17 พ.ย. 2023 เวลา 09:36 • กีฬา

วันที่บอลไทยเละเทะไปทุกอย่าง ทำไมเราแพ้จีนคาบ้าน

เมื่อวานพอบอลจบ ผมเดินออกจากสนามทันที ไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ไม่รอดูการเดินขอบคุณแฟนๆ รอบสนาม ไม่รอฟังการสัมภาษณ์ ไม่อยากรับรู้ว่าโค้ช, นักเตะ หรือ ผู้จัดการทีม จะพูดอะไร ไม่อยากฟังเลย
3
ความรู้สึกเหมือนคนอกหัก ฟุตบอลโลก 4 ปีมีครั้ง คือสิ่งที่เราหวังมากๆ แล้วมาปีนี้ ไทยมีกลุ่มผู้เล่นที่ดีที่สุด สมบูรณ์แทบทุกจุด เจอกับจีนที่อยู่ในขาลง คือเสมอก็แย่แล้วนะ แต่นี่กล้าๆ แพ้คาบ้าน ทำได้ยังไง
3
มันจึงเป็นอารมณ์ทุกอย่างที่ไหลมารวมกัน โกรธ เสียใจ ผิดหวัง ไม่เข้าใจ
เมื่อทีมแพ้ปั๊บ ผมพยายามหาเหตุผล ว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เราแพ้ทั้งๆ ที่ตัวพร้อมกว่าขนาดนี้ และ ทั้งๆ ที่โค้ชจีนคนนี้ ไม่เคยชนะนอกบ้านเลยแม้แต่เกมเดียวด้วยซ้ำ
1
สิ่งแรกที่ผมคิดว่าเกี่ยวข้อง คือตั้งแต่ก่อนบอลโลกจะเริ่ม เราโฟกัสกับเรื่องนอกสนามมากเกินไป
2
เช่น วันที่ 13 พฤศจิกายน ก่อนแข่ง 3 วัน เราให้นักเตะทีมชาติไปนมัสการกราบไหว้ขอพรเจ้าคุณธงชัย ที่วัดไตรมิตร เสียเวลาไปครึ่งวัน
10
นักบอลต้องเดินทางจากรังสิตไปวัดไตรมิตร แล้วไปนั่งฟังเทศน์อีกหลายชั่วโมง เวลาที่ล้ำค่าในการเรียนรู้แท็กติก ในการซ้อมแผน ศึกษาข้อมูลคู่ต่อสู้ หมดไปกับเรื่องเสริมดวงชะตาแบบนี้น่ะหรือ? อีก 3 วันก่อนเตะเนี่ยนะ
22
ผมไม่รู้ว่า คุณนวลพรรณ ล่ำซำ จะแคร์อะไรเรื่องดวงชะตาขนาดนั้น อย่างเรื่องกัปตันทีม ต้องแบ่งเป็น 2 คน ใน 2 เกม แล้วก็สลับกันไปมา เดี๋ยวคนนี้เป็นเกมนั้น คนนั้นเป็นเกมนี้ พอนักข่าวไปถามธีราทร บุญมาทัน ก็ได้คำตอบว่า "ผมไม่รู้จะพูดอะไร แล้วแต่ผู้ใหญ่"
8
สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งไขว้เขว ไม่มีความจำเป็นต้องมีประเด็นแต่แรก ถ้าคุณทำตามสิ่งที่สากลโลกเขาทำ คือกำหนดกัปตันให้เรียบร้อย ใช้คนเดียวไปเลย ทุกอย่างก็จบแล้ว
4
รวมไปถึงประเด็นเงินอัดฉีด ที่สร้างความหวือหวา ให้คะแนนละ 1 ล้านบาท รู้ไหมครับว่า จีนได้อัดฉีดจากการชนะไทยเมื่อคืนนี้เท่าไหร่ คำตอบคือ "0 หยวน" พวกเขามาลงเล่นเพื่อชาติ ดังนั้นมันก็ต้องมีสปิริตอยากชนะอยู่แล้วไม่ต้องเอาเงินมาล่อ
