10 พ.ย. 2023 เวลา 05:39
อยุธยา

ไปเที่ยวอยุธยาหน้าร้อน ได้อะไร?

สวัสดีครับ ผมเเละเพื่อน ได้มีโอกาสไปเที่ยวอยุธยา ช่วงหน้าร้อน เพื่อพักผ่อนหย่อนใจ จากความเครียดเรื่องการวางแผนเข้ามหาวิทยาลัย เป้าหมายของเรานั้นเพื่อคลายเครียดกับสิ่งที่เจอ เเต่หารู้ไม่ ว่าการไปเที่ยวอยุธยานั้น เกือบจะทำให้พวกเราไม่ได้กลับบ้าน
ผมและเพื่อนอีกสองคน ได้นั่งรถไฟ จากหัวลำโพงมาลงสถานี “อยุธยา” โดยราคาตั๋ว คนละ 15 บาท ระหว่างทางเรานั่งคุยกันตามปกติ เเต่ด้วยอากาศที่ร้อนจัด เลยทำให้พวกผมเพลียๆตั้งเเต่อยู่บนรถไฟ
ต่อมาพวกเราได้เช่ามอเตอร์ไซค์ ด้วยความที่เราอยากจะไปเยี่ยมชมโบราณสถานหลายๆที่ เลยคิดว่าการขับมอเตอร์ไซค์ไปเองน่าจะเป็นวิธีที่สะดวกสบายที่สุด
หลังจากเราไปเยี่ยมชมวัดต่างๆเเล้ว พวกเราก็คิดว่าควรหาอะไรกิน เลยขับมอเตอร์ไซค์มาตลาดน้ำอโยธยา ระหว่างทางนั้น เรียกว่าสมบุกสมบันเลยทีเดียว ด้วยอากาศที่ร้อนจัด เเละเหตุผลหลายๆอย่าง เช่น รถที่เช่ามา พวกเรารู้สึกว่าไม่ได้มาตรฐานเลยเเม้เเต่นิดเดียว ทั้งเบรคไม่ดี ศูนย์ของรถไม่ตรง ต้องคอยเกร็งเเขนตอนขับตลอดเวลา เเละเพราะเหตุนี้ พวกเราเลยขับเเต่เลนซ้าย ชิดซ้ายตลอดถาง เเต่รถใหญ่ก็พยายามจะเเซง จะเบียดให้ได้ ทำให้พวกเราเริ่มใจไม่ดี เเต่ก็พยายามจะไปให้ถึง เพราะคิดว่ามาทั้งที เลยจะไปเยือนตลาดน้ำหน่อย
พอมาถึงตลาดน้ำ พวกเราก็สังเกตเห็นว่า ตลาดเงียบมาก เเต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะเราไม่ได้ไปวันหยุดยาว ก็ไม่แปลกที่ตลาดจะเงียบเเบบนี้
ระหว่างเดินหาอะไรกิน ก็เห็นช้าง เลยไปขอควาญช้างถ่ายรูป ซึ่ง ผมถามควาญช้างว่า “ถ้าถ่ายรูปกับช้างคิดกี่บาทครับ” ควาญช้างก็ตอบว่า “กี่บาทก็ได้ เเล้วแต่จะให้” หลังจากนั้นผมก็ถ่ายจนเสร็จ ถ้าให้นับจริงๆก็ไม่กี่รูป ได้รูปมาตามรูปข้างบน
ซึ่งผมก็ควักเงินให้ควาญช้าง 20 บาท เเต่!!! ควาญช้างถามกลับมาว่า “ให้เเค่นี้เองหรอ” ผมถึงกับงง เพราะควาญช้างบอกเองว่าเเล้วเเต่จะให้ เเต่ผมก็ตอบกลับไปว่า “มีเงินสดเเค่นี้ครับ” เเละเดินจากไป
เหตุการณ์ต่อจากนั้น ผมกับเพื่อนก็เดินหาอะไรทาน และได้เจอร้านก๋วยเตี๋ยวเรือร้านหนึ่ง ที่ดึงดูดพวกเรามาก เพราะเป็นร้านติดแอร์ ด้วยความที่พวกผมเพลียจากอากาศร้อนมากๆเลยเดินเข้าร้านไป เเละสั่งอาหารตามปกติ
พออาหารมาเสริ์ฟ พวกเราก็กินกันด้วยความหิวโหย เเต่พอกินไปเรื่อยๆก็เริ่มรู้สึกว่า รสชาติเค็มเกินไป เเต่ก็ไม่ได้คิดอะไร เพราะพวกเราหิวมากๆ
หลังจากกินเสร็จเรียบร้อย พวกเราก็ต้องการทิชชูเช็ดปาก เเต่พวกเรากลับไม่สังเกตเห็นทิชชูอยู่บนโต๊ะ เลยถามพี่พนักงานไปว่า “พี่ครับ ขอทิชชูหน่อยครับ” หลังจากนั้นพอผมได้ยินคำตอบ ถึงกับแอบงง เพราะพี่เขาตอบมาว่า
