10 พ.ย. 2023 เวลา 02:30 • ธุรกิจ

สหรัฐฯ ฆ่าสมาร์ตโฟน “Huawei” ไม่ตาย ปีนี้ ยอดขายในจีน แซง iPhone

เมื่อไม่กี่ปีก่อน Huawei ถือเป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนของจีน ที่ขึ้นมาแข่งขันกับ Samsung และ Apple ได้อย่างสูสี
รู้ไหมว่าในปี 2019 Huawei เคยมียอดส่งมอบสมาร์ตโฟนกว่า 240 ล้านเครื่อง ขายดีสุดเป็นอันดับ 2 ของโลก
แต่อยู่ดี ๆ Huawei กลับโดนสหรัฐอเมริกาแบน จนบริษัทมียอดขายสมาร์ตโฟน เหลือเพียง 35 ล้านเครื่องเท่านั้น ในปี 2021
1
หลายคนอาจคิดว่ามันจบแล้ว แต่ในปีนี้ Huawei กลับเปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ ในรุ่น Mate 60 ที่ล่าสุด มียอดขายในประเทศจีน แซงหน้า iPhone ไปแล้ว แล้ว Huawei ทำได้อย่างไร ? ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ย้อนกลับไปในช่วงที่ ดอนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี สหรัฐอเมริกากับจีน ก็ได้ทำสงครามการค้า โต้ตอบกันไปมา
ซึ่งก็รวมไปถึงประเด็นเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล จนนำไปสู่การแบนบริษัทเทคโนโลยีจำนวนมากของจีน และรายแรกที่โดนก็คือ Huawei
เริ่มตั้งแต่การกดดันประเทศพันธมิตร ให้ยกเลิกดีลต่าง ๆ กับ Huawei ที่หนักที่สุด ก็คือ การจำกัดการเข้าถึงเทคโนโลยี
เริ่มตั้งแต่ “การแบนของ Google”
จริงอยู่ว่าสมาร์ตโฟนของ Huawei จะยังใช้ระบบปฏิบัติการ Android ได้
แต่แอปพลิเคชันหลักของ Google อย่าง Google Play, YouTube, Gmail, Google Maps จะใช้งานไม่ได้แล้ว
เรื่องนี้ แม้จะไม่เป็นปัญหากับผู้ใช้งานในจีนเลย ที่ไม่ได้ใช้ Google เพราะแบนไปนานแล้ว และมีแอปทดแทนอยู่
แต่ไม่ใช่สำหรับผู้ใช้งานนอกประเทศจีน ที่พอแบน Google Play แอปเดียว ก็ไม่ต่างอะไรจากการไปตัดช่องทางเชื่อมต่อกับอีกเป็นพัน เป็นหมื่นแอปทั่วโลก ลูกค้ากลุ่มนี้เลยหายไปเกือบหมด..
นอกจากจะเข้าถึง Google ไม่ได้แล้ว
Huawei ยังโดนเตะตัดขา ในเรื่องเทคโนโลยีการผลิต
3
ก่อนหน้านี้ ชิ้นส่วนสำคัญอย่างชิปประมวลผลที่ Huawei จะออกแบบ โดยใช้แบบของ Arm Holdings และจ้าง TSMC โรงงานผลิตชิปใหญ่สุดในโลก จากไต้หวัน เป็นผู้ผลิตให้
1
ต่อมา ทั้ง 2 คู่ค้าหลักนี้ ก็ได้ประกาศยกเลิกความร่วมมือกับ Huawei
1
- Arm Holdings ประกาศยกเลิกความร่วมมือ ทำให้ Huawei ต้องออกแบบชิปของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่าย และต้องใช้เวลาหลายปี
1
- TSMC ที่มีเครื่อง EUV ซึ่งใช้ในการผลิตชิประดับ 5 นาโนเมตร และเป็นคู่ค้าของ Huawei ก็ยกเลิกรับออร์เดอร์การผลิต ตามคำสั่งแบนของสหรัฐอเมริกา..
ทั้งหมดนี้ทำให้ยอดขายของ Huawei ลดลงอย่างมาก
โดยยอดส่งมอบสมาร์ตโฟน 240 ล้านเครื่องในปี 2019 มากเป็นอันดับ 2 ของโลก แต่ในปี 2021 ลดเหลือเพียง 35 ล้านเครื่องเท่านั้น
ณ จุดนี้ ธุรกิจสมาร์ตโฟน Huawei ถูกแบนจนแทบไม่เหลืออะไรเลย..