คือจริงๆ เรื่องอัดฉีด ไม่ใช่เรื่องแย่นะครับ แต่ไม่ควรเอามาเป็นวาระหลัก เสนอข่าวใหญ่โตขนาดนั้น มันก็เป็นอีกสิ่งที่ไขว้เขวสมาธินักเตะได้เหมือนกัน
2
ความชุลมุนนอกสนาม กับทีมชาติมีตลอดเวลา ก่อนหน้านี้มีประเด็นที่จะดึงมาซาทาดะ อิชิอิ มาเป็นผู้อำนวยการเทคนิค มีการสัญญาว่าจะให้เป็นโค้ชทีมชาติต่อ แล้วสุดท้ายก็ไม่ได้ทำตามที่พูด ดราม่าอลวนมาก
2
นั่นคือเรื่องนอกสนาม ที่การจัดการต่างๆ ดูมั่วไปหมด แน่นอน มันส่งผลให้คุณนวลพรรณ เสียเครดิตไปมหาศาลมาก
1
ความรู้สึกไม่ชอบใจคุณนวลพรรณ เกิดขึ้นอย่างหนักตั้งแต่ฟีฟ่าเดย์รอบที่แล้ว แน่นอน คนรอบตัวอาจจะเชิดชูเธออยู่ แต่ถ้าลองไปอ่านในโลกออนไลน์ ไปอ่านคอมเมนต์ที่แท้จริงของคนทั่วไป จะรู้เลยว่า สายตาที่คนมองคุณนวลพรรณในเวลานี้ ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว
1
เรื่องนอกสนามก็เกี่ยว แต่สิ่งที่ทำให้ทีมชาติไทยพังพินาศจริงๆ คือเรื่องในสนาม
เสียงสังคมเป็นเอกฉันท์ ว่าความสามารถของมาโน่ โพลกิ้ง มีไม่พอ ที่จะทำให้เราเก็บแต้มได้
มาโน่ โพลกิ้ง เป็นที่รู้จักในประเทศไทย เมื่อเขาเป็นผู้ช่วยของวินฟรีด เชเฟอร์ ในสมัยเป็นเฮดโค้ชทีมชาติ ทีนี้พอคนเริ่มรู้จักเขา ก็เริ่มได้งานที่ไทย ได้คุมอาร์มี่, สุพรรณบุรี และแบงค็อก ยูไนเต็ด ก่อนจะไปอยู่โฮจิมินห์ ที่เวียดนาม แต่ไม่เคยได้แชมป์อะไรเลยสักรายการเดียว
2
มาโน่ เรียนจบหลักสูตรโปรไลเซนส์ในไทย คลาสเดียวกับ วรวุธ ศรีมะฆะ และ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง ดังนั้นถ้าพูดกันแฟร์ๆ คุณภาพของเขา ก็เลเวลเดียวกับโค้ชคนไทยนี่แหละ
2
มาโน่ จับพลัดจับผลู ได้คุมทีมชาติไทย ปรากฏว่า เขาทำตามเป้าหมายเบื้องต้นได้สำเร็จ คือการคว้าแชมป์ AFF ติดต่อกัน 2 สมัย จึงได้สัญญาต่อมาเรื่อยๆ อย่างไรก็ตาม แฟนบอลเห็นสัญญาณมานานแล้ว ว่าทรงบอลของมาโน่ มันดูไม่ดีเลย
3
