3 พ.ย. 2023 เวลา 08:39 • หุ้น & เศรษฐกิจ

อดีตนายกฯมาเลเซีย แนะ ตรึงค่าเงินริงกิตกับดอลลาร์สหรัฐ หลังค่าเงินอ่อน ด้านธนาคารกลาง คงดบ.ที่ 3%

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก รายงานว่า นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แนะนำว่ารัฐบาลควรพิจารณาตรึงค่าเงินริงกิตกับดอลลาร์สหรัฐ หลังค่าเงินริงกิตอ่อนค่าหนัก จากที่เคยประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ซึ่งเป็นการทำที่ตรงกันข้ามกับคำแนะนำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ)
.
นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 4 ของมาเลเซีย ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 98 ปี เปิดเผยว่า รัฐบาลมาเลเซียควรพิจารณาตรึงค่าเงินริงกิตไว้กับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ เพราะมีโอกาสที่ค่าเงินริงกิตจะร่วงลงสู่จุดต่ำสุดใหม่ที่ 5 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งจะกลายเป็นค่าเงินที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และเมื่อเกิดเหตุกาณ์ค่าเงินร่วงตกต่ำ จะทำให้ค่าครองชีพของชาวมาเลเซียเพิ่มขึ้น เพราะการตรึงค่าเงินริงกิตจะช่วยบรรเทาแรงกดดันด้านเงินเฟ้อในมาเลเซียได้ พร้อมระบุว่า “เป็นสิ่งที่รัฐบาลมาเลเซียต้องพิจารณา”
.
ก่อนหน้านี้ เมื่อ 10 ปีที่แล้ว นายมหาเธร์ โมฮัมหมัด ประสบความสำเร็จในการปกป้องประเทศจากวิกฤตต้มยำกุ้ง โดยกำหนดค่าเงินริงกิตตายตัวไว้ที่ 3.80 ริงกิตต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นการกระทำที่ตรงกันข้ามกับคำแนะนำของกองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ที่ให้ลอยตัวค่าเงิน
เพื่อที่ว่ารัฐบาลจะไม่ต้องเอาเงินตราต่างประเทศสำรองไปต่อสู้กับพวกโจมตีค่าเงินในช่วงเวลาดังกล่าว ก่อนคงนโยบายดังกล่าวจนถึงปี 2548 และในเวลาต่อมา กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ (IMF) ได้ออกมากล่าวยอมรับว่านี่คือ “จุดเปลี่ยนสำคัญที่มีเสถียรภาพ ที่ช่วยให้เศรษฐกิจมาเลเซียฟื้นตัว”
.
สกุลเงินริงกิตของมาเลเซีย กลางเป็นสกุลเงินที่แย่ที่สุดในปีนี้ของทวีปเอเชีย โดยร่วงลงเกือบ 8% เมื่อเทียบกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเมื่อเดือนที่แล้ว สกุลเงินริงกิต ร่วงลงเหลือ 4.8 ริงต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนม.ค. 2541 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดของวิกฤตการณ์หลายปีที่สั่นคลอนตลาดการเงินในเอเชีย
.
ในปีนี้ ค่าเงินริงกิตของมาเลเซีย ได้รับความเดือดร้อน จากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่พุ่งสูงขึ้นสู่ระดับ 5.25-5.50% โดยล่าสุด ธนาคารกลางมาเลเซีย (BNM) มีมติตรึงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 3% ต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 3 ติดต่อกัน สาเหตุจากแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ลดลง
ความไม่แน่นอนทั่วโลก ปัญหาความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ต้นทุนการกู้ยืมที่เพิ่มสูงขึ้น และค่าเงินริงกิตที่อ่อนค่ารุนแรงในรอบ 26 ปี รวมไปถึงเศรษฐกิจจีนซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของมาเลเซีย ที่กำลังอยู่ในภาวะซบเซา ได้สร้างแรงกดดันต่อการส่งออก
.
นาย Abdul Rasheed Ghaffour ผู้ว่าการธนาคารกลางมาเลเซีย เปิดเผยว่า คณะผู้กำหนดนโยบายทางการเงินของมาเลเซีย ยังคงมุ่งมั่นที่จะทำให้แน่ใจว่าค่าเงินริงกิตจะปรับเพิ่มสูงขึ้นอย่างมีระบบ
.
ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) ของมาเลเซีย อยู่ที่ 1.9% ในเดือนก.ย. เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งชะลอตัวลงจากการปรับขึ้น 2.0% ในเดือนส.ค.
***********************************
กด Follow & See First
ไว้เพื่อไม่ให้พลาดข่าวสำคัญกันนะคะ
***********************************
#efinancethai
#มีข่าวมีโอกาส
#ข่าวหุ้น
โฆษณา