri #PortraitofSuccess #Sansiri
#ซื้อบ้านต้องแสนสิริ #บางนาต้องแสนสิริ
#เศรษฐสิริบางนาสุวรรณภูมิ #Luxury #บ้านเดี่ยว
#ReviewLuxuryดูได้ที่TeamsOfficial
ส่วนต่อไป เรามาชมความน่าสนใจ ของออกแบบเพื่อการอยู่อาศัยกันครับ
TEAMS OFFICIAL นำเสนอบบทวิเคราะห์ ด้านงานออกแบบที่น่าสนใจ
จากคุณ เมธัส ภัทรกําพล (Architect & Director) โดยประสบการณ์ตรง
จากการเข้าเยี่ยมชมโครงการ เศรษฐสิริ บางนา สุวรรณภูมิ
การเริ่มต้นลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury มีประเด็นสำคัญในเชิงงานออกแบบให้พิจารณาหลายส่วน Teams Official หยิบยกประเด็นที่คิดว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่กำลังมองหาบ้านหรู ในทำเลศักยภาพ เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน มาให้ทุกท่านได้ขบคิดไปพร้อมกัน
การออกแบบวางผังโครงการ
ในการมองหาสถาปัตยกรรมเพื่อการอยู่อาศัยสักหลัง ก่อนที่เราจะไปเจาะลึกที่ตัวบ้านนั้น ภาพรวมในการวางผังโครงการ เป็นสิ่งแรกที่ไม่ควรมองข้าม ที่โครงการ
Setthasiri Bangna - Suvarnabhumi อยู่บนทำเลที่ดินรูปสี่เหลียมผืนผ้า เลือกที่จะวางบ้านแบบ Linear ที่หน้าบ้านยาวเรียงกันไปตามแนวถนน ซึ่งอาจไม่ได้มีจุดเด่นด้านความเป็นส่วนตัวที่สูง และลดความพลุกพล่านของการสัญจร ได้เหมือนกับระบบที่แจกเป็นซอย หรือ ก้างปลา แต่ก็แลกมากับข้อดีในการเปิดมุมมองหน้าบ้านที่กว้าง ระยะห่างระหว่างหน้าบ้านเรากับบ้านตรงข้ามค่อนข้างกว้างกว่าปกติ
รวมถึงสวนหน้าบ้านที่ลึกพอสมควร โดยเฉพาะหลังที่ติดถนนหลัก จะมีการปลูกไม้ยืนต้นที่เกาะกลางตลอดความยาวของถนนหลัก ทำให้บรรยากาศร่มรื่นมากทีเดียว อีกจุดสังเกตหนึ่งคือ ไม่มีบ้านหลังไหนเลยที่หน้าบ้านหันไปในทิศตะวันตกแบบตรงๆ ซึ่งเป็นทิศที่จะมีแดดแรงและร้อนในยามบ่าย
เพราะโครงการตั้งอยู่ติดถนนใหญ่ ทางเข้าจึงเป็นสิ่งแรกที่สะท้อนถึงตัวตนผู้อยู่อาศัย ลักษณะการออกแบบซุ้มทางเข้าโครงการจึงมีความโอ่อ่า และมีอัตลักษณ์เฉพาะ ในส่วนของ Maingate มีการออกแบบอันเป็นเอกลักษณ์พิเศษ คือ กว้างตลอดความกว้างของที่ดิน ด้านที่ติดถนนใหญ่ วางผังเป็นรูปทรงโค้ง โอบล้อม ต้อนรับอย่างสง่างาม
มีทิวเสาและผนังฉลุตกแต่ง ชวนให้นึกถึงสถาปัตยกรรมยุคคลาสสิคซึ่งเป็นสิ่งที่สามารถสะท้อนความเป็นโครงการได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่องของความสง่างามดูภูมิฐานและความเป็นเอกลักษณ์ที่สื่อสารผ่านการออกแบบที่พิถีพิถัน
มีสวนด้านหน้าขนาดใหญ่และน้ำพุ ตลอดแนว ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและเป็น Buffer ที่ซับเรื่องเสียงและฝุ่น จากถนนใหญ่ได้ในระดับหนึ่ง
ทางเข้าออกแยกเป็นสัดส่วน และกว้างใหญ่มาก เมื่อเทียบกับสเกลของโครงกาาร เมื่อขับรถเข้ามาในซุ้มประตู ผ่านโครงสร้างหลังคาขนาดใหญ่ ที่เจาะช่องเป็น Skylight รูปวงรี นำแสงแดดส่องทะลุลงมายัง ประติมากรรมรูปพดด้วง ด้านล่าง เป็น Scene ที่ Dramatic ดีทีเดียว ประติมากรรมรูปพดด้วงนี้ สื่อถึง ความมั่นคง มั่งคั่ง มั่งมี ของผู้อยู่อาศัยอีกด้วย...