เจอทีมอาเซียนชนะได้ก็จริง แต่เวลาไปเจอทีมจากเอเชีย เสร็จเขาตลอด แม้แต่ไต้หวัน ที่ปกติผูกปีชนะ ก็ยังแพ้ได้ เล่นบอลไร้ทิศทาง เหมือนพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวของผู้เล่นล้วนๆ
ในช่วงก่อนคิงส์คัพ ตอนที่มีกระแสข่าวหนักๆ ว่า มาซาทาดะ อิชิอิ จะได้เสียบตำแหน่งเฮดโค้ชทีมชาติไทย แทนมาโน่ ผมเขียนวิเคราะห์ว่า
"ถ้าถามใจของผม ระหว่างมาโน่ กับ อิชิอิ ผมชอบอิชิอิมากกว่า เพราะผลงานดีกว่า ในระดับสโมสร อิชิอิเคยได้แชมป์มาหมดแล้ว ทั้งเจลีก เอ็มเพอเรอร์สคัพ และ ลูวานคัพ นอกจากนั้น ยังเคยพาคาชิม่า แอนท์เลอร์ส ได้รองแชมป์ฟีฟ่าคลับเวิลด์ แต่ไปแพ้เรอัล มาดริด ในช่วงต่อเวลาพิเศษ
2
พออำลาญี่ปุ่น ย้ายมาคุมทีมในไทย ก็เริ่มต้นได้ดีกับสมุทรปราการ ทำทีมเล่นบอลสวยงาม จากนั้นพอย้ายมาอยู่บุรีรัมย์ อิชิอิ ได้ Treble "2 สมัยซ้อน" เป็นคนเดียวในประวัติศาสตร์ฟุตบอลไทย ที่พาทีมได้สามแชมป์พร้อมกัน สองรอบติด ทั้งไทยลีก, เอฟเอคัพ และ ลีกคัพ
4
อาจมีคนสงสัยว่า อากิระ นิชิโนะ ก็เคยคว้าแชมป์เจลีกเหมือนกัน มาคุมทีมชาติไทยก็ยังไม่ปัง แต่ในเคสของนิชิโนะ เขาไม่เคยผ่านเกมไทยลีกมาก่อน ต่างจากอิชิอิ ที่รู้จักวิถีของบอลไทย และเข้าใจนิสัยของนักเตะไทย การทำงานในทีมชาติน่าจะสมูธกว่านิชิโนะมาก"
แต่เมื่อสุดท้าย คุณนวลพรรณ และนักเตะ ไม่เอาอิชิอิ เลือกมาโน่ให้เป็นโค้ชต่อ ผมก็ยอมรับสิ่งนั้น แถมยังเขียนให้กำลังใจมาโน่ด้วยว่า "มาโน่ ควรได้โอกาสในทัวร์นาเมนต์ใหญ่ดู และถ้าเราไม่ชนะจีน กับสิงคโปร์ในสองเกมแรก ถึงตรงนั้นค่อยปลดก็ได้"
3
ช่วงนั้น มาโน่ โดนคนวิจารณ์หนักว่า แท็กติกไม่ดี ทรงบอลแบบนี้ชนะในเอเชียไม่ได้หรอก แต่วันนั้นผมยังปกป้องเขา อยากให้เขาได้พิสูจน์ตัวเองต่อ (เพราะอุตส่าห์ได้แชมป์ AFF สองสมัยติด) อย่างน้อยถึงเกมกับจีนก็ยังดี
ผมไม่ได้อคติกับมาโน่ จริงๆ เข้าใจเขานะ ว่าต้องทำงานอย่างอึดอัด ไม่เคยได้ใช้งาน Full Team จริงๆ สักที
3
แต่ความเห็นใจทั้งหลาย ก็ถูกลดทอนลงไป ในช่วงฟีฟ่าเดย์ ที่ไทยเจอจอร์เจีย และ เอสโตเนีย นั่นคือครั้งที่ผมรู้สึกผิดหวังกับมาโน่มากๆ
