26 ก.พ. เวลา 23:10 • ประวัติศาสตร์

‎بِسْمِ اللَّهِ الرَّحْمَـٰنِ الرَّحِيمِ

วันพุธ ที่ 23 เดือนยะมาดิ้ลอาเคร ฮ.ศ. 1443 : อ้างอิงวันที่จากเพจประวัติศาสตร์อิสลาม
ท่านสุลต่านอัลวะลีด ที่ 1 กับยุคทองของจักรวรรดิอุมัยยะห์
ท่านอบู อับบาส อัลวะลีด อิบน์ อับดุลมาลิก อิบน์ มาร์วาน : ท่านเกิดเมื่อปี ฮ.ศ. 46 (ค.ศ. 668) ที่เมืองมะดีนะห์ ประเทศซาอุดิอาระเบียในปัจจุบัน
ท่านเป็นสุลต่านแห่งจักรวรรดิอุมัยยะห์ ลำดับที่ 6 ตอนอายุ 40 ปีตามฮิจเราห์ศักราช ตั้งแต่ปี ฮ.ศ. 86 - ฮ.ศ. 96 (ค.ศ. 705 - ค.ศ. 715)
ในสมัยของท่านสุลต่านอัลวะลีด ที่ 1 นั้นมีความโดดเด่นในเรื่องการพิชิตดินแดนในทวีปเอเชีย ,ยุโรป และแอฟริกา
โดยการพิชิตดินแดนในสมัยท่านสุลต่านอัลวะลีด ที่ 1 นั้นเริ่มต้นขึ้นในปี ฮ.ศ. 86 ในการเข้าพิชิตดินแดนทรานโสเซียนา (Transoxiana : บริเวณเอเชียกลาง) ไปจนถึงชายแดนจีน นำกองทัพโดยท่านกูตัยบะห์ อิบน์ มุสลิม (Qutayba ibn Muslim)
ซึ่งการพยายามพิชิตดินแดนแถบนี้ เริ่มมาตั้งแต่สมัยของท่านค่อลีฟะห์อุษมาน บิน อัฟฟาน รฎ. แต่ไม่สำเร็จ
และดินแดนแถบนี้ในยุคต่อมา เป็นบ้านเกิดของนักวิชาการอิสลามที่สำคัญ เช่น ท่านอิบน์ สินา ,ท่านอัล ควาเรสมี ,ท่านอัล ฟาราบี และท่านอัล บุคฮารี
ในปี ฮ.ศ. 89 การพิชิตดินแดนบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ จนสามารถครอบครองอาณาจักรสินธ์ นำกองทัพโดยท่านมูฮัมหมัด อิบน์ กาซิม (Muhammad ibn Qasim)
เมื่อพิชิตอาณาจักรสินธ์ไว้เป็นส่วนนึงของจักรวรรดิอุมัยยะห์ได้สำเร็จ ท่านมูฮัมหมัด อิบน์ กาซิม ได้ยุติการบุกพิชิตดินแดนไว้เพียงเท่านั้น
ซึ่งการพยายามพิชิตดินแดนแถบนี้ เริ่มมาตั้งแต่สมัยของท่านค่อลีฟะห์อุมัร บิน ค็อตฏ็อบ รฎ. เรื่อยมาจนถึงการพิชิตอย่างสมบูรณ์โดยท่านสุลต่านอัลวะลีด ที่ 1
การพิชิตดินแดนในทวีปแอฟริกา และยุโรป ได้เริ่มขึ้นในปี ฮ.ศ. 78 ตั้งแต่สมัยช่วงปลายของท่านสุลต่านอับดุลมาลิก อิบน์ มาร์วาน บิดาของท่านสุลต่านอัลวะลีด ที่ 1 นั้นเอง นำกองทัพร่วมกันโดยท่านมูซา อิบน์ นูซัยร์ (Musa ibn Nusayr) และท่านทาริค อิบน์ ซิญาด (Tariq ibn Ziyad)
ได้บุกพิชิตตั้งแต่ดินแดนอิฟริกิยา (Ifriqiya) ในแอฟริกา ไปจนถึงการบุกพิชิตอาณาจักรวิซิกอทแห่งฮิสปาเนีย (Visigothic Kingdom of Hispania) ในยุโรป