การออกแบบงานสถาปัตยกรรม
รูปแบบงานสถาปัตยกรรมของบ้านระดับ Luxury ในแต่ละโครงการก็จะแตกต่างกันไป มีปัจจัยที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่แนวความคิดเฉพาะตัวในการพัฒนาโครงการ ทำเลที่ตั้งและบริบทโดยรอบ กลุ่มเป้าหมายและระดับราคาของโครงการ รวมถึงความต้องการของตลาดในเวลานั้น หากแต่รูปแบบงานสถาปัตยกรรมที่มีความยั่งยืนในงาน Design ที่ต่อสู้กับกาลเวลาได้ ก็เป็นประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจและเป็นข้อได้เปรียบในเชิงการลงทุนที่ยั่งยืน
โครงการ Setthasiri Bangna - Suvarnabhumi เลือกที่จะถ่ายทอดออกมาในรูปแบบ Modern Classic โดยนิยามแล้ว คือ การดึงเอาเสน่ห์ของความอ่อนช้อย จากการตกแต่ง ภายใต้สัดส่วนที่สง่างามของอาคารยุคคลาสสิค ผสานวัสดุ เทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ มีโทนสีที่กลมกลืน และการตกแต่งที่เรียบหรูตามยุคสมัย มาสร้างสมดุลใหม่เข้าไว้ด้วยกัน … เราจะพาไปเจาะลึกงานออกแบบในแต่ละส่วน ว่าจะออกมาเป็นอย่างไร
อาคารแรกที่จะพามาดู คือ Clubhouse ที่ตั้งเด่นสง่าอยู่บริเวณทางเข้าหลักของโครงการ
ตัวอาคารวางผังแบบ Symmetry ตามสไตล์งาน Modern Classic ให้ดูสง่างาม โอ่โถง และมีพื้นที่สีเขียวแทรกซึมล้อมรอบตัวอาคาร ซึ่งสูง 2 ชั้น ที่มาพร้อมพื้นที่ใช้สอยเพิ่มเติม 315 ตารางเมตร
โดย ชั้น 1 จะเป็นห้องน้ำและ Lockeroom เข้าจากภายนอกอาคาร เชื่อมต่อกับสระว่ายน้ำ ส่วนภายในอาคารเป็น Lobby ขนาดใหญ่ ที่มีโถงสูง Double Volume 7 เมตร ตลอดแนวของด้านที่ติดกับสระว่ายน้ำ โดยการใช้ประโยชน์จากช่องแสงขนาดใหญ่ เอาแสงธรรมชาติเข้ามาในอาคารทั้ง 2 ชั้น พร้อมกับเห็นวิวสระว่ายน้ำและสวนตลอดวัน และมีการเลือกใช้การปูพื้นบันไดคลับเฮาส์ด้วยหินอ่อน Travirtine ซึ่งเป็นหินธรรมชาติที่มีทั้งความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์และความแข็งแรงอีกด้วย
ชั้น 2 เป็น Gym พร้อมอุปกรณ์ครบครัน ทั้ง Cardio และ Weight training
สำหรับตัวสระว่ายน้ำ ระบบน้ำเกลือ เป็นแบบ Outdoor ขนาด 8 x 25 เมตร โดยมีส่วนที่เป็น Lap Pool ว่ายเก็บระยะไปกลับได้ ขนาด 4.5 x 25 เมตร นอกจากนี้มีส่วนของสระเด็ก ขนาด 3 x 6 เมตร และ Jacuzzi Seat อยุ่ 2 จุด
ระเบียงริมสระมีขนาดไม่ใหญ่มาก แต่ก็เพียงพอสำหรับวางชุดเฟอร์นิเจอร์นั่งเล่น และ Day Bed ริมสระ โดยมีแนวทิวเสา และงานเหล็กตกแต่งรูปทรง Arch เป็นฉากหลัง สร้างความเป็นส่วนตัว และเป็นภาพจำของมุมพักผ่อนได้ดี
จุดสังเกตด้านงานออกแบบ คือ การเล่นระดับความลึก ของกรอบเสาทางเข้าอาคาร และช่องเปิด ประตู หน้าต่าง ทำให้ตัวอาคารดูมีมิติน่าสนใจ โดยเฉพาะเวลาเกิดแสงและเงา ที่เปลี่ยนแปลงระหว่างวัน และ ประเด็นเรื่องของ Natural Cross Ventilation ในอาคารที่ทำได้ค่อนข้างดี พื้นที่แต่ละส่วนเปิดหน้าต่างระบายลมได้ ไม่ต้องพึ่งพาการปรับอากาศอย่างเดียว
