4 ธ.ค. 2023 เวลา 23:10 • ประวัติศาสตร์

‎بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ

วันพุธ ที่ 24 เดือนเซาวาล ฮ.ศ. 1443 : อ้างอิงวันที่จากเพจประวัติศาสตร์อิสลาม
ท่านมุราด บิน ออร์คาน สุลต่านแห่งจักรวรรดิอุษมานียะห์
ท่านอาบู อัลฟาตะห์ มุรอดุลเอาวัล บิน ออร์คาน บิน อุสมาน บิน อัรตุฆรอล บิน สุลัยมาน ชาห์ : ‏أبو الفتح مراد الأول بن أُورخان بن عثمان بن أرطغرل بن سليمان شاه : หรือที่เรียกกันว่า ท่านมุราด ที่ 1 : مراد الاول
ท่านมุราด เกิดในประเทศตุรกีปัจจุบัน เมื่อปี ฮ.ศ. 726 เป็นปีที่ท่านออร์คาน บิน อุสมาน ขึ้นเป็นสุลต่านแห่งอาณาจักรอุษมานียะห์
ท่านเป็นสุลต่านที่ทำให้ยุโรปถวายญิซยะฮ์เพื่อแลกกับการคุ้มครองและการดูแล และท่านสามารถควบคุมการแต่งตั้งและการถอดถอนกษัตริย์ของพวกเขา
ในช่วงเวลาของมุญาฮิดผู้กล้าหาญท่านนี้ เมืองหลวงของอาณาจักรอุษมานียะห์ได้ย้ายไปยังยุโรป
ในปี ฮ.ศ. 762 ท่านมุราด บิน ออร์คาน ได้ขึ้นเป็นสุลต่านแห่งอาณาจักรอุษมานียะห์ ลำดับที่ 3 ในวัย 36 ปีตามฮิจเราะห์ศักราช
ในปี ฮ.ศ. 764 ท่านสุลต่านมุราด ที่ 1 ได้บุกไปพิชิตเมืองเอดีร์เน (أدرنة) และได้ก่อตั้งเมืองนี้ให้เมืองหลวงของอาณาจักรอุษมานียะห์
ท่านสุลต่านมุราด ต้องการให้เมืองหลวงของอาณาจักรอิสลามไปสู่ความลึกของยุโรปเพื่อให้ผู้คนในยุโรปเห็นอิสลามอย่างใกล้ชิดและชี้ให้เห็นการดำเนินชีวิตในความยุติธรรมและศีลธรรมของประชาชาติอิสลาม เมื่อนั้นถึงจะชนะใจพวกเขาและนำพวกเขาเข้าสู่อิสลามได้
ต่อมา ท่านสุลต่านมุราดได้จัดเตรียมกองทัพไปพิชิตเมืองฟีลีบะห์ (فيلبة : เมืองพลอฟดิฟ เป็นเมืองใหญ่เป็นอันดับ 2 ของประเทศบัลแกเรียในปัจจุบัน) ซึ่งสามารถพิชิตได้ และทำให้กรุงคอนสแตนตินโยเปิลของจักรวรรดิไบแซนไทน์ถูกปิดล้อมโดยอาณาเขตของอาณาจักรอุษมานียะห์
ทำให้พระสันตะปาปาเออร์บันที่ 5 แห่งกรุงโรม ได้ส่งสาร์นไปยังกษัตริย์ทั่วยุโรปเพื่อขอให้พวกเขาเปิดสงครามครูเสดครั้งใหม่ในดินแดนเอเชียไมเนอร์กับท่านสุลต่านมุราดแห่งอาณาจักรอุษมานียะห์
และผลของสงครามครั้งนี้จบลงด้วยความพ่ายแพ้อย่างย่อยยับและเป็นที่น่าอับอายแก่พวกครูเสด
ซึ่งทำให้พวกครูเสดจำเป็นต้องจ่ายญิซยะฮ์เพื่อเป็นการปกป้องดูแลพวกเขาหลังจากล้มเหลวต่อหน้าประชาชนของพวกเขาจากสงครามครั้งนี้
และท่านสุลต่านมุราดได้พิชิตกรุงโซเฟียเมืองหลวงของบัลแกเรียหลังจากการล้อมอยู่ 3 ปี และต่อมาได้พิชิตเมืองเทสซาโลนิกิของกรีซ