ตอนนั้น มาโน่ ไม่เรียกตัวนักเตะจากสามสโมสร ที่ไปเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก (บุรีรัมย์, บีจี, แบงค็อก) คือใครก็รู้ว่าต้องมีการตกลงกันเบื้องหลังอยู่แล้ว จากนั้นมาโน่จำใจเอานักเตะหน้าใหม่ไปเล่นฟีฟ่าเดย์แทน
1
ในนัดเจอจอร์เจีย ถ้าเราเอาทีมชุดใหญ่มาเลย ก็ยังเหนื่อยหนัก มีโอกาสแพ้มากกว่าชนะ แล้วพอมาโน่เอาไปแต่เด็ก มียศกร บูรพา เด็ก 18 ปี เป็นกองหน้าตัวเป้างี้ ไม่แปลกหรอกครับที่จะโดนจอร์เจียถล่ม 8-0
1
สิ่งที่น่าผิดหวังคือวันต้องเรียกตัวชุดจอร์เจีย - เอสโตเนีย มาโน่ไม่ได้ทักท้วงหรือโวยวายว่า ฟีฟ่าเดย์แท้ๆ สโมสรมาแทรกแซงเรื่องการเรียกตัวได้ไง ตรงข้าม เขากลับยอมรับง่ายๆ โดยให้สัมภาษณ์ว่า "ทางสตาฟฟ์โค้ชและตัวผมเองก็เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างดี"
ลองคิดภาพดูว่า ถ้าแกเร็ธ เซาธ์เกต ถูกแมนฯ ซิตี้, อาร์เซน่อล, แมนฯ ยูไนเต็ด และ นิวคาสเซิล 4 สโมสรที่ไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ขอร้องว่า เราไม่ส่งนักเตะให้ทีมชาติอังกฤษละกัน เพราะโปรแกรมคาบเกี่ยวกัน ทีมเราจะได้พักเยอะๆ หน่อย ถามว่าเซาธ์เกตจะยอมหรือ?
ไม่มีโค้ชทีมชาติไหน เขาจะยอมศิโรราบแบบนี้หรอก ให้สโมสรมาชักจูงการทำงานของตัวเองได้ง่ายๆ แต่มาโน่กลับยอม ไม่ไฟต์ ไม่อะไรเลย เขารู้ดีแก่ใจว่าเกมกับจอร์เจีย และเอสโตเนีย คือสองนัดสำคัญที่ไทยจะเตรียมทีมไว้เจอจีนแท้ๆ
1
คาแรคเตอร์ที่โอนอ่อนกับผู้ใหญ่แบบนี้ อาจทำให้เขาได้คุมทีมชาติต่อไปก็จริง แต่สิ่งที่ต้องแลกไป คือความศรัทธาที่แฟนบอลมีให้กับคุณ
7
นี่คือสิ่งที่ผมเริ่มผิดหวังในตัวมาโน่ แต่ก็เอาวะ ยังไงก็ต้องให้กำลังใจกันต่อไป โค้ชทีมชาติเรานี่
1
ในที่สุดเกมสำคัญกับจีนมาถึง ในบอลโลกนัดแรก มาโน่ตัดสินใจเดินหน้าทำตามแท็กติกของตัวเอง โดยไม่สนใจกระแสสังคมใดๆ ทั้งสิ้น
2
ผมไม่รู้ว่า การซัพพอร์ทอันแรงกล้าจากคุณนวลพรรณ และ นักเตะทีมชาติบางคนหรือเปล่า ที่ทำให้มาโน่ คิดว่าเขาสามารถทำอะไรก็ได้ จะขัดหูขัดตาแค่ไหนก็ได้
2
ตัวอย่างเช่น ตอนจบคิงส์คัพ ที่มีข่าวว่าจะเปลี่ยนมาโน่ เป็นอิชิอิ ธีราทรโพสต์สเตตัสว่า "ทุกคนซัพพอร์ตคุณ Mano Pölking จงเชื่อมั่นในตัวเองและแนวทางของคุณต่อไป ยังมีรายการคัดบอลโลกและเอเชียนคัพรอพวกเราอยู่"
