ใครคือ ผู้ก่อตั้งกลุ่มฮามาส ?
ถ้าอิสราเอลเป็นพวกอันธพาลที่บุกรุกและยึดครองดินแดนปาเลสไตน์ ฟาตาห์ก็เป็นตัววายร้าย โดยจับชาวปาเลสไตน์ธรรมดาเป็นตัวประกัน
และเรียกร้องค่าไถ่จากโลกเพื่อสนองความปรารถนาของตนเอง
แน่นอนว่าฟาตาห์ไม่ใช่ตัววายร้ายกลุ่มเดียวในหมู่ชาวปาเลสไตน์ มีคนวายร้าย มากมายทั้งเล็กและใหญ่
อย่างไรก็ตาม ถ้าเราอยากจะบอกว่ามีคนวายร้ายเพียงคนเดียวที่มีอิทธิพลเช่นเดียวกับฟาตาห์ก็คือคนที่เป็นผู้นำในครั้งนี้.
แต่ ตอนนี้ ผู้ก่อตั้งกลุ่มฮามาส ชื่อยัสซิน(Yassin) กำลังต่อสู้กับตนเอง เขาเป็นอัมพาตที่ต้องนั่งรถเข็นตลอดทั้งชีวิต
เมื่อยัสซินเกิด ในตอนนั้น โลกนี้ไม่มีทั้งรัฐอิสราเอลและปาเลสไตน์ ขณะนั้น พื้นที่ปาเลสไตน์ยังคงเป็นพื้นที่อาณัติของอังกฤษ
ในช่วงสงครามตะวันออกกลางครั้งแรก บ้านเกิดของ Yassin ถูกทำลายจากสงคราม และครอบครัวของเขาถูกบังคับให้หนีไปยังฉนวนกาซาและตั้งถิ่นฐานที่นั่น
เมื่ออายุ 12 ปี เขาได้รับบาดเจ็บที่กระดูกสันหลังขณะเล่นมวยปล้ำกับเพื่อน ยัสซิน ไม่เคยลุกขึ้นยืนอีกเลยในชีวิต
ตั้งแต่นั้นมา สุขภาพของยัสซิน ก็แย่ลง เขาจึงไม่สามารถไปโรงเรียนได้เลย
อย่างไรก็ตาม ยัสซิน สอนและร่ำเรียนด้วยตนเอง ทั้งด้านสังคมวิทยา ศาสนา ปรัชญา การเมือง เศรษฐศาสตร์ และวิชาอื่นๆ ที่บ้าน
และกลายเป็นปรมาจารย์ด้านศิลปศาสตร์โดยสมบูรณ์ แม้ ยัสซินไม่ใช่นักศึกษาเนิร์ด
ศิลปศาสตร์ แต่ด้วยบุคลิก เขาพูดจาไพเราะ วาจาของเขาดูไพเราะน่าฟังมาก
เมื่อเวลาผ่านไป ยัสซินก็มีผู้ติดตามกลุ่มใหญ่อยู่รอบตัวเขา
จากสิ่งที่ยัสซิน ทำในเวลาต่อมา จะเห็นได้ว่า หากนักศึกษาศิลปศาสตร์ไปผิดทางก็จะส่งผลร้ายแรงต่อโลกอย่างมาก
ในช่วงปี 2513 ยัสซินพาผู้ติดตามของเขาไปเข้าร่วมกลุ่มภราดรภาพมุสลิม
กลุ่มภราดรภาพมุสลิมเป็นองค์กรทางการเมืองหัวรุนแรงในโลกอาหรับ ครั้งหนึ่งเคยขึ้นสู่อำนาจในอียิปต์เมื่อไม่กี่ปีก่อน
และปัจจุบันได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์กรก่อการร้ายจากหลายประเทศ
อย่างไรก็ตาม ยัสซินเห็นด้วยกับมุมมองทางการเมืองของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในเวลานั้น เขาก่อตั้งสาขาท้องถิ่นของกลุ่มภราดรภาพมุสลิมในปาเลสไตน์
และตั้งชื่อให้ว่า "องค์กรญิฮาดอิสลาม" (Mujama al-Islamiya) ต่อมาองค์กรนี้ได้จัดตั้งหน่วยงานทางทหารของตนเองขึ้น
ซึ่งก็คือกลุ่มฮามาสในปัจจุบัน
เพื่อนๆ อาจไม่คิดว่ากลุ่มฮามาสซึ่งปัจจุบันสาบานร่วมกับอิสราเอลนั้นครั้งหนึ่งเคยมีความสัมพันธ์ฉันมิตรกับอิสราเอลเมื่อก่อตั้งขึ้น
เนื่องจากฟาตาห์ซึ่งนำโดยอาราฟัตเป็นองค์กรทางการเมืองที่ใหญ่ที่สุดในปาเลสไตน์ในขณะนั้น และชาวปาเลสไตน์ส่วนใหญ่สนับสนุนฟาตาห์
อิสราเอลเอง ก็กระตือรือร้นที่จะแบ่งแยกชาวปาเลสไตน์ ดังนั้น จึงสนับสนุนยัสซินและองค์กรญิฮาดของเขา แล้วความยุ่งยากก็ตามมา...
