11 พ.ย. 2023 เวลา 00:00 • หนังสือ

บทความ Blockdit ตอน ยอดหมาฮาจิโกะ

หมายเหตุ 10 พฤศจิกายน 2023 เป็นวันครบรอบวันเกิด 100 ปีของฮาจิโกะ หมาที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกตัวหนึ่ง บทความนี้เขียนเพื่อ รําลึกถึงฮาจิโกะ
ฮาจิโกะเกิดเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 1923 ในไร่แห่งหนึ่งที่เมืองโอดา เตะ เขตอาคิตะ ประเทศญี่ปุ่น พื้นที่นี้เป็นต้นกําาเนิดของสุนัขพันธุ์อาคิ ตะซึ่งขึ้นชื่อว่าฉลาด ซื่อสัตย์ กล้าหาญ
ฮาจิโกะก็ฉลาดและซื่อสัตย์ หลังลืมตาดูโลกสองเดือน มันก็ ย้ายบ้านจากบ้านชาวนาที่มันถือกําาเนิด เข้าไปในเมือง
กลางฤดูหนาวเดือนมกราคม ปี 1924 ฮาจิโกะโดยสารรถไฟ ไปกับชายหนุ่มคนหนึ่ง ผู้เป็นลูกศิษย์ของ ฮิเดซาบุโระ อูเอโนะ ศาสตราจารย์ภาควิชาเกษตรกรรม มหาวิทยาลัยโตเกียวอิมพีเรียล
1
ท่านศาสตราจารย์อยากได้ลูกหมาพันธุ์อาคิตะมาเลี้ยง เพิ่มจาก หมาสองตัวที่มีอยู่แล้วซึ่งเป็นพันธุ์ English Pointer ชื่อ จอห์น กับอีสึ ท่านขอให้ลูกศิษย์ช่วยหาอาคิตะให้เขาสักตัว
ฮาจิโกะเดินทางถึงบ้านท่านศาสตราจารย์ที่ย่านชิบุยะในสภาพ ป่วย มันอ่อนแอและเป็นไข้สูง จนท่านศาสตราจารย์คาดว่ามันอาจมี ชีวิตไม่รอดผ่านฤดูหนาวนั้น
1
อย่างไรก็ตาม ศาสตราจารย์กับภรรยาก็ประคบประหงมมันจน มันรอดตาย หกเดือนให้หลัง ลูกหมาตัวใหม่ก็วิ่งปร๋อไปทั่ว
1
ฮาจิโกะ
ศาสตราจารย์อูเอโนะตั้งชื่ออาคิตะตัวนี้ว่า ฮาจิ แปลว่า 8 เพราะ มันเป็นเลขมงคล
ฮาจิโกะก็คือความเป็นมงคลอย่างแท้จริง
ไม่นาน ฮาจิโกะกลายเป็นเพื่อนใหม่ของ จอห์น กับอีสึ ศาสตราจารย์โดยสารรถไฟไปทํางาน หมาทั้งสามรวมทั้งฮาจิ
โกะ ก็รอเจ้านายกลับบ้านทุกวัน
ศาสตราจารย์อูเอโนะรักฮาจิโกะมาก ดูแลอย่างดี แปรงขน ป้อนอาหารมันราวกับลูกในไส้ ทุกๆ วัน ฮาจิโกะจะส่งเจ้านายที่หน้าประตู ครั้นตอนเย็นก็วิ่งไป รอท่านที่สถานีรถไฟชิบุยะอย่างกระตือรือร้น ท่านศาสตราจารย์กับหมาเดินกลับบ้านด้วยกัน
1
มันเป็นหมาที่มีความสุข
วันที่ 21 พฤษภาคม 1925 ฮาจิโกะส่งเจ้านายมันตามปกติ ครั้นตอนเย็น มันก็ไปรอท่านศาสตราจารย์ที่สถานีรถไฟเช่นเดิม แต่วันนั้นเมื่อ ประตูรถเปิดออก ไม่มีเงาร่างของคนที่มันคุ้นเคย มันไม่รู้ว่าเจ้านายไปไหน ทําไมจึงไม่กลับมาหามัน
ฮาจิโกะรอคอยเจ้านาย
ฮาจิโกะกลับบ้านอย่างเงื่องหงอย วันรุ่งขึ้นมันก็ไปรอเจ้านายที่สถานีรถไฟอีก ท่านศาสตราจารย์ไม่ได้กลับบ้านอีกวัน ฮาจิโกะไม่รู้ว่าวันนั้นขณะสอนหนังสือ ท่านศาสตราจารย์เกิดหัวใจวาย ถึงแก่ความตายในมหาวิทยาลัย วัย 53 ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขกับมันเพียง 16 เดือน
6
ฮาจิโกะเห็นเจ้านายมันอีกครั้งในงานศพ พวกเขาวางโลงศพของ ท่านศาสตราจารย์ที่บ้าน ฮาจิโกะคลานไปหมอบใต้โลงศพของเจ้านาย ไม่ยอมออกมา