คือจำไม่ได้จริงๆ ว่าเคยมีกัปตันทีมชาติคนไหน ออกมา Take Side ว่ายืนอยู่ฝั่งเฮดโค้ชคนไหนแบบที่ธีราทรมีให้มาโน่แบบนี้
2
การที่มั่นใจว่ายังไงก็ถูกซัพพอร์ทจากคุณนวลพรรณ และ นักเตะซีเนียร์ของทีมชาติ ทำให้มาโน่มีความมั่นใจ เขาจัดทัพแบบที่ใจคิด เอากฤษฎา กาแมน เล่นเซ็นเตอร์แบ็ก ซึ่งเป็นแผนที่ตัวมาโน่โปรดปรานอยากให้กฤษฎาลงเล่นมาตลอด ทั้งๆ ที่กับสโมสรกฤษฎา เล่นเป็นกองกลาง
2
เรื่องตลกคืออะไรรู้ไหมครับ ในเกมคิงส์คัพ นัดแรก (7 กันยายน) ไทยเจอเลบานอน มาโน่เอากฤษฎาเล่นเซ็นเตอร์แบ็ก สรุปโดนด่าเละ
2
จากนั้นเกมต่อมา (10 กันยายน) ไทยเจออิรัก คราวนี้จับเอากฤษฎามาเล่นกองกลาง ได้รับคำชมอย่างล้นหลามจากแฟนบอล กฤษฎาเหมาะกับกองกลางจริงๆ
5
เกมต่อมา (12 ตุลาคม) ไทยเจอจอร์เจีย กฤษฎากลับไปเล่นเซ็นเตอร์แบ็กอีก ผลลัพธ์คือ 8-0 คนด่าเพียบ
แล้วนัดต่อมาอีก (17 ตุลาคม) ไทยเจอเอสโตเนีย กฤษฎากลับไปกองกลาง คราวนี้ได้รับคำชมอีกครั้งว่าเล่นได้ดี
สรุปคือ 4 นัดของกฤษฎาในช่วงอุ่นเครื่อง เล่นกองหลังโดนด่า > เล่นกองกลางโดนชม > เล่นกองหลังโดนด่า > เล่นกองกลางโดนชม
1
คือแค่นี้ คุณก็ต้องคิดได้ด้วยคอมม่อนเซนส์แล้วไหม ว่ากฤษฎาเหมาะจะเล่นอะไรมากกว่ากัน แต่เกมเจอจีน เขาก็ยังคิดจะลองของต่อไป เอากฤษฎามายืนเซ็นเตอร์แบ็ก ด้วยความมั่นอกมั่นใจในตัวเอง ใครเตือนอะไรก็ไม่ฟัง สิ่งที่เกิดขึ้นเราก็เห็นไปแล้วว่าเกมเจอจีน จบอย่างไร
2
ถ้าคุณเป็นเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ที่ได้ทุกแชมป์มาแล้วบนโลก คุณอาจจะมีอีโก้ได้
แต่ถ้าคุณเป็นมาโน่ โพลกิ้ง ที่ไม่เคยได้แชมป์ระดับสโมสรเลย ผมไม่แน่ใจนักว่าคุณจะมีอีโก้แบบยืนกระต่ายขาเดียวได้ขนาดนั้น
1
เช่นเดียวกับ เคสของมานูเอล ทอม เบียร์ ที่ได้ลงเป็นสำรองในเกมกับจีน และโดนจีนล่อเป้าอย่างสนุกสนาน คำถามคือเลือกทอม เบียร์ลงเล่นได้ยังไง
4
มาโน่ไม่สนใจเลย ว่าใครที่กำลังฟอร์มดีในลีก เฉลิมศักดิ์ อักขี? เอเลียส ดอเลาะ? หรือ แม้แต่สุพรรณ ทองสงค์ ทุกคนที่อยู่ในลิสต์รายชื่อ เล่นดีกว่าทอม เบียร์แน่ๆ
