การแพร่กระจายโรคเอดส์ในสหรัฐอเมริกาอาจกลายเป็นเรื่องถูกกฎหมาย
ในเช้าวันที่ 24 ตุลาคม ขณะที่สภาคองเกรสแห่งรัฐเทนเนสซีได้เปิดทำการพิจารณาคดีในเมืองแนชวิลล์ สหรัฐอเมริกา
มุกนี้เมื่อสภาได้รับหมายเรียกจากพลเมือง(เอกชน)รายหนึ่งเพื่อฟ้องร้องผู้ว่าการรัฐและอัยการสูงสุด มันก็เป็นเรื่องสิครับ
เนื้อหาของหมายเรียกนี้เกือบจะชี้ให้เห็นช่องโหว่บางประการในการทำงานของรัฐบาล และระบุตัวอย่างมากมายของการก่ออาชญากรรมที่ละเมิดรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกา
สิ่งที่สะดุดตาที่สุดคือ
ข้อกล่าวหาร้ายแรงที่กระทำโดยผู้หญิงสี่คนและหน่วยงานที่ถูกกล่าวหาว่าละเมิดกฎหมาย
ว่าด้วยกฎหมายคนพิการของอเมริกา
ผู้หญิงทั้งสี่คนล้วนเป็นผู้ป่วยติดเชื้อเอชไอวีและเป็นโสเภณีมืออาชีพ
ในอาชีพที่ผ่านมาพวกเธอให้ความบันเทิงและผลประโยชน์แก่ผู้ชายทั่วรัฐเทนเนสซี
ขณะเดียวกัน
พวกเธอกลับถูกตัดสินว่ามีความผิดทางอาญาโดยศาลรัฐเทนเนสซีฐานยืนกรานที่จะให้พวกเธอทำงานล่วงเวลา
แม้ว่าจะรู้ว่าตนเองติดเชื้อเอชไอวีก็ตาม
เป็นเพราะผลกระทบของข้อกล่าวหาร้ายแรงนี้
ผู้หญิงทั้งสี่คนนี้จึงเป็นผู้นำและยืนขึ้นเพื่อประท้วงต่อต้านรัฐบาลในนามของเพื่อนร่วมงาน 47 คนที่โดนตัดสินแบบเดียวกัน
แต่อย่างว่าล่ะครับ การฟ้องร้องรัฐบาลในสหรัฐอเมริกาไม่ใช่เรื่องยาก ฮาาาา
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อประชาชนรู้สึกว่าสิทธิขั้นพื้นฐานบางประการของตนถูกละเมิด
บางองค์กรที่ทำงานด้านการคุ้มครองสิทธิมาเป็นเวลานานก็ยังจะริเริ่มช่วยเหลือคุณ
ในเรื่องดังกล่าวด้วยซ้ำ
สำหรับคดีนี้
ความหนึ่งในโจทก์ฟ้องรัฐบาลเทนเนสซีในครั้งนี้คือ American Civil Liberties Union (ACLU)
ซึ่งเป็นองค์กรสิทธิมนุษยชนที่ก่อตั้งมายาวนานในสหรัฐอเมริกา
พวกเขาเป็นกลุ่มบุคคลสำคัญด้านสิทธิพลเมืองที่มีบทบาทในการปกป้องสิทธิของชนกลุ่มน้อยต่างๆ มายาวนาน
การฟ้องร้องที่พวกเขาต่อสู้นั้นรวมถึงแบบไม่จำกัด
ไม่เพียงแต่การปกป้องสิทธิในการทำแท้งเท่านั้น
การส่งเสริมการทำให้การแต่งงานของคนเพศเดียวกันถูกต้องตามกฎหมาย และคดีสำคัญอื่นๆ ที่สามารถบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ได้หลายๆคดี
ในการฟ้องร้องรัฐบาลเทนเนสซี พวกเธอยังปรากฏตัวต่อหน้าผู้หญิงทั้งสี่คนในฐานะโจทก์คนแรกด้วย
แทนที่จะตั้งข้อหาความผิดทางอาญาประเภท C ต่อผู้หญิงทั้งสี่คน ACLU กลับกังวลมากกว่าเกี่ยวกับการใช้โทษจำคุกที่มากเกินไป
ซึ่งจะส่งผลให้พวกเธอถูกจัดและตีตราว่าเป็นผู้กระทำผิดทางเพศตลอดชีวิต