2
ศาสตราจารย์กับภรรยา ยาอีโกะ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส ยาอีโกะจึง ไม่มีสิทธิ์ครอบครองบ้านหลังสามีตาย ทําให้ไม่สามารถเลี้ยงฮาจิโกะ ต่อไปได้
ยาอีโกะส่งฮาจิโกะไปอยู่กับญาติของนางที่อาซาสุกะ แต่กระนั้นฮาจิโกะก็มักวิ่งกลับมาที่บ้านเดิมที่ชิบุยะเสมอ เมื่อไม่พบท่านศาสตราจารย์ มันก็ไปรอท่านที่สถานีรถไฟชิบุยะ เป็นเช่นนี้ทุกวันจน
กระทั่งคนสวนของท่านศาสตราจารย์ชื่อ โคบายาชิ คิคุซาบุโระ เกรงว่ามันจะเป็นอันตราย ก็รับมันมาเลี้ยงเอง
บ้านคนสวนอยู่ไม่ไกลจากบ้านศาสตราจารย์นัก ดังนั้นฮาจิโกะ ก็วิ่งไปรอท่านศาสตราจารย์ทุกวันที่สถานีรถไฟ ไม่ช้านาน ทุกคนที่สถานีรถไฟก็สังเกตเห็นพฤติกรรมของมัน ด้วยความประหลาดใจระคนชื่นชม ผู้คนจํา ได้ว่ามันเป็นหมาของ
ศาสตราจารย์อูเอโนะ และเดินกลับบ้านพร้อมเจ้านายเสมอ
ทุกเย็นฮาจิโกะไปที่สถานีรถไฟทุกวัน ไม่ว่าฝนตกแดดออก อากาศร้อนหรือหนาว มันยังคงรอเจ้านายมันกลับบ้าน ทุกวันมันมองดูผู้คนเดินผ่านไปมา และทุกวันมันก็ผิดหวังที่ไม่ เห็นเจ้านายของมัน คนผ่านทางก็เริ่มให้อาหารมัน ระหว่างที่มันรอ แต่เด็กบางคน ก็รังแกมัน ราดน้ำ ใส่ ไล่ตีมัน แต่มันก็ยังกลับไปที่นั่นเสมอ วันหนึ่งลูกศิษย์คนหนึ่งของศาสตราจารย์ชื่อ ฮิโรคิชิ ไซโตะ เห็นฮาจิโกะที่สถานีรถไฟ และพบว่ามันเป็นหมาของศาสตราจารย์ ไซ
1
โตะศึกษาเกี่ยวกับหมาพันธุ์อาคิตะมาอย่างดี รู้ว่าหมาพันธุ์นี้เหลือน้อย เมื่อรู้ประวัติของฮาจิโกะ เขายิ่งเกิดความประทับใจ เขาไปเยี่ยมฮาจิโกะ บ่อยๆ
ช่วงหลายปีนั้น ไซโตะเขียนเรื่องราวของฮาจิโกะหลายบท หนึ่งในบทความได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ โตเกียว อาซาฮิ ชิมบุน ฉบับวันที่ 4 ตุลาคม 1932
หัวเรื่องคือ สุนัขที่รอเจ้าของผู้ตายไปแล้วนานเจ็ดปี
ฮาจิโกะกลายเป็นหมาที่มีชื่อเสียงทั่วประเทศในชั่วข้ามคืน มีคนจํานวนมากไปเยี่ยมมันที่สถานี นําอาหารไปให้มัน กวีเขียนไฮกุ เกี่ยวกับมัน ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดีคือหัวใจของวิถีญี่ปุ่น ฮาจิโกะเป็นหมา แต่มันเดินตามวิถีทางนั้น แตะหัวใจทุกคนที่เห็นชาวญี่ปุ่นเรียกมันว่า ชูเค็น ฮาจิโกะ แปลว่า ฮาจิโกะ หมาผู้ ซื่อสัตย์ เพราะมันเป็นสัญลักษณ์ความซื่อสัตย์จงรักภักดี
ชื่อเสียงของฮาจิโกะพลอยทํา ให้หมาจรจัดทั้งหลายในญี่ปุ่น ได้รับการดูแลดีขึ้นในปี 1933 ประติมากร เทรุ อันโดะ หล่อรูปปั้นฮาจิโกะเป็นปูนปั้น แสดงในงาน The Imperial Fine Arts Academy Exhibition ในปีถัดมา มีการเรี่ยไรเงินสร้างอนุสาวรีย์ฮาจิโกะ โดยให้ เทรุ อันโดะ ปั้นรูปหมาเป็นโลหะบรอนซ์ ตั้งที่สถานีรถไฟชิบุยะ
1