ความยั่งยืนด้านพลังงานสะอาด เป็นอีกประเด็นที่ขาดไม่ได้ สำหรับบ้านยุคใหม่ ที่หลังคา
Clubhouse ก็มีการติดตั้ง Solar Panel และ Solar Battery ซึ่งแสนสิริ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์เจ้าแรกที่ติดตั้ง Solar Battery หรือแบตเตอรี่เก็บไฟจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์เสริมที่ทำหน้าที่ในการสำรองกระแสไฟฟ้า ซึ่งช่วยทั้งในการประหยัดพลังงานและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
มากันถึง Highlight ในการพาชมโครงการครั้งนี้ คือ ตัวบ้าน
ที่มาในสไตล์ Modern Classic สะท้อนแนวคิด Timeless Design ด้วยวัสดุและโทนสีที่เรียบง่าย แต่เน้นที่การจัดวางพื้นที่ใช้สอย และตัวสัดส่วน
โดยโครงการมีตัวบ้านมีทั้งหมด 5 Types จำนวน 178 หลัง แต่ละแบบมีพื้นที่ใช้สอยดังนี้
Glory 204 ตารางเมตร / Victory 247 ตารางเมตร / Mastery 281 ตารางเมตร / Majesty 319 ตารางเมตร / Meridian 407 ตารางเมตร
ซึ่ง Function ที่ให้มาในแต่ละแบบ จะคำนึงถึงความครอบคลุม และยั่งยืน ต่อครอบครัวและ Lifestyle ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น
พื้นที่ชั้นล่าง แบบ Open Plan เชื่อมต่อส่วน Living & Dining
พร้อมพื้นที่ Double Volume ที่สูงกว่า 6.5 เมตร เพิ่มความโอ่โถงและบรรยากาศ
ที่ปลอดโปร่งอากาศถ่ายเทให้กับตัวบ้าน
ห้องนอน 4 - 5 ห้องนอน แล้วแต่แบบบ้าน ซึ่งทุกหลังจะมีห้องนอนอยู่ที่ชั้น 1 เป็น Universal Design รองรับผู้สูงอายุด้วย
จอดรถได้สูงสุด 4 คัน พร้อมรองรับ EV Charger และ ติดตั้ง Solar Panel ทุกหลัง
สำหรับตัวบ้านที่จะพาไปดูกันวันนี้ คือ แบบ Majesty
ที่มี 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ
1 ห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ ห้องเก็บของและส่วนซักล้างในร่ม
แปลงที่ดินส่วนใหญ่ในโครงการ แบ่งแปลงมาแบบบ้านหน้ากว้าง สำหรับตัวบ้าน Majesty นี้เองก็เช่นกัน โดยมีทางเข้าหลัก แยกจากทางเข้ารอง และทางเข้าส่วนบริการต่างหาก ชัดเจนเป็น
สัดส่วนประตูทางเข้ารองอยู่ตรงส่วนโรงรถ ที่จอดได้ 3 คัน พร้อมรองรับ EV Charger เมื่อเปิดประตูเข้ามาในบ้าน จะพบกับ Foyer เล็กๆ ที่จัดเป็นที่นั่งใส่รองเท้า และตู้เก็บรองเท้าได้ จากประตูรองจะขนของตรงเข้าไปเก็บในครัว หรือ จะเดินเลี้ยวขึ้นบันไดไปชั้น 2 เลย ก็ทำได้คล่องตัว
มากันที่จุดเด่นที่สุดของบ้าน เมื่อมองจากภายนอก คือ ส่วนประตูหลักของบ้าน มีการออกแบบซุ้มประตู เป็นมุขอาคาร ยื่นออกมา ใช้เทคนิคการเล่นกับสีของประตู ผนังข้างประตูและหน้าต่างชั้น 2 ให้เป็นสีเทาเข้ม วิ่งต่อเนื่องกันเชื่อมกันขึ้นไป ตัดกับตัวบ้านสีขาว ช่วยเสริมสัดส่วนทางเข้าให้ดูสูง สง่าและโดดเด่น
ผ่านประตูเข้าบ้านหลัก ที่เป็นบานกระจกเปิดคู่ขนาดใหญ่
จะเจอกับโถงทางเข้าบ้าน และโถงบันไดที่เป็น Double Volume สูง 6.5 เมตร เมื่อมองขึ้นไปจะเห็นช่องหน้าต่างเปิดรับแสงธรรมชาติขนาดใหญ่ เชื่อมต่อพื้นที่อเนกประสงค์และทางเดินที่ชั้น 2 โดยมีราวกันตก ที่มีดีเทลงานตกแต่งรูปทรงเรขาคณิตแบบคลาสสิค เป็นตัวนำสายตา
