3 พ.ย. 2023 เวลา 08:03 • ไลฟ์สไตล์

แสงและเงา…

เช้ามืดของวันหนึ่งในขณะที่เดินอยู่ในสวน บรรยากาศรอบตัวค่อนข้างมืด ท้องฟ้ามีเพียงแสง
เรืองๆของดวงจันทร์และดวงดาวส่องสว่างอยู่ไกลๆ สายลมเย็นอ่อนๆพัดผ่านมาเบาๆช่วงนี้คือ
ปลายฝนต้นหนาว ความสว่างของบริเวณโดยรอบมาจากแสงของไฟฟ้าตามทางเดิน ทุกอย่าง
เงียบสงบ แสงไฟที่ส่องผ่านต้นไม้ทำให้เกิดภาพบนพื้นทางเดิน ภาพของแสงและเงาที่ปรากฏ
อยู่ตรงหน้าทำให้ต้องหยุดมอง จำได้ว่าในวิชาวาดเขียน อาจารย์เคยบอกว่าแสงและเงาเป็น
ของคู่กันแต่จะอยู่ตรงข้ามกันเสมอ หากเราพิจารณาดูให้ดีเราจะมองเห็นความงามและความ
จริงของการอยู่ตรงกันข้ามที่เรามักจะไม่ค่อยได้ใส่ใจ ทุกเรื่องราวจะมีสองด้านที่ตรงข้ามกัน
เสมอและเป็นเรื่องปกติธรรมดาในความหมายของคำว่าตรงกันข้ามคืออยู่ตรงกันแต่คนละฟาก
เช่นมืดกับสว่าง สุขกับทุกข์ ยึดไว้กับปล่อยวาง การอยู่ตรงกันข้ามไม่ใช่ว่าจะเป็นเรื่องไม่ดี
เสมอไป สำคัญว่าขณะนั้นๆเราอยู่ตรงไหนมากกว่า หากเราอยู่ในจุดที่ดีแล้วก็ไม่มีเหตุผลอันใด
ที่จะย้ายไปอยู่ในจุดตรงกันข้าม แต่ถ้าขณะนั้นเราอยู่ในจุดที่ไม่ค่อยดี การย้ายข้างไปอยู่ในจุด
ตรงกันข้ามที่ดีกว่าก็เป็นเรื่องเหมาะสมและสมควร ภาพที่เกิดจากแสงและเงาบนทางเดินมีทั้ง
ส่วนที่มืดและส่วนที่สว่าง เมื่อประกอบกันอย่างเหมาะเจาะจึงปรากฏเป็นภาพที่งดงามขึ้นได้
อย่างไรก็ตามนี่อาจเป็นเรื่องที่ชวนให้พิจารณาและไคร่ครวญต่อไปว่าชีวิตเราควรดำเนินไปใน
ทิศทางใด มืดหรือสว่าง สุขหรือทุกข์ ยึดถือหรือปล่อยวาง ศาสนาพุทธสอนว่าทางสายกลางคือ
แนวทางในการใช้ชีวิตประจำวัน ด้วยการดำรงชีวิตอย่างมีสติ มีปัญญา พิจารณาสิ่งต่างๆอย่าง
รอบคอบ ไม่ประมาทในทุกเรื่อง ทั้งการคิด การทำ การพูด และนี่คือความงดงามของการ
ดำเนินชีวิตที่มีสองด้านอยู่คู่กันเสมอ
โฆษณา