13 พ.ย. 2023 เวลา 05:37 • ประวัติศาสตร์

“ฟลอยด์ คอลลินส์ (Floyd Collins)” นักสำรวจถ้ำผู้ติดอยู่ในถ้ำกว่า 17 วันก่อนจะเสียชีวิต

หากย้อนกลับไปเมื่อ 4-5 ปีก่อน ข่าวการติดในถ้ำของทีมหมูป่านั้นโด่งดังไปทั่วโลก ผู้คนต่างเอาใจช่วยให้ทีมหมูป่าปลอดภัย ซึ่งบทสรุปของเหตุการณ์นั้นก็คือทุกคนรอดมาได้อย่างปลอดภัยหลังจากติดอยู่ในถ้ำกว่า 10 วัน
แต่สำหรับนักสำรวจถ้ำอีกรายหนึ่ง ไม่ได้โชคดีเช่นนั้น
“ฟลอยด์ คอลลินส์ (Floyd Collins)” คือนักสำรวจถ้ำชาวอเมริกันผู้มากประสบการณ์ และได้ค้นพบถ้ำต่างๆ มากมาย และจุดจบของเขาก็มาจากการสำรวจถ้ำที่เขารัก
2
ฟลอยด์ คอลลินส์ (Floyd Collins)
คอลลินส์นั้นเริ่มสำรวจถ้ำตั้งแต่อายุเพียงหกขวบ และหลงใหลในการผจญภัยในถ้ำมาโดยตลอด และตัวเขาก็ได้เข้าสำรวจถ้ำที่เพิ่งค้นพบ ชื่อว่า “Sand Cave” ในปีค.ศ.1925 (พ.ศ.2468)
แต่แทนที่จะเปลี่ยนถ้ำนี้เป็นแหล่งทำเงิน คอลลินส์กลับติดอยู่ในถ้ำนี้ซะเอง
เรื่องราวของเขาเป็นอย่างไร ลองมาดูกันครับ
“ฟลอยด์ คอลลินส์ (Floyd Collins)” เกิดในปีค.ศ.1887 (พ.ศ.2430) ที่เคนตักกี้ สหรัฐอเมริกา โดยมีพ่อแม่เป็นเจ้าของฟาร์มซึ่งอยู่ไม่ไกลจากถ้ำ “Mammoth Cave” ซึ่งเป็นถ้ำที่มีความลึก มีทางเดินในถ้ำที่สำรวจพบแล้วยาวกว่า 675 กิโลเมตร และถ้ำ Mammoth Cave ก็ยังเป็นจุดหมายปลายทางของนักสำรวจหลายคนแม้จนกระทั่งทุกวันนี้
Mammoth Cave
คอลลินส์ในวัยเด็กก็สนใจเช่นกัน โดยเขามักจะสำรวจถ้ำใกล้ๆ กับฟาร์มของพ่อแม่ และความชื่นชอบในการสำรวจถ้ำนี้เอง ทำให้เขาสำรวจพบถ้ำที่เรียกว่า “Crystal Cave” ซึ่งอยู่ใต้ผืนดินของฟาร์มของพ่อแม่ในปีค.ศ.1917 (พ.ศ.2460)
คอลลินส์ก็เห็นช่องทางทำเงิน โดยโฆษณาว่า Crystal Cave เป็นทางผ่านไปสู่ Mommoth Cave และยังโฆษณาถึงความสวยงามของถ้ำ
แต่เมื่อถึงยุค 20 (พ.ศ.2463-2472) คนอื่นๆ ก็เริ่มจะเอาบ้าง เริ่มมีการสำรวจถ้ำและทำธุรกิจนำเที่ยวในถ้ำ และทำให้คนจำนวนมากต่างสำรวจหาถ้ำใหม่ๆ ในเคนตักกี้ เกิดเป็นการแข่งขันในธุรกิจถ้ำอย่างดุเดือด หากแต่คอลลินส์ก็มุ่งมั่นจะเป็นที่หนึ่งให้ได้
1
ในเมื่อตอนนี้ Crystal Cave ไม่ประสบความสำเร็จด้านการเงินแล้ว คอลลินส์จึงเริ่มเล็งไปยังถ้ำแห่งใหม่
ถ้ำแห่งใหม่นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ของฟาร์มใกล้เคียงที่มีเจ้าของเป็นชายที่ชื่อ "บีสลีย์ โดเยล (Beesly Doyel)" และบริเวณนี้เป็นบริเวณที่ทุกคนที่จะไป Mammoth Cave ต้องใช้ผ่านทาง
คอลลินส์และโดเยลได้ทำข้อตกลงกันในการสำรวจถ้ำ โดยถ้ำนี้ก็คือ "Sand Cave" และผลประโยชน์ที่ได้ ทั้งคู่ก็จะเอามาแบ่งกัน ซึ่งภายหลัง Sand Cave ก็ได้กลายเป็นถ้ำที่โด่งดังระดับประเทศ
แต่ความสำเร็จนี้ก็ต้องแลกมาด้วยชีวิตของคอลลินส์
30 มกราคม ค.ศ.1925 (พ.ศ.2468) คอลลินส์ได้เข้าไปใน Sand Cave เป็นครั้งแรก โดยมีอุปกรณ์เพียงแค่ตะเกียงใบเดียวเพื่อใช้นำทาง