ฮาจิโกะไปรอเจ้านายที่สถานีรถไฟที่จุดเดิมทุกวัน เดือนแล้วเดือนเล่าปีแล้วปีเล่า เวลาผ่านไปนานเก้าปี มันก็เริ่มอ่อนล้า เข้าสู่วัยชรา วันแล้ววันเล่า ไม่ว่าอากาศร้อนหรือหนาว ฮาจิโกะยังคงไปสถานี รถไฟทุกวัน ชะเง้อรอเจ้านายอย่างมีความหวัง แต่ทุกครั้งที่ประตูรถไฟเปิดออก ท่านศาสตราจารย์ก็ไม่ได้ก้าวออกมา มันก็กลับบ้าน รอคอย
ความหวังในวันใหม่
แต่ท่านศาสตราจารย์ไม่เคยกลับมาหามันอีกเลย เช้าวันที่ 8 เดือนมีนาคม 1935 หลังจากผ่านเวลารอคอยนานเก้าปี เก้าเดือน กับสิบห้าวัน มีผู้พบร่างไร้ชีวิตของฮาจิโกะที่ริมถนนในชิบุยะ มันผ่านชีวิตทั้งชีวิตไปกับการรอคอยที่ไม่สัมฤทธิ์ผลฮาจิโกะอายุสิบสองปีเมื่อจากโลกไปความตายของฮาจิโกะเป็นข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ มีพิธีศพที่มีพระสวด มีคนเอ่ยคํา ไว้อาลัย
3
ผู้คนพากันไปเยี่ยมอนุสาวรีย์ฮาจิโกะศพของฮาจิโกะถูกเก็บรักษาในพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติโตเกียว ทุกปีในวันคล้ายวันตายของมัน บรรดาคนรักหมาจะไปทํา พิธีรําลึกถึงฮาจิโกะที่สถานีรถไฟนั้น มันอยู่ในหัวใจของทุกคนตลอดกาล
1
ฮาจิโกะตาย
โลกหมุนเวียนต่อไป ญี่ปุ่นกระโจนเข้าสู่สงครามอันโหดร้าย ในช่วงปลายสงครามโลกเมื่อญี่ปุ่นถูกกองทัพสัมพันธมิตรล้อม ขาดแคลนโลหะอย่างหนัก ในปี 1944 รูปปั้นโลหะฮาจิโกะถูกหลอมละลาย เพื่อใช้หล่ออุปกรณ์รถไฟ สัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีถูกไฟสงครามละลาย สงครามที่คนญี่ปุ่นจํานวนมากเสียชีวิตรักษาความเชื่อบางอย่าง
2
แล้วสงครามก็ยุติ ในปี 1948 ลูกชายประติมากร เทรุ อันโดะ รณรงค์ให้สร้างรูปปั้นฮาจิโกะขึ้นมาใหม่ เป็นศูนย์รวมใจคนอีกครั้ง พวกเขาสามารถรวบรวมทุนเรี่ยไรได้แปดหมื่นเยน ถือว่ามากในเวลานั้น (เทียบประมาณ 28 ล้านดอลลาร์ตอนนี้)
รูปปั้นฮาจิโกะไม่ใช่ที่ระลึกเดียว ประตูทางเข้าสถานีรถไฟถูกตั้ง ชื่อว่า ฮาจิโกะกุชิ (ทางเข้าของฮาจิโกะ) รถไฟสายหนึ่งตั้งชื่อว่าสายฮาจิโกะ
นอกจากนี้มีการสร้างรูปปั้นฮาจิโกะ ตั้งที่หลุมศพของเจ้านายมัน
รูปปั้นฮาจิโกะ
ในปี 1994 สถานี Nippon Cultural Broadcasting แกะเสียงเห่าของฮาจิโกะจากแผ่นเสียงเก่าที่แตกพัง ในวันที่ 28 พฤษภาคม 1994 ชาวญี่ปุ่นนับล้านๆ คนก็ได้ยินเสียงเห่าของฮาจิโกะเป็นครั้งแรก
ในเดือนมีนาคม 2015 แปดสิบปีหลังฮาจิโกะตาย คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยโตเกียว ก่อตั้งรูปปั้นศาสตราจารย์กับหมาคู่ใจ ศาสตราจารย์อยู่ในชุดที่เขาสวมในวันที่เขาตาย ส่วนฮาจิโกะแสดงความดีใจที่พบศาสตราจารย์อีกครั้ง มันไม่ใช่ความจริงที่เกิดขึ้น แต่เป็นภาพที่ฮาจิโกะฝัน และมันเป็นความฝันที่ทุกคนต้องการเก็บไว้ในส่วนลึกที่สุดของหัวใจ ในหัวใจของชาวโลก คนกับหมาอยู่เคียงกันตลอดกาล
3
รูปปั้นฮาจิโกะกับท่านศาสตราจารย์
รูปปั้นฮาจิโกะหน้าสถานีรถไฟ
โฆษณา