อาการคนท้องระยะแรกช่วง 1-2 สัปดาห์ จะมีสัญญาณอะไรบอกคุณแม่บ้าง

อาการคนท้องระยะแรก 1-2 สัปดาห์ อาจจะยังไม่แสดงออกอย่างชัดเจนมาก เพราะทารกในครรภ์ยังเล็กอยู่มาก และอาการที่แพทย์แนะนำอาจจะเกิดขึ้นได้ในช่วงนี้ ได้แก่
ประจำเดือนขาด เป็นอาการที่พบได้บ่อยที่สุด เกิดจากการที่ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วฝังตัวในผนังมดลูก ส่งผลให้ระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนสูงขึ้น ทำให้ประจำเดือนขาด
เต้านมมีการเปลี่ยนแปลง เต้านมจะขยายใหญ่ขึ้น คัดตึง และไวต่อสัมผัส หัวนมและลานนมอาจคล้ำขึ้น
คลื่นไส้ อาเจียน อาการแพ้ท้องมักเริ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ 4-6 ของการตั้งครรภ์ โดยอาการจะรุนแรงขึ้นในช่วง 8-12 สัปดาห์ และจะค่อย ๆ บรรเทาลงเมื่ออายุครรภ์มากขึ้น
อ่อนเพลีย อาการอ่อนเพลียมักเกิดขึ้นในช่วงแรกของการตั้งครรภ์ เนื่องจากร่างกายต้องการพลังงานเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับการเจริญเติบโตของทารก
ปัสสาวะบ่อย เกิดจากปริมาณเลือดที่เพิ่มขึ้น ทำให้ไตต้องทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น
อารมณ์แปรปรวน เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในร่างกาย
อย่างไรก็ตาม อาการเหล่านี้เป็นเพียงสัญญาณเบื้องต้นเท่านั้น ไม่สามารถยืนยันได้อย่างชัดเจนว่ากำลังตั้งครรภ์หรือไม่ หากมีอาการดังกล่าว ควรตรวจหาการตั้งครรภ์ด้วยชุดตรวจการตั้งครรภ์หรือไปพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยที่แม่นยำยิ่งขึ้น
นอกจากอาการข้างต้นแล้ว ยังมีอาการอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วง 1-2 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ ได้แก่
ปวดหัว
เวียนศีรษะ
มีตกขาวมากผิดปกติ
มีเลือดซึมออกทางช่องคลอด
ท้องอืด
ท้องผูก
อยากอาหารมากขึ้นหรือลดลง
ชอบกลิ่นหรือรังเกียจกลิ่นบางชนิด
หากมีอาการเหล่านี้ ควรสังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หากอาการรุนแรงหรือรบกวนชีวิตประจำวัน ควรรีบไปพบแพทย์
อ่าน 17 #อาการคนท้อง เพิ่มเติม ได้ที่ https://www.sanook.com/women/173553/
ขอบคุณภาพถ่ายโดย PNW Production: https://www.pexels.com/th-th/photo/7678124/
โฆษณา