หนทางในถ้ำนั้นสลับซับซ้อนและอันตราย และคอลลินส์ก็สำรวจเส้นทางไปเรื่อยๆ แล้วอยู่ๆ ตะเกียงของเขาไฟก็เริ่มจะใกล้หมด ทำให้คอลลินส์ต้องรีบกลับไปยังทางออก
ขณะที่กำลังรีบกลับไปยังทางออก คอลลินส์ดันทำตะเกียงตก และเมื่อเขาหันกลับไปเพื่อที่จะเก็บตะเกียงขึ้นมา ขาของเขาก็เกิดไปติดกับหินที่หนัก 12 กิโลกรัม และทำให้เขาต้องติดอยู่อย่างนั้น ไปไหนไม่ได้
2
คอลลินส์ต้องติดอยู่อย่างนั้นเป็นเวลากว่าหนึ่งวัน โดยกว่าจะมีคนรู้ว่าเขาหายไป ก็คือวันต่อมาเมื่อลูกชายของโดเยลพบว่าคอลลินส์ติดอยู่ในถ้ำ
1
ในไม่ช้า เรื่องราวของคอลลินส์ก็แพร่ไปอย่างรวดเร็วในชุมชน ทำให้ในไม่ช้า ผู้คนต่างมาออกันหน้าถ้ำ โดยบางคนก็มาเพื่อช่วย แต่ที่เหลือก็เป็นคนที่มามุงดูเท่านั้น
ในไม่ช้า ข่าวของคอลลินส์ก็แพร่ไปนอกชุมชนแทบจะทั่วประเทศ และผู้คนจำนวนมากก็พยายามจะช่วยคอลลินส์ ทั้งวิศวกร นักธรณีวิทยา นักสำรวจถ้ำ ต่างพยายามหาทางช่วย แต่ทั้งหมดล้วนแต่ล้มเหลว
ทีมช่วยเหลือสามารถเข้าไปถึงตัวคอลลินส์ได้ แต่ไม่สามารถเอาเขาออกมาได้
ในแต่ละวัน ผู้คนต่างมาออกันหน้าถ้ำมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนนับหมื่นต่างมามุงดู มีแม้กระทั่งแผงขายอาหาร ขายเครื่องดื่ม ขายของที่ระลึกหน้าถ้ำ โดยมีบันทึกว่ามีคนมามุงหน้าถ้ำกว่า 50,000 คนเลยทีเดียว
1
หนึ่งในคนที่มามุงดูก็มีนักข่าวอย่าง “วิลเลียม เบิร์ก มิลเลอร์ (William Burke Miller)” ซึ่งมิลเลอร์จะได้สร้างผลงานชิ้นเอกจากเหตุการณ์นี้
1
ด้วยความที่มีรูปร่างเล็ก ทำให้มิลเลอร์สามารถเล็ดลอดเข้าไปในถ้ำได้อย่างไม่ลำบากนัก และได้สัมภาษณ์คอลลินส์ที่ติดอยู่ด้านใน
วิลเลียม เบิร์ก มิลเลอร์ (William Burke Miller)
มิลเลอร์ได้จดบันทึกว่า
“ไฟฉายของผมเผยให้เห็นใบหน้าที่ทุกข์ทรมานเป็นเวลาหลายชั่วโมง เนื่องจากคอลลินส์นั้นอยู่ในสภาพที่ทรมานเช่นนี้มาตั้งแต่ 10 โมงเช้าวันศุกร์ ริมฝีปากของเขากลายเป็นสีม่วง ใบหน้าซีดเผือด และผมก็รู้ได้เลยว่าหากอยากจะให้ชายคนนี้รอดชีวิตก็ต้องทำอะไรซักอย่าง”
แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรได้ ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ.1925 (พ.ศ.2468) เพดานถ้ำได้ถล่มลงมา ทำให้คอลลินส์ถูกตัดขาดจากความช่วยเหลือ
มีการเข้าไปนำศพของคอลลินส์ออกมาได้ในอีกกว่าสองสัปดาห์ต่อมา แต่กว่าจะนำศพออกมาได้ก็ต้องใช้เวลากว่าสองเดือน และมันน่าเศร้าที่การตายของเขากลับทำให้ถ้ำใกล้เคียงที่เป็นคู่แข่งนั้นโด่งดัง ดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
คอลลินส์นั้นเสียชีวิตในขณะที่กำลังสำรวจถ้ำเพื่อตั้งใจจะสร้างความสำเร็จจากถ้ำ แต่ความพยายามของเขากลับสูญเปล่า
และหลังจากเสียชีวิต ก็มีการขุดร่างของคอลลินส์ และมีการเปลี่ยนมือศพไปหลายครั้ง อีกทั้งยังมีการขโมยศพ กว่าศพของคอลลินส์จะได้รับการฝังอย่างเหมาะสม และคอลลินส์ได้พักผ่อนซะที ก็คือในปีค.ศ.1989 (พ.ศ.2532) หลายสิบปีหลังจากคอลลินส์เสียชีวิต
โฆษณา