بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ
วันศุกร์ ที่ 30 เดือนรอญับ ฮ.ศ. 1443 : อ้างอิงวันที่จากเพจประวัติศาสตร์อิสลาม
ท่านตากี อัล-ดิน มูฮัมหมัด บิน มารูฟ นักดาราศาสตร์ นักคณิตศาสตร์ชาวอาหรับ
ท่านตากี อัลดิน มูฮัมหมัด บิน มารูฟ : تقي الدين محمد بن معروف หรือที่เรียกกันในชื่อ อัล-รอชีด : الراصد
ท่านอัล-รอชีดท่านเกิดที่เมืองดามัสกัส ประเทศซีเรียในยุคสมัยของท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 แห่งจักรวรรดิออตโตมาน เมื่อปี ฮ.ศ. 932
ท่านอัล-รอชีด เริ่มต้นศึกษาเกี่ยวกับด้านศาสนา และเริ่มเรียนรู้ศาสตร์ด้านต่างๆในเมืองดามัสกัส และเมืองไคโร เช่น ในด้านคณิตศาสตร์มีครูผู้สอนของท่านคือ ท่านซัยฮับ อัล-ดิน อัล-กัซซี และด้านดาราศาสตร์มีครูผู้สอนของท่านคือ ท่านมูฮัมหมัด อบี อัล-ฟัต อัล-ซูฟี
ในปี ฮ.ศ. 933 ท่านอัล-รอชีดได้เริ่มต้นทำงานเป็นกอฎีหรือผู้พิพากษาในเมืองเนบลัส เมืองดามัสกัส และเมืองไคโร และท่านยังได้สร้างสรรค์งานด้านคณิตศาสตร์และด้านดาราศาสตร์ที่สำคัญ
จนในปี ฮ.ศ. 979 ท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 แห่งจักรวรรดิออตโตมาน ได้แต่งตั้งท่านอัล-รอชีดขึ้นเป็นหัวหน้านักดาราศาสตร์ของสุลต่านในกรุงอิสตันบลู แทนที่ท่านมุสตอฟา บิน อาลี อัล-มุวักกิต ที่เสียชีวิต
ท่านอัล-รอชีด ได้แจ้งแก่ท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 ว่า “ตารางดาราศาสตร์ของท่านอูลูค เบย์ (Ulug Bay) นั้น “มีข้อผิดพลาด” ในการสังเกตุทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการคำนวณบนพื้นฐานของตารางเหล่านั้น”
ท่านอัล-รอชีด ได้เสนอว่า “ข้อผิดพลาดเหล่านี้สามารถแก้ไขได้ หากมีการสังเกตุคำนวณใหม่”
และท่านอัล-รอชีด ยังได้เสนอต่อท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 ให้สร้างหอดูดาวในกรุงอิสตันบลูเพื่อจุดประสงค์นั้น
ท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 ท่านรับข้อเสนอและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นสุลต่านท่านแรกที่ได้อุปถัมภ์การสร้างหอดูดาวแห่งแรกในกรุงอิสตันบลู และท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 ได้ออกคำสั่งให้ก่อสร้างหอดูดาวในทันที
โดยในช่วงเวลาที่รอหอดูดาวแห่งใหม่จะสร้างเสร็จนั้น ท่านอัล-รอชีดได้ทำงานเกี่ยวกับด้านดาราศาสตร์ที่หอคอยกาลาตา (Galata Tower) จนถึงปี ฮ.ศ. 985
ในปี ฮ.ศ. 987 (ค.ศ.1579) ที่หอดูดาวแห่งใหม่ได้สร้างเสร็จชื่อว่า “ดาร์ อัล-รอชีด อัล-จาดิด (Dār al-Rasad al-Jadīd)”
หอดูดาวแห่งใหม่นี้ มีส่วนประกอบด้วยอาคาร 2 หลังที่แยกจากกัน และเป็นเสมือนห้องสมุดขนาดใหญ่ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวเกี่ยวกับด้านคณิตศาสตร์และด้านดาราศาสตร์ทั้งของท่านอัล-รอชีด และของท่านอื่นอีกด้วย และยังมีผู้สังเกตุการณ์ 16 ท่าน ผู้จดบันทึก 4 ท่าน และผู้ช่วยอีก 4 ท่าน ถือได้ว่าเป็นหอดูดาวที่ใหญ่ที่สุดในโลกอิสลามแห่งนึงเลยทีเดียว