จากการบุกพิชิตดินแดนทรานโสเซียน่า ,อาณาจักรสินธ์ และอาณาจักรวิซิกอทนั้น
เทียบได้กับอาณาจักรในสมัยท่านค่อลีฟะห์อุมัร บิน ค็อฏฏ็อบ รฎ. เลยทีเดียว
การสร้างและอุปถัมภ์มัสยิด : ในปี ฮ.ศ. 87 ท่านสุลต่านอัลวะลีด ที่ 1 ได้ออกคำสั่งให้ท่านอุมัร อิบน์ อับดุลอาซิซ (Umar ibn Abd al-Aziz) ให้ขยายโครงสร้างและปรับปรุงมัสยิดนะวาบีย์ในเมืองมะดีนะห์ให้มีอาณาเขตที่กว้างและดีขึ้น โดยได้สร้างรั้วล้อมรอบกุโบรของท่านนบีมูฮัมหมัด ซล. และค่อลีฟะห์ทั้งของท่านอบูบักร รฎ. กับท่านอุมัร รฎ. ให้มีความวิจิตร ,หออะซาน 4 หอ ,ทำทางเข้ามัสยิดรูปทรง 5 เหลี่ยม และปูกระเบื้องโมเสค
ในเมืองเยรูซาเล็ม ท่านสุลต่านอัลวะลีด ได้สร้างมัสยิดอัลอักซอ ต่อจากบิดา (ท่านสุลต่านอับดุลมาลิก) ทางด้านทิศใต้ และทิศตะวันออกของมัสยิด
ในกรุงดามัสกัส มุสลิมในช่วงเริ่มต้นจักรวรรดิทำการละหมาดภายในบริเวณพื้นที่เล็กๆที่ติดกับโบสถ์จอร์น เดอะแปปติสท์ ที่ปรับเปลี่ยนมาจากวิหารแห่งเทพฮาดัด และเทพจูปิเตอร์ของกรีก ในศตวรรษที่ 4 ของคริสตกาล แต่ไม่เพียงพอต่อชุมชนของมุสลิมที่เติบโตอย่างรวดเร็ว
ดังนั้น ในปี ฮ.ศ. 86 (ค.ศ. 705) ท่านสุลต่านอัลวะลีดได้ซื้อโบสถ์แห่งนั้นเพื่อนำมาสร้างมัสยิดที่เป็นเหมือน “สัญลักษณ์แสดงอำนาจทางการเมืองของจักรวรรดิอุมัยยะห์ และศักดิ์ศรีของอัล อิสลาม”
ด้านงานสาธารณะ และสวัสดิการสังคม : ท่านสุลต่านอัลวะลีดได้ทำการขุดบ่อน้ำและติดตั้งไฟตามถนนตามหัวเมืองต่างๆ
ท่านทำการขุดคลองชลประทาน เพื่อขับเคลื่อนการผลิตทางการเกษตร
ท่านได้สร้างโรงพยาบาล และสร้างที่พักให้สำหรับคนยากไร้และผู้พิการอีกด้วย
ในปี ฮ.ศ. 96 (ค.ศ. 715) ท่านสุต่านอัลวะลีด ที่ 1 ในช่วงอายุ 50 ปี ท่านได้เกิดเจ็บปวดจนอาการทรุดและได้เสียชีวิตในปีนั้น
ท่านสุลต่านอบู อับบาส อัลวะลีด อิบน์ อับดุลมาลิก ได้ครองตำแหน่งไก้เพียงแค่ 10 ปีตามฮิจเราะห์ศักราชเท่านั้น แต่ท่านได้ทำให้ “อัลอิสลาม” มีฐานะมั่นคงมากขึ้น
ขอยกอัลกุรอาน มากล่าวไว้ ณ ที่นี้ สัก 1 อายะห์ ความว่า :
هَلْ جَزَاءُ الْإِحْسَانِ إِلَّا الْإِحْسَانُ
จะมีการตอบแทนความดีอันใดเล่า นอกจากความดี
ซูเราะห์อัรเราะฮ์มาน อายะห์ที่ 60
โฆษณา