5 พ.ย. 2023 เวลา 02:59 • สุขภาพ

บทที่ 16 กรด-ด่าง ตอนที่ 1

มีการพูดถึงและแชร์กันอยู่ตลอดว่า มะนาวผสมโซดาเมื่อเข้าไปในร่างกายแล้วจะเป็นด่าง บางแชร์ก็อ้างว่าหมอเป็นคนพูดเอง
เรื่องนี้มีสองประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจครับ
1 ค่าความเป็นกรด-ด่างกำหนดเป็นตัวเลข1-14 ,เลข 1-6 แสดงค่าเป็นกรด ตัวเลขยิ่งน้อยยิ่งเป็นกรดมาก
ทุกค่าตัวเลขที่น้อยลงหนึ่งเลขจะมีค่าความเป็นกรดเพิ่มเป็น 10 เท่า และจะเป็นทวีคูณเมื่อต่างกัน 2 ตัวเลข เช่น pH 6 เป็นกรดน้อยกว่าpH 5 สิบเท่า แต่เมื่อเทียบกับ pH 4 =10x10=100 เท่า
น้ำมะนาวเป็นกรด pH 2.5 โซดา ก็เป็นกรด pH 3.5 ดังนั้น น้ำมะนาวเป็นกรดมากกว่าโซดา 10 เท่า เมื่อเอามาผสมกัน ผลออกมาpHก็ไม่เกิน 3.5 เช่นเอาน้ำมะนาวผสมโซดาในสัดส่วน 1:10 จะได้ pH 3 คือเป็นกรดมาก ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นด่างได้
 
ดังนั้นการบีบมะนาว หรือฝานมะนาวใส่ในน้ำดื่มทั่วไปที่มีค่า pH 7 ก็จะไม่ทำให้น้ำกลายเป็นด่างไปได้เลย
 
2.น้ำมะนาวเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะกลายเป็นด่างก็ไม่เป็นความจริง
ร่างกายจะมีกลไกในการรักษาค่าpH ของเลือดให้คงที่อยู่ที่ 7.4เป็นด่างอ่อนๆโดยดึงแร่ธาตุที่ทำให้เกิดความเป็นด่างเช่น แคลเซียม แมกนีเซียม โปแตสเซียม มาละลายไว้ในเลือดเมื่อมีความเป็นกรด มากขึ้นจากอาหารและเครื่องดื่ม ร่างกายก็ยิ่งต้องละลายแร่ธาตุเหล่านี้ออกมาใช้มากขึ้น หากหาไม่ได้จากอาหารและเครื่องดื่มในแต่ละวันร่างกายจะไปดึงเอามาจากกระดูกและฟัน ระบบนี้นี้มีชื่อเรียกทางวิชาการว่า Buffering System
ดังนั้นการดื่มน้ำมะนาวผสมโซดาก็จะทำให้ร่างกายเป็นกรดมากขึ้นและสูญเสียแคลเซียม แมกนีเซียมมากขึ้น
ผมเองก่อนหน้านี้ก็ใช้โซดาผสมเครื่องดื่มเป็นประจำสุขภาพก็ไม่ค่อยดี พอเข้าใจเรื่องกรด-ด่าง ก็หยุดดื่มเครื่องดื่มที่ผสมน้ำอัดลมและโซดา สุขภาพกลับมาดีอย่างทันตาเห็นครับมีบางท่านบอกผมว่าดื่มคังเก้นแล้วไม่เห็นน้ำหนักลดเลย เพิ่มอีกต่างหาก พอสอบถามกันแล้วปรากฎว่าดื่มน้ำมะนาวผสมโซดาใส่น้ำผึ้งด้วยทุกวัน
มะนาวมีประโยชน์เพราะมีวิตามินซีและมีธาตุอาหารหลายอย่าง แต่โซดามีแต่ความเป็นกรด และเป็นโทษ จึงควรทำความเข้าใจเรื่องนี้ให้ถูกต้อง
โฆษณา