13 พ.ย. 2023 เวลา 15:08 • สุขภาพ

เลือกคอลลาเจนให้ปัง

คอลลาเจนตามท้องตลาดมีหลากหลายรูปแบบให้เลือกซื้อมาก คำถามคือ “เราควรเลือกแบบไหน”
วันนี้เราจะไม่พูดถึงคุณสมบัติ หรือขนาดของโมเลกุลของคอลลาเจนเพราะมีคนพูดเยอะแล้ว
แต่เราจะมาเล่าให้ฟังว่าหากวันหนึ่งเรายืนอยู่หน้าShelvesแล้วมีคอลลาเจนวางเป็นกอง เราควรพิจารณาอย่างไรว่าแบบไหนเหมาะกับความต้องการของเรา
แคปซูล
ความเข้มข้นของคอลลาเจนชนิดแคปซูลเป็นที่รู้ดีกันดีว่ามีความเข้มข้นน้อยที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับรูปแบบอื่น ยกเว้นGummie เนื่องด้วยขนาดของแคปซูลไม่สามารถบรรจุสารสำคัญในปริมาณเยอะๆได้ หากปริมาณคอลลาเจต่อหนึ่งแคปซูลอยู่ที่ 250มก.ถ้าต้องการได้คอลลาเจนที่10,000มก. เราต้องกลืนแคปซูลประมาณ40เม็ด อิ่มเกินนนน
พูดถึงความสะดวกสบาย แคปซูลอาจจะเป็นตัวเลือกต้นๆที่หลายๆคนอยากนึกถึง แต่…..แคปซูลสำหรับคอลลาเจนอาจจะไม่เหมาะนัก เพราะถ้าเราอยากเห็นผลเราจำเป็นต้องได้คอลลาเจนถึง 10,000 มก. นั้นหมายความว่าอย่างน้อยที่ต้องกินต่อครั้งอยู่ที่ 40 แคปซูล
ถึงแม้ว่าแคปซูลอาจจะไม่ได้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์คอลลาเจน แต่มันคงเหมาะสำหรับสารสำคัญที่ต้องการปริมาณน้อยๆ ไม่ว่าจะเป็น Vitamin c กลูตาไธโอน หรือ Coenzyme Q10
ข้อดีของแคปซูลคือหากเรารับประทานตามปริมาณที่แนะนำ มันยากมากที่เราจะได้รับผลข้างเคียงจากการได้รับปริมาณสารที่สูงเกินไป
แคปซูลเป็นรูปแบบหนึ่งนอกจากGummie ที่จำเป็นต้องใช้ระบบย่อยอาหารในการย่อยเปลือกแคปซูล รวมถึงการทำละลายของสารสำคัญเพื่อให้สารอาหารพร้อมที่จะถูกดูดซึม หากใครมองหาผลิตภัณฑ์ที่พร้อมดูดซึมนำไปใช้ได้เลย แคปซูลคือหนีไปให้ไกลที่สุด
การปรับโดสการกินเองเป็นเรื่องปกติเพราะเราต้องการได้รับโดสที่เห็นผล แต่แคปซูลเป็นรูปแบบที่ปรับโดสได้ยากลำบาก หากการเพิ่มโดสก็อาจจะเจอปัญหาเรื่องSide effect หรือทานแล้วไม่เห็นผลได้เพราะเราไม่สามารถปรับเพิ่มหรือลดได้ง่าย เพราะการปรับเพิ่มคือการDouble doseไปเรื่อยๆจนกว่าจะได้รับ Collagen ในปริมาณความเข้มข้นที่เราต้องการ แต่อาจจะได้รับสารตัวอื่นมากเกินกว่าที่ร่างกายต้องการในเวลาเดียวกัน ทำให้มีความเสี่ยงต่อการได้รับโดสสารอื่นๆเกิน ผลที่ได้คือระบบย่อยอาหารอาจจะระคายเคืองได้
ความคงทนของสารสำคัญในแคปซูลเป็นสิ่งที่แคปซูลทำได้ดีกว่ารูปแบบๆ เพราะตัวเปลือกแคปซูลเองทำหน้าที่ในการลดการสัมผัสกับอากาศ ความชื้น รวมถึงแสงในบางกรณี
Gummy
คอลลาเจนในรูปแบบกัมมี่เป็นรูปแบบของผลิตภัณฑ์ที่ให้ปริมาณสารสำคัญได้น้อยที่สุด และจำเป็นต้องถูกย่อยแบบ100% ไม่ว่าจะต้องเคี้ยวให้ละเอียด หลังจากกลืนก็ใช้enzymeในการย่อยอีก ก่อนย่อยมีคอลลาเจน เพียง 100 มก. หลังจากย่อยจะเหลือเท่าไหร่นี้ก็เป็นเรื่องที่ต้องคิด
