4 พ.ย. 2023 เวลา 09:07 • ปรัชญา

“ปัญหานั้น ท่านแก้ได้จะกังวลไปทำไม

ถ้าปัญหานั้นแก้ไม่ได้ จะมีประโยชน์อะไรที่เราจะกังวล”
พอฟังแล้วก็รู้สึกว่ามีแสงสว่างวาบหนึ่งเกิดขึ้นในความคิด
เคยไหม? ไม่กล้าทำงานนี้ เพราะกลัวว่ามันจะล้มเหลว
พอทำๆไปสักพักก็มีเสียงวิจารณ์ของคนอื่นเข้ามาในหัว
“มันไม่เห็นดีเลย”
“ล้มเหลวอีกแล้ว”
คำพูดคนอื่น อาจจะพูดแล้วลืม
ส่วนคนจำเอามาทิ่มแทงตัวเองซ้ำๆ
ถามว่าใครที่ไม่ก้าวไปไหน คำตอบก็คือ ตัวเราเอง
เพราะเราไปหลงยึดเอาว่ามันเป็นตัวกูของกู
ก็เลยเป็นที่มาว่า
ทำไมเครียดง่ายจัง?
ทำไมเราถึงวิตกกังวล และมีความทุกข์
ทำไมรู้สึกว่าชีวิตมันใช้ยากจัง ?
มองไปทางไหนก็เจอปัญหาเต็มไปหมด?
.
ทำไมเราไม่เคยพอใจในสิ่งที่มีอยู่เลย
เพราะอยากได้อยากมีแบบคนอื่น อยากให้เป็นแบบนั้นแบบนี้
เลยมองข้ามสิ่งที่ตัวเองมีและทำได้ดีที่สุด
แม้กระทั่งเวลา
พอรู้ตัวอีกทีเราก็อายุมากขึ้น โดยที่สิ่งที่อยากทำ ยังไม่กล้าลงมือทำด้วยซ้ำ
.
เรากำลังยึดติดกับความล้มเหลว ความสำเร็จ
หรือคำพูดของใคร
.
หนังสือเล่มนี้ให้คำตอบง่ายๆมาก
คือ ทำไปเถอะ ไม่ว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร
ปล่อยวาง
และทำให้ดีที่สุด
ถึงงานจะล้มเหลวไม่ได้แปลว่าเราล้มเหลว
ให้เราหาข้อคิดจากความล้มเหลวว่าทำไมจึงเกิดขึ้น
ถึงเราจะทำอะไรผิดพลาด แล้วโดนวิจารณ์
ก็ให้หาประโยชน์จากคำวิจารณ์นั้น
เพราะชีวิตที่ดี คือชีวิตที่สงบเย็นและเป็นประโยชน์
คือทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ด้วยความปล่อยวาง
จะว่าไป ความทุกข์กับความสุขนี้อยู่ใกล้กันนิดเดียว
แค่เปลี่ยนมุมมอง เราก็พบทางออกแล้ว
หนังสือเล่มนี้เหมาะกับคนในยุคนี้อย่างมาก
หากใครรู้สึกหลงทาง เครียด ท้อ อยากแนะนำให้ลองอ่าน
“ทำเต็มที่แต่ไม่ซีเรียส”
บางครั้งที่เราครียดมากๆ
อาจจะเป็นเพราะเรายังไม่ฝึกทักษะการถอยออกมามองมากพอ
แต่หากฝึกฝนไปเรื่อยๆ ทุกเรื่องก็เป็นเรื่องสบายๆ
ขอให้ทุกคนมีแต่ความสงบสุข #ฝึกฝนและเรียนรู้ไปด้วยกัน
โฆษณา