บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าของจีนอย่าง BYD (1211 HK) รายงานผลประกอบการ ยอดส่งออกโต
BYD รายงานผลประกอบการ 3Q23 (สิ้นสุด Sep 23) ทำรายได้ที่ RMB 162 bn เติบโต 38.5% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ RMB 157 bn ด้านกำไรสุทธิ (Non-GAAP Net Income) รายงานออกมาที่ RMB 10 bn เติบโต 93% YoY สูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ที่ RMB 7 bn
บริษัทมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ RMB 26 bn และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่ 22.1% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 19.0% และในไตรมาสก่อนที่ 18.7% ในขณะที่อัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 6.4% เพิ่มขึ้นจาก 4.9% ในปีก่อน จากการเติบโตของรถยนต์ส่งออกและรถยนต์รุ่นพรีเมี่ยม
ยอดส่งมอบรถยนต์ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 822,094 คัน เติบโต 53% YoY โดยเป็นรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) 431,603 คัน เติบโต 67% YoY และรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) 390,491 คัน เติบโต 40% YoY โดยบริษัทมีส่วนแบ่งการตลาดรถยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในจีนอยู่ที่ 35% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 29%
ยอดส่งออกรถยนต์ในไตรมาส 3 อยู่ที่ 71,231 คัน เติบโตได้โดดเด่น หากเทียบกับ 1H23 ที่มียอดส่งออกอยู่ที่ 74,289 คัน โดยผู้บริหารกล่าวว่ารถยนต์ส่งออกมีอัตรากำไรสูงกว่ารถยนต์ที่ขายในประเทศ อันเนื่องมาจากสงครามราคาในประเทศจีน
รถยนต์รุ่นพรีเมี่ยมอย่าง Denza D9 เป็นรถยนต์ที่ขายดีสุดในกลุ่มรถยนต์พรีเมี่ยมในไตรมาส 3 รวมถึงรุ่น Denza N7 / Denza N8 ซึ่งพึ่งเริ่มส่งมอบได้ในเดือน ส.ค. และ ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ขายดีเช่นเดียวกัน สำหรับแบรนด์อื่นอย่าง Yangwang และ Fangchengbao จะเริ่มส่งมอบได้ในเดือน พ.ย. และจะมีการออกรถยนต์รุ่นที่มีราคาสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
Denza D9 ราคา 335,800 – 465,800 หยวน
ในไตรมาส 3 BYD ผลิตกำลังไฟแบตเตอรี่ที่ 28.5 GWh คิดเป็นสัดส่วน 29% ของส่วนแบ่งการตลาดในจีน เพิ่มขึ้นจาก 26% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
ใน Investor Day ผู้บริหารให้เป้าการส่งออกรถยนต์ทั้งปี 2023 ที่ 200k คัน (ในไตรมาส 1-3 ส่งออกทั้งสิ้น 145k คัน) บริษัทมีแผนสร้างโรงงานสำหรับภูมิภาค ASEAN ที่ประเทศไทย สำหรับ South America ที่ประเทศบราซิล รวมถึงในยุโรป โดยผู้บริหารแสดงความเชื่อมั่นว่าความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดต่างประเทศจะเติบโตเร็วกว่าที่เคยเกิดขึ้นในประเทศจีน เนื่องจากความพร้อมของเทคโนโลยีและราคาแบตเตอรี่ที่ถูกลง
Source: Seeking Alpha, Bloomberg, BYD, cnEV
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