กษัตริย์แห่งบัลแกเรียได้ฉวยโอกาสบุกโจมตีอาณาเขตของอาณาจักรอุษมานียะห์ในขณะที่ท่านสุลต่านมุราดที่ 1 กำลังทำสงครามอยู่ในดินแดนอนาโตเลีย
แต่ท่านสุลต่านมุราดได้สั่งและส่งกองทัพอื่นไปสกัดกั้นและบุกโจมตีจนกษัตริย์แห่งบัลแกเรียต้องถอยร่น และต้องเสียเมืองให้แก่กองทัพอุษมานียะห์บางส่วนอีกต่างหาก
ทำให้กษัตริย์แห่งบัลแกเรียต้องถอยหนีไปยังเมืองนิโคโปลี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อกองทัพอุษมานียะห์อีกครั้ง
และในปี ฮ.ศ. 791 กษัตริย์แห่งเซิร์บได้จัดตั้งกองทัพครูเสดร่วมกับชาวอัลเบเนียเพื่อทำสงครามกับอาณาจักรอุษมานียะห์ในศึกมะอ์รีกะฮ์ โคโซโว (معركة قوصوه : สมรภูมิโคโซโว)
แต่ลูกเขยของกษัตริย์แห่งเซิร์บไม่คิดจะสู้รบและได้แปรพักตร์เข้ากับมุสลิมดังนั้นเขาจึงได้จับตัวกษัตริย์แห่งเซิร์บไว้ก่อนที่จะถึงที่ราบโคโซโว
ถึงกระนั้น ยังมีทหารของกษัตริย์แห่งเซิร์บจำนวนกว่าหมื่นคนได้ตัดสินใจเดินทางไปสู้รบกับกองทัพของท่านสุลต่านมุราดที่ 1
และผลของสงคราม ก็จบลงด้วยความปราชัยของกองทัพครูเสด
และในขณะที่ท่านสุลต่านมุราดกำลังเดินตรวจสอบทหารมุสลิมที่ได้รับบาดเจ็บในสนามรบเป็นช่วงที่จบสงครามแล้ว
ทหารเซิร์บคนนึงที่นอนแกล้งตายได้ลุกขึ้นและตรงไปยังท่านสุลต่านมุราด
ดังนั้น ทหารองครักษ์ของท่านสุลต่านได้เข้ามาควบคุมตัว แต่ทหารเซิร์บได้อ้างว่า “ได้กลับตัวแล้ว และอยากเข้ารับอิสลามต่อหน้าท่านสุลต่านมุราด”
ท่านสุต่านมุราดจึงได้บอกให้ปล่อยตัวทหารเซิร์บคนนี้เข้ามา
ดังนั้น ทหารเซิร์บคนนี้ได้บุกจู่โจมและลอบสังหารท่านสุลต่านมุราดด้วยกริชที่เขาซุกซ่อนไว้ภายในตัว
โดยที่ท่านสุลต่านมุราดไม่ได้ทันได้ตั้งตัว ทำให้ท่านสุลต่านมุราดเสียชีวิตในเวลาต่อมาในวัย 65 ปีตามฮิจเราะห์ศักราช
ขอยกอัลกุรอานมากล่าวไว้ ณ ที่นี้ ความว่า :
ٱلَّذِي خَلَقَ ٱلۡمَوۡتَ وَٱلۡحَيَوٰةَ لِيَبۡلُوَكُمۡ أَيُّكُمۡ أَحۡسَنُ عَمَلٗاۚ وَهُوَ ٱلۡعَزِيزُ ٱلۡغَفُورُ
พระผู้ทรงให้มีความตายและให้มีความเป็นเพื่อจะทดสอบพวกเจ้าว่า ผู้ใดบ้างในหมู่พวกเจ้าที่มีผลงานดียิ่ง และพระองค์เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงให้อภัยเสมอ
ซูเราะห์อัลมุลกฺ อายะห์ที่ 02
ข้อมูลจาก : ชัยชนะของอิสลามในยุคต่างๆ โดย ดร. อับดุล อาซิซ อัลอัมรี (كتور عبد العزيز العمري) ,จักรวรรดิออตโตมาน โดย ดร. อิสมาอีล บากี (إسماعيل باغي) และประวัติศาสตร์จักรวรรดิออตโตมาน โดย ดร.อัสสอลาบี (كتور الصلابي)
โฆษณา