mRNA ของสไปก์โปรตีน ในยีนเทอราปี ที่หลอกกันว่าเป็นวัคซีน
สามารถเข้าไปในพันธุกรรมของมนุษย์ได้โดยเป็นงานวิจัยในหลอดทดลอง
ตอนนี้มี หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใหม่ ที่น่าตกใจ คือ พบการปนเปื้อนของ DNA ของสไปก์โปรตีนใน วัคซีน mRNA
DNA เหล่านั้น เป็น plasmid DNA ที่ไม่ควรจะไปอยู่ใน วัคซีน ที่ฉีดกัน
เพราะว่ามันสามารถเข้าไปสอดแทรกในสารพันธุกรรมของ มนุษย์ได้โดยง่าย !!
แล้วมันเข้าไปอยู่ใน วัคซีน ได้อย่างไร ?
คำตอบ คือ เพราะกระบวนการผลิต mRNA
คงพอรู้ว่า ในแต่ละโดส ของ mRNA หรือชื่อจริงว่า มรณา นั้น มีจำนวน mRNA มากมายเป็นหลัก พันล้าน
แปลว่า บริษัทยา ต้องมี วิธีการผลิต mRNA เหล่านั้น
โดยใช้ DNA เป็นต้นแบบ แปลว่าก็ต้องใช้ DNA ต้นแบบที่ว่า จำนวนมาก เช่นกัน
ทำอย่างไรให้ผลิตได้จำนวนมากและถูก?
เขาก็เลย สังเคราะห์ DNA ที่ต้องการทำให้เป็น plasmid DNA แล้วเอาไปใส่ ในแบคทีเรีย E.Coli แล้วปล่อยให้ เชื้อ E. coli แบ่งตัว ทุกครั้งที่มันแบ่งตัว plasmid DNA ที่ต้องการก็จะเพิ่มจำนวนขึ้นด้วย Ecoli แบ่งตัวทุกยี่สิบนาที แปลว่าในหนึ่งวันมันจะเพิ่มจากหนึ่งเซลล์เป็น พันล้านล้านล้านเซลล์ (1ต่อด้วย0 21ตัว!!) ถูกและดี
หลังจากนั้นก็เอา plasmid DNA นี้ไปสร้าง mRNA ต่อ โดยก่อนจะเอา mRNA ไปใช้ต้องแยกเอา plasmid DNA ออกก่อน แต่เพราะความสะเพร่าของบริษัทยา DNA เหล่านั้นดันปนเปื้อนไปในยาที่เอามาฉีดกัน จนมีคนไปตรวจพบ
ที่น่าตกใจ คือ ไม่ได้มีแค่ plasmid DNA สไปก์โปรตีน แต่มียีนดื้อยาของเชื้อแบคทีเรียปนมาด้วย
ยุ่งละซี ตอนนี้คนที่ฉีด มรณา เอ้ย ยีนเทอราปี ที่หลอกว่าเป็น วัคซีนเข้าไป นอกจากจะมียีนไวรัสแทรกเข้าไปในสารพันธุกรรมของตนแล้ว เชื้อ ecoli ที่มีตามปกติในตัว จะกลายเป็นเชื้อ superbugs ที่ดื้อยา อีกด้วย
เพราะอย่างนี้ไงเล่า บริษัทยาถึงประโคมข่าว superbugs เพื่อขายยาปฏิชีวนะกันเปรมเลย😖😩😡
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