“อ่อ ทิชชูมีครับ เเต่คิดเงินเพิ่มห่อละ 20 บาท” ผมและเพื่อนก็มองหน้ากัน เเล้วก็จ้องตากัน ก็รู้ใจกันไปทั้งหมด555 เเต่ก็นะ ของมันต้องใช้ ก็เลยจำใจซื้อมา
หลังจากทานเสร็จ พวกเรามานั่งล้อมวงกันอยู่มุมหนึ่งของตลาด เเละคิดว่าเราจะเอายังไงกันต่อดี พวกเราต่างคนต่างคิดไม่ออก เพราะไม่อยากจะไปไหนเเล้ว รู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาขับมอเตอร์ไซค์บนถนน เเต่พวกเราก็เจอคำตอบ นั่นก็คือ “วิหารพระมงคลบพิตร“
พวกเราเข้ามาในวิหาร เป้าหมายของพวกเราคือ นั่งตากพัดลมอยู่ในวิหาร จนกว่าจะใกล้ถึงรอบรถไฟขากลับ ระหว่างนั้น พวกเราก็เสี่ยงเซียมซีไหว้พระไปเรื่อยเปื่อย เเล้วพวกเราก็นั่งคุยกันเรื่องที่เราเผชิญมาเกือบทั้งวัน มันเป็นเรื่องที่ตลกร้ายไม่ใช่ย่อยเลย5555
หลังจากพวกเรานั่งพักกันได้สักพัก ก็เห็นวัดเก่าเเถวๆนั้น ซึ่งจำไม่ได้ว่าวัดอะไร เเต่ด้วยความที่วัดเก่านั้นอยู่ติดกับวิหาร เราเลยซื้อตั๋วไปเดินชมรอบๆก่อน ซึ่งตอนนั้น เหลือเวลาก่อนที่รถไฟจะออกประมาน 1 ชั่วโมง
หลังจากชมวัดกันเสร็จ ก็ต้องหาปั๊มน้ำมัน เพื่อเติมน้ำมันมอเตอร์ไซค์เช่าให้เต็มถังก่อนคืน เป็นกฏของร้านเช่ามอเตอร์ไซค์
เราพึ่งจีพีเอสอยู่นาน เเต่ก็หาปั๊มน้ำมันไม่เจอ หลังจากนั้นก็มุ่งหน้าตรงไปสถานีรถไฟ เเต่ระหว่างทางก็ยังคงต้องระวังรถใหญ่เหมือนเดิม เรียกได้ว่าบางคันอีกนิดเดียวคือเบียดพวกเราล้มเเล้ว ยังไงก็ตามเเต่ พวกเราก็ต้องไปให้ถึงสถานีรถไฟ
เมื่อถึงหน้าสถานีรถไฟก็เเวะคืนมอเตอร์ไซค์ก่อนอันดับเเรก เเละตกลงราคาน้ำมันกับพี่พนักงานเพิ่มเติม เพราะเราหาปั๊มไม่เจอจริงๆ เบ็ดเสร็จก็เสียตังค์เพิ่มคันละ 40 บาท
เเต่ความเเย่ยังไม่หมดเเค่นั้น พอเราถึงสถานีรถไฟ ก็ได้รู้ว่ารถไฟรอบที่เราจะกลับ ดีเลย์ประมานอีก 1 ชั่วโมง!
เเต่ในความโชคร้ายนั้นยังมีความโชคดีพี่พนักงานบอกว่ามีรถไฟอีกขบวนหนึ่ง กำลังมา จะถึงภายใน 15 นาที พวกเราก็โล่งใจไปเปราะหนึ่ง เเล้วได้ทำการซื้อตั๋วตามปกติ
หลังจากนั้นประมาน 10 นาทีเศษ รถไฟก็มาจริงๆ ผมและเพื่อนรีบขึ้นไปนั่งอย่างรวดเร็ว ดูจากสีหน้าก็น่าจะรู้ว่าดีใจไม่น้อย เเต่ประโยคนึงในวันนั้นที่ผมไม่เคยลืมเลยคือ “พวกเรารอดเเล้ว”
เป็นอันจบทริป....
ขอฝากเรื่องนี้ไว้สำหรับคนที่คิดจะไปเที่ยวอยุธยา ให้วางแผนดีๆเเละศึกษาข้อมูลต่างๆอย่างถี่ถ้วน รวมถึงเป็นอุทาหรณ์เวลาจะเช่ามอเตอร์ไซค์ ให้เช็ครถก่อนดีๆ
บล็อกนี้ไม่ได่มีเจตนาจะดิสเครดิตหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง หากเเต่เป็นการเเชร์ประสบการณ์ที่ผมและเพื่อนได้ประสบพบเจอ
ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาอ่าน สำหรับบล็อกนี้ ผมขอจบไว้เเต่เพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
โฆษณา