สำหรับเรื่องมารนี้ ทางพุทธศาสนาได้แสดงไว้ว่ามี 5 คือ
หนึ่ง :- ขันธมารมาร
คือขันธ์ ๕ นี้ นามรูปนี้หรือกายใจนี้ได้ชื่อว่าเป็นมาร ก็เพราะว่าเมื่อติดอยู่ในขันธ์ ๕ นี้ ติดอยู่ในนามรูป นี้ ติดอยู่ในกายใจนี้ ขันธ์นี้ก็ขัดขวางไม่ให้บรรลุถึงสุขประโยชน์ที่พึงจะได้ ตลอดจนถึงขัดขวางมิให้ปฏิบัติธรรม บรรลุถึงความสิ้นกิเลสได้
สอง :- กิเลสมาร
มารคือกิเลส ก็ได้แก่บรรดากิเลสต่างๆ มีตัณหา ราคะ โทสะ โมหะ หรือตัณหา ราคะ อรติ คือสมมุติว่าเป็นธิดามารดังกล่าวนั้น ก็เป็นเครื่องขัดขวางมิให้บรรลุถึงสุขประโยชน์ที่พึงจะได้ ตลอดจนถึงไม่ให้ปฏิบัติธรรม บรรลุถึงความสิ้นกิเลสได้
สาม:- อภิสังขารมาร
มารคือกรรม ก็ได้แก่กรรมที่ได้กระทำ กรรมดีบ้าง กรรมชั่วบ้างและเมื่อติดอยู่ในกรรม กรรมก็เป็นเครื่องตัดรอน มีให้บรรลุสุขประโยชน์ ตลอดจนถึงไม่ให้บรรลุธรรม บรรลุความสิ้นกิเลสได้
สี่ :- มัจจุมาร
มารคือความตาย เมื่อความตายมาถึง ก็เป็นอันตัดชีวิต เมื่อตัดชีวิต ก็เป็นอันตัดประโยชน์สุขที่จะพึงได้ต่อไป ตลอดจนถึงตัดการปฏิบัติเพื่อบรรลุความสิ้นกิเลสที่พึงจะได้ต่อไปด้วยและ
ห้า :- เทวปุตตมาร
มารคือเทวบุตร ก็ดังเรื่องพญามารที่เล่านี้ และตัวหัวหน้าใหญ่ก็เป็นเทพผู้สถิตอยู่ในชั้นสวรรค์ที่ ๖ ซึ่งแสดงว่าเป็นสวรรค์ชั้นสูงสุด ซึ่งมี ๒ ก๊กดังกล่าวนั้น และหัวหน้าของก๊กมารนี้ก็ชื่อว่า "วสวัตตี" ซึ่งมักจะเรียกกันในภาษาไทยว่า พญามารก็คือ พญามารวสวัตตีมาร และพญามารนี้ก็ได้มาขัดขวางพระโพธิสัตว์หลายครั้งหลายหน
บทสวดพุทธชัยมงคลคาถา (๒๔ กันยายน ๒๕๒๔)
📖 ตำนานพระพุทธมนต์ เจ็ดตำนาน สิบสองตำนาน
🙏สมเด็จพระสังฆราชเจ้ากรมหลวงวชิรญาณสังวร
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
