30 ธ.ค. 2023 เวลา 23:10 • ประวัติศาสตร์

‎بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ

วันพุธ ที่ 18 เดือนรอมฎอน ฮ.ศ. 1443 : อ้างอิงวันที่โพสต์ขากเพจประวัติศาสตร์อิสลาม
ท่านลุกมาน อัญมณีแห่งภูมิปัญญาที่ดีงาม
ท่านลุกมาน บิน ญาอูร อิบน์ อัยยูบ : لقمان بن ياعور ابن أيوب หรือที่เรียกกันว่า ท่านลุกมาน อัลฮากีม : لقمان الحكيم
เอกองค์อัลลอฮ์ ซบ. ทรงได้เปิดเผยเรื่องราวของท่านลุกมาน อัลฮากีม ไว้ในคัมภีร์อัลกุรอานซูเราะห์ลุกมาน ไว้ดังนี้
: ‎بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ :
และโดยแน่นอน เราได้ให้ฮิกมะฮฺ แก่ลุกมานว่า
“ จงขอบพระคุณต่อ อัลลอฮฺ “
“ และผู้ใดขอบคุณ แท้จริงเขาก็ขอบคุณตัวของเขาเอง “
และผู้ใดปฏิเสธ แท้จริงอัลลอฮฺนั้นทรงพอเพียงและทรงได้รับการสรรเสริญ “
ซูเราะห์ลุกมาน อายะห์ที่ 12
ท่านลุกมาน อัลฮากีมเป็นผู้มีคุณธรรมที่ดีงามและผู้มีสติปัญญาเป็นอันมาก
ท่านลุกมาน อัลฮากีม เป็นผู้พิพากษาในยุคสมัยของท่านนบีดาวูด อะลัยฮิสลาม เป็นนักปราชญ์และวาลี แต่ท่านไม่ใช่ศาสนทูต และท่านมีชีวิตอยู่จนถึงยุคสมัยของท่านนบียูนุส อะลัยฮิสลาม ‎.الله أعلم
ท่านเป็นคนผิวดำ ผมหยิก เท้าแตก มาจากเมืองอัสวาน (أسوان) ประเทศอียิปต์ ‎.الله أعلم
เกี่ยวกับงานที่ท่านลุกมาน อัลฮากีม ทำก็ไม่ยืนยันแน่ชัด ซึ่งบ้างก็ว่าทำงานเป็นช่างไม้ บ้างก็ว่าเป็นช่างตัดเสื้อ หรือเป็นคนเลี้ยงแกะ ‎.الله أعلم
แต่ที่สำคัญคือ ตอนเริ่มต้นชีวิตของท่านลุกมาน อัลฮากีม ท่านเป็นทาสมาก่อน
ท่านลุกมาน อัลฮากีม หลุดพ้นจากการเป็นทาสได้อย่างไรนั้น มีเรื่องกล่าวไว้ว่า
วันนึง นายของท่านลุกมาน ได้นำแกะตัวนึงในฝูงที่นายของเขาได้เลี้ยงไว้ มาให้ท่านลุกมานเชือดเพื่อนำมาทำเป็นอาหาร โดยได้กล่าวแก่ท่านลุกมาน อัลฮากีม ว่า
“เชือดแกะตัวนี้ และเอาสองสิ่งที่ดีที่สุดในตัวแกะมาให้ฉัน”
ท่านลุกมาน อัลฮากีม จึงได้เชือดแกะ และได้นำลิ้นและหัวใจของแกะไปให้นายของเขา
วันรุ่งขึ้นของอีกวัน นายของท่านลุกมาน ได้สั่งให้ท่านลุกมานเชือดแกะอีกตัว แต่วันนี้นายของเขาได้กล่าวว่า
“เชือดแกะ แล้วนำสิ่งที่เลวทรามที่สุดในตัวแกะมาให้ฉัน”
ท่านลุกมาน อัลฮากีม จึงได้เชือดแกะ และได้นำลิ้นและหัวใจของแกะไปให้นายของเขาดังเช่นเมื่อวาน
นายของท่านลุกมาน จึงได้กล่าวแก่ท่านลุกมานว่า
“ลุกมาน ! ฉันต้องการสิ่งที่ดีที่สุด เธอก็ให้ลิ้นกับหัวใจของแกะ”
“และฉันต้องการสิ่งที่เลวทรามของแกะ เธอก็ให้ลิ้นกับหัวใจของแกะ นี่มันอะไรกัน ?”
ท่านลุกมาน อัลฮากีม ได้กล่าวตอบว่า
“ไม่มีอะไรดีไปกว่าสองสิ่งนี้ หากเขาเป็นคนดี และไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าเขาผู้นั้น หากเขาคิดแต่จะทำเรื่องไม่ดี”
‎: سبحان الله : หลังจากเหตุการณ์นี้ นายของท่านลุกมาน อัลฮากีมก็ได้ปลดปล่อยและให้อิสระแก่เขา
ท่านนบีมูฮัมหมัด ซล. ได้กล่าวถึงท่านลุกมาน อัลฮากีม ไว้ว่า
“ตอนที่เป็นทาส เขาเป็นคนรอบคอบ ,มีความความคิด ,มีปัญญาที่ดี ,บุคลิกเงียบขรึม และเขารักพระเจ้า พระเจ้าก็รักเขา”
“เขาถูกเชิญให้ไปหากษัตริย์ดาวูด และกษัตริย์ดาวูดได้กล่าวกับเขาว่า โอ้ ลุกมาน พระเจ้าสร้างคุณเพื่ออยากให้คุณเป็นผู้พิพากษาที่ตัดสินผู้คนด้วยความจริงได้ไหม ?”