ถัดเข้ามาเป็นส่วนนั่งเล่น รับประทานอาหาร และ ส่วนเตรียมอาหาร ที่เชื่อมต่อถึงกันหมด (Open Plan) จุดสังเกตอย่างหนึ่งคือ พื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้เป็นเป็นโถงสูง Double Volume โดยตัวบ้านเลือกที่จะสร้างความพิเศษให้กับส่วนทางเข้าบ้านและโถงบันไดแทน ซึ่งก็สอดคล้องกับรูปแบบบ้านที่เป็น Modern Classic แต่อย่างไรก็ตาม พื้นที่อยู่อาศัยชั้น 1 ก็รายล้อมด้วยประตูและหน้าต่างขนาดใหญ่ สร้าง Space ที่โปร่งโล่ง มองเห็นสวนรอบตัวบ้าน ช่วยนำแสงธรรมชาติและลม เข้ามาภายในบ้านได้อย่างดี
ต่อเนื่องจากส่วนเตรียมอาหาร เป็นห้องครัวไทยขนาดใหญ่ มีเคาน์เตอร์ 2 ด้าน และกั้นด้วยประตูบานเลื่อนกระจก ป้องกันเรื่องกลิ่น แต่ยังให้แสงสว่างผ่านเข้ามา ไม่รู้สึกอึดอัด ตัวครัวไทยเองก็มีหน้าต่างบานใหญ่ ช่วยเรื่องการระบายอากาศ และมองเห็นวิวสวนได้ด้วย
ประตูเลื่อนอีกด้านของครัว เชื่อมกับส่วนบริการของบ้าน อันประกอบด้วยส่วนซักล้างในร่มขนาดใหญ่ ใช้งานได้จริงจังและส่วนห้องนอน พร้อมห้องน้ำ ของแม่บ้าน สามารถแยกส่วนบริการและส่วนอยู่อาศัยของเจ้าของบ้านเป็นสัดส่วน เพียงแค่ล็อคประตูส่วนครัว
สำหรับห้องเก็บของมีมาให้ 2 ห้อง อยู่ใต้บันได โดยเข้าจากภายในบ้าน 1 ห้อง และ เข้าจากโรงรถอีก 1 ห้อง
อีกความพิเศษหนึ่ง คือ ห้องนอนที่เตรียมไว้ที่ชั้น 1 ของบ้าน ถูกออกแบบตามหลัก Universal Design เพื่อรองรับผู้สูงอายุ โดยปูพื้นซับแรงกระแทก (Absorption Floor) มาให้ พร้อมกับห้องน้ำในตัว ที่มีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่และไม่มีการลดระดับพื้น ช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้
เมื่อเดินขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีพื้นที่สำหรับเป็น Family Area ก่อนเข้าห้องนอน สามารถออกแบบเป็นมุมนั่งเล่น ออกกำลังกาย หรือ มุมทำงาน ก็ยืดหยุ่นตามความต้องการ เพียงแต่ถ้ากังวลเรื่องเสียง หรือ ความเป็นส่วนตัวเวลามีคนอยู่ชั้นล่าง อาจจะพิจารณาการกั้นผนังบางส่วนเพิ่มเติม
ส่วนต่อมาเป็นห้องนอนอีก 3 ห้อง ซึ่งโครงการไม่ได้ทำให้แต่ละห้องขนาดต่างกันมากนัก เริ่มที่ Master Bedroom ที่ใหญ่ที่สุด จะอยู่ติดด้านหน้าบ้าน พร้อมระเบียงส่วนตัว พื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่สำหรับวางเตียง King Size และ ชุดโซฟานั่งเล่นในห้องนอนได้ มีมุมสำหรับทำเป็น Walk-in Closet ที่อยู่ต่อเนื่องกับห้องน้ำ ที่มาพร้อมอ่างล้างหน้าแบบ His & Her และ อ่างอาบน้ำแบบลอยตัว พร้อมหน้าต่างบานใหญ่ในห้องน้ำ
ห้องนอนรองอีก 2 ห้อง มีขนาดใหญ่พอที่จะวางเตียง King Size ได้เช่นกัน รวมถึงมีการวางผัง ให้เป็นสัดส่วนสำหรับทำเป็น Walk-in Closet ก็ย่อมได้ และมาพร้อมห้องน้ำในตัวแต่ไม่ได้มีอ่างอาบน้ำมาให้เหมือน Master Bedroom
ภูมิทัศน์เชิงนิเวศ