หอดูดาวดาร์ อัล-รอชีด อัล-จาดิด ได้ใช้งานจนถึงปี ฮ.ศ. 989 เพียงแค่ปีเดียวก็ถูกสั่งปิด เพราะมีการโต้แย้งและออกคำวินิจฉัยของบรรดาอุลามะห์ (พวกโง่เขลาเบาปัญญาในสมัยนั้น)
ในเรื่องศาสนาเกี่ยวกับด้านดาราศาสตร์ ว่าเป็นสิ่งที่อาจจะทำให้เอกองค์อัลลอฮ์ ซบ. ทรงกริ้วโกรธ จนถึงอาจจะทรงลงโทษแก่อาณาจักรออตโตมานเหมือนที่เอกองค์อัลลอฮ์ ซบ. ทรงลงโทษปวงบ่าวของพระองค์ในยุคอดีตที่ผ่านๆมา
เท่านั้นยังไม่พอ บรรดาอุลามะห์ (พวกโง่เขลาเบาปัญญาในสมัยนั้น) ยังได้เสนอแก่ท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 ให้ทำการสั่งปิดหอดูดาวทุกแห่งในอาณาจักรออตโตมาน (บัดสบจริงๆ) และท่านสุลต่านมูราต ที่ 3 ก็ได้ทำตามข้อเสนอของบรรดาอุลามะห์
(เห้อ..และพวกอุลามะห์นี่แหละ ที่เสนอให้ท่านสุลต่านอัลมุสตะอ์สิม เปิดประเมืองยอมแพ้ให้กับพวกมองโกลจนทำให้จักรวรรดิอับบาซิยะห์ล่มสลาย)
ในช่วงชีวิตของท่านตากี อัล-ดิน มูฮัมหมัด บิน มารูฟ นอกเหนือจากด้านดาราศาสตร์แล้ว ท่านได้สร้างนาฬิกาปลุก ,สร้างเครื่องยนต์ไอน้ำ หรือกังหันไอน้ำแบบพื้นฐานก่อนการค้นพบพลังงานไอน้ำของ Giovanni Blanca ในปี ค.ศ. 1629 ,สร้างเครื่องสูบน้ำแบบ Monobloc
และท่านยังได้ประพันธ์หนังสืออีกกว่า 90 เล่มที่เกี่ยวข้องกับด้านดาราศาสตร์ ,การสร้างนาฬิกา ,วิศวกรรม ,คณิตศาสตร์ ,กลศาสตร์ ทัศนศาสตร์ และปรัชญาธรรมชาติ หนังสือเหล่านี้เหลือเพียง 24 เล่มเท่านั้น
และสำหรับด้านดาราศาสตร์ของท่านตากี อัล-ดิน มูฮัมหมัด บิน มารูฟ ที่กรุงอิสตันบลูนั้นเป็นช่วงเวลาแห่งความรุ่งโรจน์ของท่านก่อนที่หอดูดาวจะถูกสั่งปิด
ในปี ฮ.ศ. 993 (ค.ศ.1585) ท่านได้เสียชีวิตที่กรุงอิสตันบลูในวัย 61 ในปีฮิจเราะห์ศักราช
( ประวัติของท่านตากี อัล-อัลดิน มูฮัมหมัด บิน มารูฟ มีความยาวมากๆ ซึ่งกระผมนำมาแปลและลงในเพจแค่บางส่วนเท่านั้น ขอมาอัฟไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ )
ขอยกอัลกุรอาน มากล่าวไว้ ณ ที่นี้ สัก 1 อายะห์ ความว่า :
قُلْ أَغَيْرَ ٱللَّهِ أَتَّخِذُ وَلِيًّۭا فَاطِرِ ٱلسَّمَٰوَٰتِ وَٱلْأَرْضِ وَهُوَ يُطْعِمُ وَلَا يُطْعَمُ ۗ قُلْ إِنِّىٓ أُمِرْتُ أَنْ أَكُونَ أَوَّلَ مَنْ أَسْلَمَ ۖ وَلَا تَكُونَنَّ مِنَ ٱلْمُشْرِكِينَ
จงกล่าวเถิด ฉันจะยึดถือ “ผู้คุ้มครองอื่นจากอัลลอฮฺกระนั้นหรือ” ซึ่งพระองค์เป็นผู้ประดิษฐ์บรรดาชั้นฟ้าและแผ่นดิน และพระองค์เป็นผู้ทรงให้อาหาร และไม่ถูกให้อาหาร
จงกล่าวเถิด แท้จริงฉันถูกใช้ให้เป็นคนแรกในหมู่ที่สวามิภักดิ์ และพวกท่านจงอย่าอยู่ในหมู่ผู้ให้มีภาคีเป็นอันขาด
ซูเราะห์อัลอันอาม อายะห์ที่ 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