“ลุกมาน กล่าวตอบว่า หากพระเจ้าทรงบังคับฉัน ฉันก็จะยอมรับ”
“และหากพระองค์ทรงประสงค์ ฉันรู้ว่าถ้าฉันทำอย่างนั้น พระองค์จะทรงช่วยฉัน สอนฉัน และปกป้องฉัน”
“และหากพระเจ้าของฉันทรงโปรดปรานฉัน ฉันก็จะได้รับสำเร็จ และฉันจะไม่ทำให้ผิดจากความคาดหวัง”
“เหล่ามลาอิกะฮ์ที่ได้รับฟัง ต่างก็ประหลาดใจในความดีของเขา”
และยังมี 7 คำสอนที่ท่านลุกมาน อัลฮากีมได้สอนลูก ที่ถูกระบุในคัมภีร์อัลกุรอานไว้ดังนี้
1 : การหลีกห่างจากการตั้งภาคต่อพระเจ้า
และจงรำลึก เมื่อลุกมานได้กล่าวแก่บุตรของเขา โดยสั่งสอนเขาว่า “โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าได้ตั้งภาคีใดๆต่ออัลลอฮฺ เพราะแท้จริงการตั้งภาคีนั้น เป็นความผิดอย่างมหันต์โดยแน่นอน”
2 : ไม่ทำผิดต่อผู้คน แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
“โอ้ลูกเอ๋ย แท้จริงมันจะหนักเท่าเมล็ดผักสักเมล็ดนึง มันจะซ่อนอยู่ในหิน หรืออยู่ในชั้นฟ้าทั้งหลาย หรืออยู่ในแผ่นดิน อัลลอฮฺก็จะทรงนำมันออกมา แท้จริง อัลลอฮฺเป็นผู้ทรงเมตตา ผู้ทรงรอบรู้ยิ่ง”
3 : การละหมาด
“โอ้ลูกเอ๋ย เจ้าจงดำรงไว้ซึ่งการละหมาด “
4 : ตักเตือนกันให้ทำความดี ละเว้นการทำสิ่งที่ผิด และให้มีความอดทนอดกลั้น
“และ จงใช้กันให้กระทำความดี และจงห้ามปรามกันให้ละเว้นการทำความชั่ว และจงอดทนต่อสิ่งที่ประสบกับเจ้า แท้จริง นั่นคือส่วนหนึ่งจากกิจการที่หนักแน่น มั่นคง”
5 : ห้ามหยิ่งผยอง
“และเจ้าอย่าหันแก้มของเจ้า ให้แก่ผู้คนอย่างยะโส”
6 : ต้องอ่อนน้อมถ่อมตน
“และอย่าเดินไปตามแผ่นดินอย่างไร้มรรยาท แท้จริง อัลลอฮฺ มิทรงชอบทุกผู้หยิ่งจองหอง และผู้คุยโวโอ้อวด”
และ 7 : ไม่พูดเสียงดังจนเกินไป
“และเจ้าจงก้าวเท้าของเจ้าพอประมาณ และจงลดเสียงของเจ้าลง แท้จริง เสียงที่น่าเกลียดยิ่งคือเสียงของลา”
(เรื่องราวของท่านลุกมาน อัลฮากีม มีอีกพอสมควร แต่กระผมได้เอามาลงไว้แค่นี้เพราะมีเวลาน้อยมากๆ ขอมาอัฟด้วยนะครับ)
ขอยกอัลกุรอาน มากล่าวไว้ ณ ที่นี้ สัก 1 อายะห์ ความว่า :
أَلَمْ تَرَ أَنَّ ٱلْفُلْكَ تَجْرِى فِى ٱلْبَحْرِ بِنِعْمَتِ ٱللَّهِ لِيُرِيَكُم مِّنْ ءَايَـٰتِهِۦٓ ۚ إِنَّ فِى ذَٰلِكَ لَـَٔايَـٰتٍۢ لِّكُلِّ صَبَّارٍۢ شَكُورٍۢ
เจ้ามิเห็นดอกหรือว่า เรือนั้นแล่นไปตามท้องทะเลเนื่องด้วยความโปรดปรานของอัลลอฮฺ เพื่อพระองค์จะให้พวกเจ้าได้เห็นสัญญาณต่าง ๆ ของพระองค์ แท้จริงในการนั้นย่อมเป็นสัญญาณแก่ผู้อดทนผู้ขอบคุณทุกคน
ซูเราะห์ลุกมาน อายะห์ที่ 31
ข้อมูลจาก : @GreatiistOffice
โฆษณา