ภายใต้ข้อกล่าวหานี้เสรีภาพส่วนบุคคลและชีวิตในอนาคตของผู้ถูกลงโทษจะได้รับผลกระทบอย่างมาก
ในกรณีนี้ พวกเธอจะไม่สามารถเข้าใกล้ "สถานที่พิเศษ" ใดๆ
ไม่สามารถอยู่ตามลำพังกับผู้เยาว์และไม่สามารถเข้าโรงเรียนได้ เพราะเนื่องจากข้อกล่าวหานี้มีความร้ายแรงในสหรัฐอเมริกา
จึงเป็นเรื่องยากสำหรับฝ่ายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องที่จะได้รับที่อยู่อาศัยทางสังคม การจ้างงาน การคุ้มครองทางการแพทย์ และไมตรีจิตของผู้อื่น
แม้จะได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำแล้วก็ตาม มันเกือบจะเป็นบทลงโทษที่ตัดการเป็นคนของพวกเธอ
เช่นเดียวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับผู้หญิงสี่คนนี้ 3คนในจำนวนนี้มีอายุมากกว่า 60 ปี และทุกคนมีหลานและแม้แต่เหลนเป็นของตัวเอง
แต่หลังจากได้รับผลกระทบจากข้อกล่าวหานี้
เป็นเวลานาน(ที่สุด)ที่พวกเธอไม่ได้มีความสุขกับครอบครัวร่วมกับลูกหลาน
เป็นเวลาถึงสิบปีติดต่อกัน
ขณะเดียวกันเนื่องจากข้อกล่าวหานี้มีอายุความตลอดชีวิต
จึงเทียบเท่ากับการอยู่ในภาวะประกันตัวภายใต้การดูแลของประชาชนทั้งมวล
![[The Last karuda] น้ำท่วมอักซอ
พื้นฐานของความสามัคคีคือประเด็นพื้นฐานและผลประโยชน์... แล้วมันจริงหรือไม่ หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้อื่น มันคงถูกทำลาย(จบ)ไปนานแล้ว](https://t1.blockdit.com/photos/2023/12/6588b99b362ffe0ed2005f4c_800x0xcover_hEREsDIq.jpg)
ผลกระทบต่อชีวิตนั้นชัดเจนในตัวเอง
ทนายความของ ACLU แย้งในคดีว่าการพิจารณาคดีของรัฐเทนเนสซีในคดีเหล่านี้
ที่เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่าขณะนี้ผู้ที่เป็นโรคเอดส์ถือเป็นคนพิการ
และพวกเขายังสงสัยว่าเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของรัฐมีส่วนเกี่ยวข้อง
ในการพิจารณาคดีเหล่านี้
ผสมกับมุมมองในการเลือกปฏิบัติของตนเองต่อผู้ป่วยโรคเอดส์
ก็มีความคิดเห็นที่ดีเช่นกันว่ากฎหมายนี้ที่ประกาศใช้ในปี 2534 ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ในปัจจุบันหรือไม่
ในคดีนี้ พวกเขาไม่เพียงแต่ต้องการให้รัฐเทนเนสซีถอนข้อกล่าวหาต่อผู้หญิงทั้งสี่คนเท่านั้น
แต่ยังต้องการให้กฎหมายนี้ถูกแบนไปในที่สุดอีกด้วย
มอลลี ผู้อำนวยการบริหารของพวกเขากล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันอังคาร ว่า