แล้วถ้าจะให้ได้โดสที่ 10,000มก. คือต้องกินถึง 100 กัมมี่ นอกจากอิ่มแล้ว เบาหวานจะถามหาเอา เพราะมีน้ำตาลหรือสารที่ทำให้เกิดเจลจำนวนมาก
การผลิตกัมมี่ต้องใช้ความร้อน ความร้อนนี้ละที่จะทำลายวิตามินและสารอื่นๆที่อยู่รวมกัน อาทิเช่น Vitmin C
ผงชง
คอลลาเจนชนิดผงชงดูเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เนื่องด้วยคอลลาเจนรูปแบบนี้มาพร้อมกับความสะดวกสบาย เพียงชงกับน้ำเปล่าแล้วดื่มได้เลย แต่ๆๆๆๆๆมันไม่ได้สะดวกถ้าเปรียบเทียบกับชนิดน้ำ
ลดโดสหรือเพิ่มโดส คอลลาเจนชนิดผงเป็นรูปแบบหนึ่งที่สามารถทำได้และสะดวกมากๆ หากต้องการเพิ่มโดสความเข้มข้นก็สามารถเพิ่มโดสได้ทันที
1ช้อนตวงให้คอลลาเจนที่ 5,000 มก. หากต้องการคอลลาเจนที่ 10,000 ก็แค่ตักเพิ่มอีก 1 ช้อนตวง ยังไงก็แล้วแต่เราควรระวังหากในผลิตภัณฑ์มีสารตัวอื่นมาด้วย ในขณะที่เราเพิ่มโดสคอลลาเจน โดสของสารตัวอื่นที่ใส่มาด้วยก็จะเพิ่มตามอัตโนมัติ สารที่ควรระวังได้แก่ Vitamin A D E K และแร่ธาตุต่างๆ
อย่างไรก็ตามคอลลาเจนชนิดผงมีข้อจำกัด การละลายเป็นปัญหาที่พบบ่อยในผลิตภัณฑ์ชนิดผง ในบางผลิตภัณฑ์ไม่สามารถละลายได้หมด หรือมีการตกตะกอน
สิ่งหนึ่งที่ไม่ควรเจอในผลิตภัณฑ์คือสารบางชนิดที่ไม่ละลายในน้ำ หรือสารบางชนิดที่ไวต่ออากาศ น้ำแสงแดด และอุณภูมิที่แปรปรวน อาทิเช่น Vitamin C บางชนิด หรือ Coenzyme Q10 หรือกลุ่มวิตามมินหรือแร่ธาตุที่ละลายในน้ำมัน
ถึงแม้จะเครมว่าเป็น Di หรือ Tri peptide ร่างกายจะดูดซึมและอนุญาตให้ DiหรือTri peptideอยู่ในระบบเลือดเพียงแค่ 10% ส่วนที่เหลือจำเป็นต้องมีขนาดที่เล็กในรูปแบบ Animo acidsเสียก่อน ถึงจะดูดซึมได้หมด
ชนิดน้ำ
เป็นแบบที่สะดวกสบายที่สุด เพราะไม่ต้องชง เพียงฉีกซองหรือเปิดขวดก็พร้อมดื่ม
คอลลาเจนชนิดน้ำเหมือนจะเป็นชนิดเดียวที่สามารถใช้เทคโนโลยีในการนำส่งหรือย่อยโมเลกุลทำให้คอลลาเจนมีโมเลกุลเล็กที่สุด บางแบรนด์เครมว่าเล็กจนร่างกายไม่ต้องย่อย ดูดซึมได้เลยทันที
การปรับโดสก็ทำได้ง่าย ถ้าต้องการ Double โดสก็ดื่มเพิ่มอีกซอง แต่หากต้องการเพิ่มโดสแบบตามที่ต้องการอาจจะยากนิดหน่อยเมื่อเราต้องทำการตวง เช่นเดียวกับชนิดผง เพิ่มโดสแล้วให้ระวังผลข้างเคียงของสารอื่นที่อยู่ในผลิตภัณฑ์ด้วยน้า
ส่วนเรื่องความเสถียนของสารไม่น่ากังวลเหมือนรูปแบบอื่นๆ เพราะมันถูกคิดมาแล้วว่ามันจะสามารถคงคุณสมบัติได้ดีในบรรจุภัณฑ์ มีแค่กรณีเดียวที่น่ากังวลคือเปิดบรรจุภัณฑ์แล้วไปดื่มทันที เราควรรู้ตัวอยู่เสมอว่า อากาศ ความร้อน และแสงแดด ยังคงเป็นตัวร้ายของสารอาหารต่างๆในโลกใบนี้
โฆษณา