โชคยังดีที่ Huawei ก็ยังมีหน่วยธุรกิจอื่นอีก บริษัทจึงยังอยู่รอด และยังมีความสามารถในการทำกำไรต่อไปได้ แม้ยอดขายสมาร์ตโฟนจะตกฮวบ
หากเรามาดูผลประกอบการของ Huawei 4 ปีล่าสุด
ปี 2019
รายได้ 4.22 ล้านล้านบาท
กำไร 0.31 ล้านล้านบาท
ปี 2020
รายได้ 4.38 ล้านล้านบาท
กำไร 0.32 ล้านล้านบาท
ปี 2021
รายได้ 3.13 ล้านล้านบาท
กำไร 0.56 ล้านล้านบาท
ปี 2022
รายได้ 3.16 ล้านล้านบาท
กำไร 0.17 ล้านล้านบาท
แล้วรายได้ของ Huawei มาจากธุรกิจกลุ่มไหนบ้าง ?
- 55% อุปกรณ์และโครงสร้างพื้นฐาน สำหรับเครือข่ายการสื่อสาร
- 8% โครงสร้างพื้นฐานและซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมพลังงานสะอาด
- 7% คลาวด์คอมพิวเตอร์
ส่วนของธุรกิจสมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ IT จากเดิมที่เคยคิดเป็นครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งบริษัท ปัจจุบันก็ลดเหลือ 30%
คำถามที่ตามมาคือ ธุรกิจสมาร์ตโฟน จะเป็นอย่างไรต่อ ?
หลังโดนต้อนเข้ามุม พึ่งพาบริษัทนอกประเทศไม่ได้แล้ว Huawei ก็เริ่มทำระบบปฏิบัติการของตัวเองขึ้นมา ชื่อว่า “HarmonyOS” เพื่อที่จะได้ไม่ต้องง้อ Android
ในขณะที่ ส่วนของการผลิต Huawei ก็หันไปจับมือกับบริษัทผลิตชิปของจีน ที่ชื่อว่า “SMIC”
บริษัทแห่งนี้ เป็นโรงงานผลิตชิปของจีน ที่แม้จะโดนสหรัฐอเมริกาปิดกั้นเหมือนกัน ไม่ให้ซื้อเครื่องฉายแสง EUV รุ่นใหม่ของ ASML จากยุโรป
แต่ SMIC ก็ได้นำเครื่องฉายแสงรุ่นเก่าที่มีอยู่มาผลิตชิปใส่ในสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ของ Huawei รุ่น Mate 60 ได้..
และมีรายงานว่า ประสิทธิภาพ ดันอยู่ในเกณฑ์ดี มีคนจีนต่อคิวซื้อ จนมียอดขายในประเทศจีน กลับมาแซง iPhone ได้สำเร็จ..
แถมยังคาดการณ์ว่า สมาร์ตโฟนของ Huawei จะมียอดส่งมอบเพิ่มจาก 35 ล้านเครื่องในปี 2021 เป็น 70 ล้านเครื่องในปี 2024
ซึ่งนอกจาก จะทำให้อนาคตของ Huawei เริ่มกลับมาสดใสอีกครั้งแล้ว
การกลับมาผลิตสมาร์ตโฟนได้อีกครั้ง ยังเป็นการบ่งบอกถึงการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตชิปของจีน ว่าสามารถดันตัวเองกลับมาสู่สนามได้ โดยไม่ต้องพึ่งพาชาติตะวันตก
ซึ่งไม่ใช่แค่ตลาดสมาร์ตโฟนเท่านั้น แต่ยังส่งแรงกระเพื่อมไปยังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีอื่น ๆ ทั่วโลก
อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคำถามอยู่ว่า SMIC ผลิตชิปออกมาด้วยเครื่องรุ่นเก่า ให้ทัดเทียมกับเทคโนโลยีของเจ้าตลาดอย่าง TSMC ได้จริงหรือไม่ เพราะนักวิเคราะห์บางคนออกมาบอกว่า Huawei อาจนำเข้าชิปมาจากเกาหลีใต้
หรือต่อให้ผลิตเองได้จริง ก็ยังมีคำถามตามมาว่า ความคุ้มค่าในการผลิตมีมากน้อยแค่ไหน หรือเรื่องทั้งหมด อาจเป็นเพียงการตลาด ให้เห็นว่า Huawei ยังแข่งขันได้อยู่
แต่ถึงจุดนี้ ก็ต้องบอกว่าชื่อของ Huawei ในตลาดสมาร์ตโฟน เริ่มกลับมาถูกพูดถึงอีกครั้ง
ก็ดูเหมือนว่าสหรัฐอเมริกา จะยังฆ่า Huawei ไม่ตาย ซึ่งก็เป็นไปได้ว่า หากการคืนชีพในจีนในปีนี้สำเร็จแล้ว
หากบริษัท มีเป้าหมายกลับไปขยายไปยังตลาดโลกอีกครั้ง Huawei ก็อาจกลายเป็นคู่แข่งคนสำคัญ ของบริษัทอเมริกันอีกรอบ ก็เป็นได้..
โฆษณา