16 พ.ย. 2023 เวลา 16:40 • กีฬา
ราชมังคลากีฬาสถาน

"ไทย 1-2 จีน ความแตกต่างในรายละเอียด"

สรุปเรื่องราวระหว่างทาง
จากเกม “ไทย 1-2 จีน”
ในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก
โซนเอเชีย รอบสอง กลุ่ม ซี นัดแรก
ที่แม้จะเป็นความพ่ายแพ้
แบบเฉือนกันแค่สกอร์เดียว
ทว่าหากมองลงลึกไปในรายละเอียดจริงๆ
กลับพบว่าเรายัง “ขาด” อะไรอีกมากมาย
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงกลางราชมังฯ
1. ครึ่งแรก - ตัวชี้วัดว่าใคร “รัดกุมกว่า”
1.1 จีนมาในระบบหลัง 3 ตามกระดาน แต่เวลาเล่นจริง ฟูลแบ็คสองฝั่งของพวกเขาแทบไม่เติมเลย ลงมาช่วยเกมรับจนมีกองหลัง 5 คน ทำให้ไทยทำได้แค่เคาะบอลไปมา เจาะไม่เข้า เหมือนบุกทีไรก็เงยหน้าเจอกำแพงเมืองจีนขวางอยู่ ยืนปักหลังกันแน่นๆ แทบไม่เปิดพื้นที่
1.2 ซึ่งเราเล่นกันอย่างอดทน เน้นการครองบอลไว้ก่อนย่อมลดโอกาสอีกฝ่ายไปในตัว แล้วอาศัยจังหวะสวนกลับได้ดี ปรับจากรับเป็นรุก “เช็ก สุภโชค” ควบมาเต็มสปีดทางริมเส้นฝั่งซ้าย ก่อนจะฝากไปที่ “เมสซี่เจ” ชิ่งต่อให้ “แบงค์ ศุภณัฏฐ์” กองหน้าดาวโรจน์ที่เพิ่งได้ชิมลางหวดในลีกสูงสุดเบลเยี่ยมไป รับบอลยิงทางมุมแคบแล้วโดนปัดกระฉอกมาเข้าทางอีกรอบ
เลยส่งคืนพี่เช็กและมาที่กลางพ่อมดอย่าง “ตังค์ สารัช” แต่งหนึ่งจังหวะแล้ววอลเลย์ด้วยซ้ายเต็มข้อ!! ทะลวงกำแพงแตกกระจุยในนาทีที่ 23 จุดนี้ทำได้เยี่ยมมากๆ ชื่นชมที่เราเข้าทำอย่างใจเย็น ถึงไม่เข้าจังหวะแรกก็ค่อยๆ ต่อบอลหาจังหวะใหม่จนทำได้
1.3 ทุกอย่างเริ่มดูผ่อนคลาย เล่นง่ายขึ้น ต่อบอลล่อให้จีนเปิดพื้นที่ขึ้นอีก เพราะเขาต้องเริ่มบุกหนักกว่าเดิม เป็นช่วงเวลาที่กำลังเข้าทาง เราเล่นดีต่อเนื่อง โจมตีหลายรูปแบบทั้งทำเกมจากกลางไปริมเส้น ทั้งตัดเข้าในแล้วยิง หรือจ่ายทะลุช่อง นับว่าทำได้ดีขึ้น
1.4 เสียดายช่วงเวลาที่ว่ากลับจบลงเร็วเกินคาด เมื่อจีนส่งสัญญาณหลายรอบว่าเกมสวนกลับพวกเขาเองก็น่ากลัว มีทั้งความเร็ว และความสามารถเฉพาะตัวที่ดี สอดประสานกันดีตั้งแต่ต้นเกมที่เกือบส่องตาข่ายบุกนำเราได้ จนเมื่อเจ้าตังค์พลาดก็สวนกลับ เปิดเข้าเสาสองแท็บอินสบายๆ พลาดง่ายไปจริงๆ
1.5 เกมค่อนข้างทันกัน คุณภาพในเกมโต้กลับมีพอกัน อยู่ที่ใครจะพลาดน้อยกว่าแค่นั้นเลย ฝั่งเราได้บุกก็บ่อย แต่ต้องละเอียดและเร็วกว่านี้ เพราะเขาแพ็คเกมรับกันไวมากก ยืนกันที 5-6 คน เหมือนอยู่ในดงมังกรยักษ์ที่เข้ามาเสริมแกร่งกำแพงเมืองอีกที โดยเฝ้ารอโอกาสเราพลาดอีก ศึกษามาดีว่านี่คือจุดอ่อนใหญ่สุดของช้างศึก
1.6 เมื่อแผลแรกถูกเปิด หนังม้วนเก่าๆ ก็ฉายมาใหม่ เสียบอลกลางทาง เหมือนขาดกลางรับคอยเบรกเกม โดนสวนกลับทีเกือบถึงตาย ยังดีว่าทีมเยือนเองก็ยังไม่คมพอ
###
2. ครึ่งหลัง – “รุกเริ่มหาย รับโคตรหลวม”