ในความเป็นจริง ในยุคแรกๆ พฤติกรรมของฟาตาห์ก็คล้ายคลึงกับพฤติกรรมของฮามาส
ซึ่งใช้ความหวาดกลัวเพื่อบังคับฝ่ายตรงข้ามให้สนองความต้องการของพวกเขา
อย่างไรก็ตาม ในปีต่อ ๆ มา ฟาตาห์ก็ค่อยๆ กลายเป็นแค่คนทั่วไปและพฤติกรรมของมันก็ยิ่งมีแนวโน้มที่จะแก้ไขยากมากขึ้นเรื่อยๆ
ในปัญหาโดยการเจรจาต่อรอง ฟาตาห์และตัวของอาราฟัตเอง ก็ตกลงที่จะแบ่งพื้นที่ปาเลสไตน์ออกเป็นสองส่วน
โดยมีปาเลสไตน์อยู่ฝั่งหนึ่งและอิสราเอลอยู่อีกด้านหนึ่ง
แต่จุดยืนของยัสซิน คือเขาจะไม่มีวันประนีประนอมและต้องขับไล่อิสราเอลออกจากพื้นที่ปาเลสไตน์
ดังนั้นอาราฟัตและยัสซินจึงไม่สามารถใช้พื้นที่ร่วมกันได้ ฟาตาห์และฮามาสก็เลยเป็นคนแปลกหน้ากันมาตลอด
แม้ว่าแนวคิดของยัสซินจะสุดโต่งกว่านั้น กลุ่มฮามาสก็ยังไม่เลิกล้ม และชาวอิสราเอลก็ไม่ได้จริงจังกับกลุ่มของพวกเขาเลย ฮาาาาา
ดังนั้น พวกเขาจึงสนับสนุนกลุ่มฮามาสอย่างมั่นใจและกล้าหาญ และยอมให้พวกเขาก่อปัญหากับฟาตาห์
ชาวอิสราเอลยังถือว่า "ญิฮาดอิสลาม" ของยัสซินเป็นองค์กรการกุศล
และพวกเขายังอนุญาตให้ยัสซินสร้างโรงเรียน ห้องสมุด มัสยิด และสถาบันอื่นๆ ในฉนวนกาซาซะอีก..