แต่มาโน่ก็เลือกทอม เบียร์ลงเล่นกับจีนจากความคุ้นเคย เขาไม่แคร์ว่าคนอื่นจะคิดยังไง ก็จะทำทีมแบบนี้ จะเลือกคนนี้ลงสนามอะ ก็เป็นกองหลังคู่ใจเสียอย่าง คนอื่นฟอร์มดียังไง ไว้ทีหลัง
1
ในฤดูกาลนี้กับแบงค็อก ยูไนเต็ด ทอม เบียร์ ได้ลงตัวจริง "2 นัด" จากเกมทั้งหมด 15 นัด คำถามคือ มาโน่ไปเห็นอะไรในตัวทอม เบียร์ จะบอกว่าฟอร์มการเล่นหรือ? ก็ไม่นะ ทอม เบียร์เพิ่งได้ลงตัวจริง 2 นัดเอง
หรือจะบอกว่าทอม เบียร์ ส่วนสูงดีโหม่งได้ ก็ไม่ใช่อีก เพราะเอเลียส สูง 196 ส่วนทอม เบียร์สูง 184 ห่างกันตั้ง 12 ซม. จะป้องกันเกมโยนบอมบ์เอาเอเลียสมาไม่ดีกว่าหรือ
ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะมีเหตุผลอะไร นอกจาก "สิเน่หา" เป็น German Connection ระหว่างกันแค่นั้นเลย เชื่อใจกันว่าจะเล่นดี ก็เลยส่งลงไปก่อน
ถ้าในอดีตคุณเคยด่าซิโก้ว่าใช้ระบบลูกรัก แล้วในเคสนี้ที่มาโน่ทำมันจะต่างอะไรกัน?
2
เช่นเดียวกับเรื่องของ เอกนิษฐ์ ปัญญา สตาร์จากอุราวะ เรด ไดมอนด์ ถ้าคุณเป็นตัวจริงของทีมอันดับ 3 ในเจลีกได้ คุณว่าเขาคู่ควรจะได้ลงสนามนาทีที่ "75" หรือไม่ แต่มาโน่ก็ไม่ได้สนใจเสียงสังคมที่เชียร์เอกนิษฐ์ เขาส่งมาท้ายๆ เกมแค่นั้นพอ
ผมเข้าใจได้ ถ้าคุณจะจับเอกนิษฐ์เป็นสำรองแล้วใช้บดินทร์ก่อน แต่ไม่ใช่ส่งเอกนิษฐ์มาท้ายเกมขนาดนี้ ไม่คิดหรือว่าเวลาน้อยเกินไปที่เขาจะสร้างสรรค์อะไรได้
1
อยากบอกว่า ผมทำตามที่ตัวเองพูดแล้ว นั่นคือ ให้โอกาสมาโน่แล้วในเกมเจอจีน และวันนี้เขาพิสูจน์ตัวเองว่า "ดีไม่พอ" กับเลเวลระดับเอเชีย
1
จีนเก่งแน่ แต่ไม่ได้เก่งขนาดที่เราจะแพ้เขาคาบ้านแบบน่าอดสูขนาดนี้
ผมเขียนวิเคราะห์เอาไว้ก่อนเกมเจอจีนว่า "ผมคิดว่าถ้าหากไทยคว้าโอกาสนี้ไม่ได้ ไม่สามารถเอาชนะได้ในเกมแรกของทัวร์นาเมนต์ ก็ต้องทำใจถ้าบอลในประเทศจะซบเซาต่อไป และไม่ต้องหวังไปฟุตบอลโลกกันแล้ว"
 
"พร้อมกว่าขนาดนี้ เล่นในบ้านขนาดนี้ เก็บตัวเป็นสัปดาห์แบบนี้ โค้ชคู่แข่งไม่เคยชนะเกมเยือนแบบนี้ ถ้าจะมีเหตุผลเดียวที่แพ้ คือโค้ชเรามาโน่ ตัดสินใจผิดพลาดในสนาม แค่นั้นเลย"