2.1 ไทยยังมีลูกฮึดอยู่ สิ่งหนึ่งที่คิดถึงที่สุดคือการเล่นของเจนี่แหละ กล้าเล่น กล้าลุย ลากเลี้ยงทำเกมมันส์จนจีนต้องตัดฟาล์ว เรายังคงพยายามบุกเอาลูก 2 ให้ได้อย่างต่อเนื่อง จนมาถึงจังหวะโหม่งเน้นๆ ของเจ้าตังค์คนเดิม เกือบเบิ้ลแล้วเชียว เสียดายจริงๆ ส่วนหนึ่งก็ไม่ได้หนีตัวโกลเขามากด้วย
2.2 ฝนตกอย่างหนักหน่วง เกมเริ่มจะทวีความยากยิ่งขึ้นไปอีก กลายเป็นจีนที่นิ่งกว่า ยังคงยึดแท็คติกรอพลาดแล้วสวนกลับ กลายเป็นยิ่งกลัวพลาดกลับยิ่งพลาดไปอีก แผลแรกเปิด แผลสองสามสี่ก็ตามมาต่อ เริ่มจากจังหวะที่เขาวิ่งทะลุไลน์เกมรับ สอดมายิงเน้นๆ ดีที่ “ไมค์ ปฏิวัติ” นายด่านแบงค็อก ยูไนเต็ดยังช่วยเซฟไว้ได้ แต่แล้วเราก็ยังเปิดช่องให้เขากระหน่ำมาเรื่อยๆ จาก “มานูเอล ทอม เบียรห์” สังกัดเดียวกัน ตามแนวรุกจีนไม่ทัน ช้ากว่าหนึ่งจังหวะเตะเขาร่วงลงในเขตโทษ โชคดีมากๆ ที่รอด เพราะอีกฝ่ายก็ดีดดิ้นโดนเหลืองแทน
2.3 และแล้ว “แผลใหญ่” ก็ถูกเปิดอีกครั้ง จากจังหวะที่ดูเหมือนจะไม่มีอะไรแล้ว แต่ก็พลาดเจอเขาปั๊มแย่งบอล เปิดโหม่งเข้าเสาสองที่โล่งเป็นทุ่ง บุกนำ 1-2 เปลี่ยนราชมังเป็นป่าช้าโดยพลัน จากนั้นกลายเป็นยิ่งเล่นยิ่งรวน จีนบุกทีน่ากลัว แม้บางจังหวะคนเขามี 3 เรามี 4 กลับพาหัวใจหล่นตุ้มๆ ต่อมๆ แถมเกือบโดน 1-3 ด้วย ทำให้เห็นว่าเกมรับเรามีปัญหามากๆ ประกบหลวม พร้อมจะโดนอยู่ตลอด
2.4 ขณะที่เกมรุกก็มาๆ หายๆ จังหวะที่ได้บุก ก็ทำได้แค่เกือบจากลูกปั่นของเช็ก สุภโชค คือเราบุกเขาได้ครับ แต่ไม่ต่อเนื่อง จนเกมรุกเริ่มหายจริง กลายเป็นเปิดโอกาสให้จีนได้บุกมากกว่าเดิม เพิ่มเติมคือรอบนี้เขาปิดตายเกมสวนกลับเราสนิท รีบเบรกเกมก่อนจะพลิกจังหวะบุก ยิ่งขาดเจเหมือนขาดใจ ขาดพลังขับเคลื่อนในแดนกลาง และขาด “หน้าเป้า” ตัวจบสกอร์ซึ่งเป็นปัญหาฝังรากมานาน เมื่อเฟลิเป้ มุ้ยเองก็เริ่มโรยรา ยังขาดคนมาแทน
2.5 จบแบบซ้ำๆ เจ็บแบบช้ำๆ – เมื่อบุกเข้าทำไม่ได้แบบเดิมในเวลาที่นับถอยหลังลง กลายเป็นต้องเร่งเกมบอมรัวๆ ใส่กำแพงเมืองจีนที่ปักหลักรอเก็บกินสบาย ด้วยตัวผู้เล่นที่สูงใหญ่กว่า แกร่งกว่า อย่าพลาดมานะ รอจังหวะสวนลูก 3 แน่ หรือมีจังหวะก็ต้องถ่วงเวลาเจ็บแล้วนอนนาน เปลี่ยนตัวเดินช้า ว่าไม่ได้ เพราะเป็นไปตามแท็คติก ถ้าเรานำอยู่ก็คงเชียร์ให้ทำแบบนั้นเช่นกัน
ก็เป็นอีกครั้งและอีกครั้งที่
ทัพช้างศึกเราเล่นดี
แต่ยัง “ขาด” อะไรไปมากมาย
ในการจะกลับสู่ความเป็น
ทีมที่ดีทีมหนึ่งของอาเซียน
หรืออย่างน้อยๆ ขอแค่จุดเปลี่ยน
มาส่งประกายความหวังใหม่
ให้พอชื่นใจได้บ้างก็ยังดี
พวกเราในฐานะผู้เล่นคนที่ 12
ก็ต้องตบบ่า ปลุกใจเชียร์กันต่อ
รอให้ถึงวันนั้นสักวัน,,, 🇹🇭🇹🇭
ขอบคุณภาพจาก: ช้างศึก - ฟุตบอลทีมชาติไทย
โฆษณา