การจัดสวนด้วยพืชพื้นเมืองที่ทนแล้ง และระบบชลประทานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเป็นอีกแง่มุมหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมในอสังหาริมทรัพย์ระดับ Luxury ซึ่งมีส่วนช่วยในการดำรงชีวิตที่ยั่งยืน
ทางโครงการได้จัดพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่พร้อมสนามเด็กเล่น เตรียมไว้ โดยเลือกพันธุ์ไม้ที่เหมาะสมกับเมืองร้อน รวมถึงตำแหน่งการจัดวางเพื่อมลภาวะทางอากาศและเสียง
ความน่าสนใจอีกอย่าง คือ Sansiri Backyard ซึ่งเป็นแปลงผักปลอดสารพิษสำหรับลูกบ้าน เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนในเมืองเห็นความสำคัญของการใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีที่มาจากการทานอาหารสดใหม่ ปลอดสารและไม่ปรุงแต่งอันเป็นแนวคิดเบื้องต้นของ Well-Being หรือการใช้ชีวิตสมดุลระหว่างสังคมเมืองกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนด้วยการใช้เวลาร่วมกันในพื้นที่สีเขียวและการแบ่งปันผลผลิตที่เกิดจากธรรมชาติ
คุณลักษณะพิเศษ เพื่อความยั่งยืน
พิจารณาคุณลักษณะพิเศษ ที่แต่ละโครงการจัดเตรียมไว้ให้ โดยเลือกที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต และคุณค่าที่เรายึดถือ ก็จะเป็นผลดีในระยะยาวของผู้ถือครอง อย่างเช่นของโครงการ Setthasiri Bangna - Suvarnabhumi ก็มีการติดตั้ง Solar Panel ให้ในบ้านทุกหลัง รวมถึงที่ Clubhouse , การติดตั้ง EV Charger มาให้ หรือ ระบบสัญญาณกันขโมย เชื่อมต่อผ่านโทรศัพท์มือถือ , ระบบ Magnetic Sensor เป็นต้น
เลือกวัสดุก่อสร้างและวัสดุตกแต่งที่ยั่งยืนสำหรับการออกแบบปรับปรุงบ้านของคุณเอง
คุณสมบัติของวัสดุก่อสร้างหลายอย่างในปัจจุบัน ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมและลดการใช้พลังงานลงได้ เช่น
การติดตั้งฝ้าชายคาแบบระบายอากาศและความร้อน
การเลือกใช้กระจกเขียวตัดแสง ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน
การติดตั้ง Breeze Panel หรือช่องระบายอากาศบริเวณประตูหน้าต่าง เพิ่มการระบายอากาศ เสมือนบ้านหายใจได้
การเลือกใช้สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำ (Low Flow Sanitary) ไปจนถึงสีทาบ้านที่เคลือบสารป้องกัน UV (UV Shield Paint)
โครงการ เศรษฐสิริ บางนา สุวรรณภูมิ เป็นอีก 1 ตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่มองหา สินทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุนที่คุ้มค่า ด้วยทำเลศักยภาพ ติด ถนน บางนา-สุวรรณภูมิ และยังมาพร้อมงานดีไซน์ Modern Clssic ที่ให้ความหรูหราในชนิดที่ส่งต่อ จากรุ่น สู่รุ่นมากถึง 3 Genaration
ได้อย่างดีเยี่ยม
สนใจเยี่ยมชมโครงการ พร้อมรับส่วนลดพิเศษ
คลิก : https://siri.ly/dpSCJ3A
สอบถามทาง LINE แชท : http://siri.ly/YxXj3sA
โทร. 1685
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