https://www.middleeastmonitor.com/20240101-profile-sheikh-ahmed-yassin-founder-of-hamas/
ในเวลานั้น เซเกฟ (Yitzhak Segev) ผู้ว่าการอิสราเอลในฉนวนกาซาประกาศว่า
Yassin และองค์กรการกุศลของเขาเป็นความสงบสุข 100% สำหรับอิสราเอล Segev เองก็ติดต่อกับ Yassin เป็นประจำ
ทั้งสองพบกันมากกว่าสิบครั้ง Segev ยังจัดให้ Yassin ไปโรงพยาบาลของอิสราเอลเป็นการส่วนตัวเพื่อรับการรักษาพยาบาล
เซเกฟเองก็ประกาศว่าฟาตาห์คือ "ศัตรูหลักของเรา"
ซึ่งหมายความว่าพวกเขาถือว่าฮามาสเป็นเพื่อน แต่ เมื่อกลุ่มฮามาสปะทะกับฟาตาห์ ทางการอิสราเอลก็พยายามหลีกเลี่ยง
อาจกล่าวได้ว่าในช่วงเวลานี้ ฮามาสและอิสราเอลมีความใกล้ชิดกันมาก และวันเวลาของพวกเขาก็เหมือนกับการฮันนีมูนที่หวานชื่น
แน่นอนว่าความคิดเห็นทางการเมืองสุดโต่งของยัสซินจะตกอยู่กับชาวอิสราเอลไม่ช้าก็เร็ว
ในปี 2527 อิสราเอลกลับค้นพบคลังอาวุธลับของฮามาส และยัสซินก็ถูกจับกุมในทันทีและควบคุมตัวเป็นเวลาหนึ่งปีก่อนที่จะได้รับการปล่อยตัว
นั่นคือ.....ทั้งสองฝ่ายแยกทางกันนับจากนั้นเป็นต้นมา
ด้วยความแค้มที่สุ่มทรวง ในปี 2532 กลุ่มฮามาสจึงเปิดฉากการโจมตีอิสราเอลครั้งแรก
สังหารทหารอิสราเอลไป 2 คน ยัสซินถูกทางการอิสราเอลจับกุมและถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต
ยัสซินถูกจำคุก 8 ปีก่อนที่อิสราเอลจะได้รับการปล่อยตัวในฐานะผู้ต่อรอง
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ยัสซินได้เรียกร้องให้กลุ่มฮามาสโจมตีอิสราเอล ทางการอิสราเอลจึงสั่งจำคุกยัสซินเป็นระยะๆ
เพื่อเป็นการลงโทษสำหรับคำพูดและการกระทำของเขา และยังเปิดฉากโจมตีเพื่อทำให้ยัสซินหวาดกลัวอีกด้วย
ยัสซิน รู้ด้วยว่าเขาไม่สามารถหลบหนีการสอดแนมของชาวอิสราเอลได้ไม่ว่าเขาจะซ่อนตัวอย่างไร
ดังนั้นเขาจึงปรากฏตัวในที่สาธารณะอย่างเปิดเผยและเทศนา ด่าแม่งไปตลอดทั้งวัน รวมถึงคำพูดที่รุนแรงต่อชาวยิวตลอดทั้งวันอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย
เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2547 หลังจากที่ยัสซินเข้าร่วมการประชุมสวดมนต์ตอนเช้า(ละหมาด) ขณะที่เขากำลังจะออกจากสถานที่นั้น
เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธ Apache AH-64 ของกองทัพอิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธ Hellfire ใส่ยัสซินและบอดี้การ์ดทั้ง 9 คนของเขา
ยัสซิน บอดี้การ์ดของเขา และผู้ยืนดู(ปาเลสไตน์มุง)อีก 9 คนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ขณะที่อีก 12 คนได้รับบาดเจ็บระหว่างปฏิบัติการ
โดยพื้นฐานแล้วร่างกายของยัสซิน นั้นไม่สมบูรณ์ และตอนนั้นชีวิตเขาดับลง แต่ดวงตาของเขากลับเบิกกว้างเหมือนได้รับรู้อะไรบางอย่าง
และ ทำให้ ฮามาสรุ่นต่อๆ มาในแต่ละรุ่นก็แย่กว่ารุ่นก่อนๆ
ในช่วงปีแรก ๆ ของยุคยัสซิน กลุ่มฮามาสค่อนข้างมีอุดมคติ ต่อมา กลุ่มฮามาสกลายเป็นองค์กรอันธพาล
โดยจับชาวปาเลสไตน์เป็นตัวประกัน แกล้งอิสราเอลเพื่อแก้แค้นตลอดทั้งวัน แล้วรับรีดไถเงินบริจาคจากทั่วโลก ...ร่ำรวยๆกันทุกท่านขอรับ....
- 9
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