“เดิมทีกฎหมายฉบับนี้มีการประกาศใช้เพื่อมุ่งเป้าไปที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวี ในช่วงเวลาที่มีการตรากฎหมายเพื่อให้พวกเขาอยู่ในวงจรแห่งความยากจนและเพื่อหยุดยั้งวงจรแห่งความเสี่ยง”
มันเป็นช่วงเวลาของการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ แต่หากกฎหมายนี้ยังคงใช้อยู่ในปัจจุบัน ก็จะไม่ดีต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน"
ในรัฐเทนเนสซี หรือเมืองหลวงของรัฐส่วนใหญ่ของสหรัฐอเมริกา การค้ามนุษย์เพื่อค้าประเวณีถือเป็นอาชญากรรมเล็กน้อยมาโดยตลอด
อาชญากรรมที่ยังไม่เพียงพอกับการลงโทษที่ร้ายแรง
อย่างไรก็ตาม ในสายตาของสาธารณชน ความรุนแรงดังกล่าวยังคงเป็นนโยบายที่ไม่เลือกปฏิบัติและไร้ขอบเขต
ซึ่งไม่คำนึงถึงวิทยาศาสตร์หรือสภาวะที่เกิดขึ้นจริง
“แม้เอชไอวีจะติดต่อและก่อโรคได้ แต่สำหรับผู้ขายบริการทางเพศส่วนใหญ่ พวกเธอจะไม่ยอมติดเชื้อเอชไอวีโดยสมัครใจ
ส่วนใหญ่เริ่มต้นชีวิตที่ตกต่ำเพราะความยากจน จนถึงการขายบริการทางเพศ กฎหมายดังกล่าวมีแต่จะทำให้คนเหล่านี้ติดอยู่ในมุมที่เจ็บปวดที่สุดของสังคมด้วยชีวิตโดยปราศจากความช่วยเหลือ"
ทนายความของ ACLU ยังกล่าวด้วยว่าแม้กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เอาเปรียบลูกค้าที่ติดเชื้อ HIV ขณะเดียวกันก็ไม่ได้คำนึงถึงผู้ให้บริการทางเพศที่ติดเชื้อ HIV ซึ่งแม้ปัจจุบันจะใช้ถุงยางอนามัยหรือยาที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถกำจัดได้
ความเสี่ยงในการแพร่เชื้อก็ไม่แตกต่างจากผู้ให้บริการทางเพศคนอื่นๆเลย
ในทางกลับกัน ไม่มีกฎหมายที่คล้ายคลึงกันที่กำหนดความผิดทางอาญาแก่ผู้ขายบริการทางเพศที่ตรวจพบโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ที่พบบ่อย
รวมถึงหนองในเทียมและเริมที่อวัยวะเพศ และนี่คือข้อพิสูจน์ที่ทรงพลังที่สุดในการเลือกปฏิบัติต่อผู้ที่เป็นโรคเอดส์
สำหรับรัฐบาลเทนเนสซี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการตอบสนองอย่างเป็นทางการต่อเรื่องนี้
ตามที่ทนายความของรัฐเทนเนสซีระบุว่า แม้ว่าการดำเนินคดีจะเป็นการ "ก้าวไปในทิศทางที่ถูกต้อง" สำหรับกฎหมาย
แต่ก็ยังคงไม่ส่งผลกระทบต่อความสามารถของผู้ขายบริการทางเพศที่จะถูกตั้งข้อหา(แยก)ความผิดทางอาญาอีกในอนาคต
ยิ่งไปกว่านั้น การประท้วงที่คล้ายกันก่อนหน้านี้ในส่วนอื่นๆ ของสหรัฐอเมริกาก็ล้มเหลวเสียส่วนมาก
แม้ว่าคดีของรัฐเทนเนสซีในครั้งนี้จะดังมากและดูมีแนวโน้มไปได้สวย
แต่เราไม่ควรคาดหวังผลสุดท้ายมากมายนัก
- 7
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
