Indevisual ชวนย้อนมุมมองหนังเรื่อง Her 2013 ผ่านมาสิบปี มีอะไรเข้าใกล้ความ futuristic ในเรื่องบ้าง
ภาพยนตร์สุดล้ำสมัยที่เข้าฉายไปในปี 2013 อย่าง 'Her' กำกับโดย Spike Jonze เป็นภาพยนต์แนวไซไฟ-โรแมนติกที่ชวนให้น่าตระหนักถึงความสัมพันธ์ของมนุษย์ในอนาคต บทบาทของ Post Human ว่าความสำคัญของมนุษย์และสิ่งมีชีวิตว่าจะเป็นไปในทิศทางใดต่อไป เมื่อปัญญาประดิษฐ์หรือ AI เข้ามีบทบาทสำคัญมากกว่ามนุษย์เสียอีก ดังเช่นความสัมพันธ์ของตัวละครหลักอย่าง Theodore และ Samantha ระบบปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์ที่ตัวเขาได้ซื้อมาและตกหลุมรักในภายหลัง
ซึ่ง AI สาวทำหน้าที่ได้เหมือนผู้ช่วยส่วนตัวและสามารถเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ ได้ด้วยตัวเองเหมือนกับมนุษย์ นี่จึงอาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามนุษย์จะไม่ใช่ศูนย์กลางในการขับเคลื่อนโลกอีกต่อไปแล้ว
ที่มา: imdb.com/title/tt1798709/
ถ้าได้รับชมภาพยนตร์เรื่อง Her กันไปแล้วจะเห็นเลยว่า เรื่องทุกอย่างนั้นเกิดจากความเหงาและความต้องการคนที่จะเข้าอกเข้าใจของ Theo บวกกับนิสัยที่มักยึดความต้องการของตัวเองในการควบคุม อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เขาเลือกปัญญาประดิษฐ์มาเป็นคนรักของเขา เพื่อความต้องการของตนเอง Samantha มีลักษณะนิสัยใจคอคล้ายกับ Theo อยู่มาก ซึ่งมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต
เรียกว่านิสัยของคนในกลุ่ม Generation Wild and Field หรือที่เรียกว่า Gen Y นั่นเอง เพราะว่าคนกลุ่มนี้เติบโตมาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและส่งผลกับชีวิตของคน Gen นี้โดยตรง
ดังนั้นกลุ่มคน Gen Y จึงนิยมการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดด และนี่จึงอาจเป็นหนึ่งในเหตุผลของปัญหาข้างต้นที่เราได้กล่าวไว้อย่าง สมาธิสั้น มีวิจารณญาณต่อข่าวสารที่ไม่แข็งแรงอาจมีผลต่อการรับรู้ทางอารมณ์ ซึ่งจะนำเราเข้าใกล้จุดสิ้นสุดของความเป็นมนุษย์ แต่ถ้าหากว่าพวกเราแก้ปัญหานี้ด้วยความเข้าใจ มีความสามารถในการควบคุมอารมณ์ จัดการ ฝึกฝนตัวเอง รักษาและรู้ตัวว่าพวกเราคนใดคนหนึ่งเข้าใกล้โรคสมาธิสั้นกับกับซึมเศร้า เราก็จะเข้าใจกันมากขึ้นโดยไม่ต้องยึดติดตัวตนในความสัมพันธ์อีกเลย
ร่างกายที่เห็นอยู่นี้เป็นความจริงไหมทั้งที่ร่างกายมีข้อจำกัดเรื่องอายุขัย แต่ร่างกายก็เป็นสิ่งที่ยืนยันในเรื่องของการมีอยู่ว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ไหน Her นั้นเป็นของเราจริงหรือเปล่า