และมันก็เป็นแบบนั้นจริงๆ มาโน่ตัดสินใจผิดพลาด จนนำมาสู่หายนะ
พื้นฐานเบสิคง่ายๆ อย่าง Put the right man on the right job เขายังทำไม่ได้เลย ดังนั้นไม่มีชอยส์อื่น มาโน่ต้อง out ทันที หรือถ้าไล่ตอนนี้หาคนไม่ทัน ก็รอหลังจบเกมสิงคโปร์ก็ได้
2
แต่ผมแนะนำว่า ไล่ตอนนี้เถอะ ตอนเอเชียนคัพครั้งที่แล้ว พอราเยวัชแพ้อินเดีย 4-1 เราไล่ออกทันที แล้วแต่งตั้งศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย คุมทีมชั่วคราว สุดท้ายเกมต่อมาชนะบาห์เรน 1-0 เข้ารอบน็อกเอาต์ได้สำเร็จ
ดังนั้นไม่ต้องคิดมาก ไล่ไปเลย หาคนคุมเฉพาะกิจไปก่อน ยกเว้นเหตุผลเดียวที่จะทำแบบนั้นไม่ได้ คือ ไม่มีงบเหลือ สำหรับเงินค่าชดเชยสัญญา แต่มาโน่ เหลือสัญญาอีกไม่กี่เดือน ค่าฉีกสัญญาจะแพงแค่ไหนกันนะ
2
----------------------
1
[ แล้วทีมชาติไทย จะยังไงต่อ ]
เรื่องตลกอีกอย่างหนึ่งของผม คือในเกมกับสิงคโปร์ วันอังคารที่ 21 พฤศจิกายนนี้ ผมซื้อตั๋วเครื่องบิน และบัตรเข้าชมในสนามไปเรียบร้อยแล้วด้วยครับ ต่อให้ผมเขียนวิจารณ์แค่ไหน ผมก็ไปนั่งเชียร์ข้างสนามเหมือนเดิม
และเกมที่ 3 ที่ไปเยือนเกาหลีใต้ ผมก็ซื้อตั๋วเครื่องบินไปแล้วเรียบร้อย เพื่อไปดูที่กรุงโซลด้วย
คือตราบใดที่ยังมีเศษเสี้ยวของความหวัง เราก็ต้องหวังต่อ และเชียร์ต่อ เกิดเป็นแฟนบอลไทยแล้วนี่ครับ มันก็ต้องเป็นไปจนตายอะนะ
4
จริงๆ ในทางทฤษฎีเราแพ้นัดแรก ไม่ได้แปลว่าจะตกรอบนะครับ
ถ้าสมมุตินัดที่ 2 เราชนะสิงคโปร์ได้ แล้วนัดที่ 3-4 ที่เจอเกาหลีใต้ เก็บได้สัก 1 คะแนน จากนั้นนัดที่ 5-6 ที่เจอสิงคโปร์ (เหย้า) และ จีน (เยือน) ถ้าเราบุกเก็บชัยชนะได้ทั้ง 2 นัด เท่านี้ก็ควรจะเพียงพอเข้ารอบครับ
หนทางยังมี แม้จะมีโอกาสไม่เยอะ แต่ก็ยังพอมี ในเงื่อนไขว่า เราได้โค้ชใหม่ที่มีคุณภาพมากๆ และใช้งานนักเตะชุดนี้เป็นครับ ทุกอย่างยังเป็นไปได้นะ
เรายังมีความหวังอยู่ แต่อย่าลืมว่า พลาดอะไรไม่ได้อีกแล้ว
สุดท้ายนี้ ขอปิดท้ายด้วยบทสัมภาษณ์ของมาซาทาดะ อิชิอิ ที่เคยให้สัมภาษณ์กับเพจคิดไซด์โค้งเอาไว้ อิชิอิโดนยิงคำถามว่า "คิดว่าไทยจะได้ไปบอลโลกเมื่อไหร่"
อิชิอิ ตอบว่า "อยู่ที่ว่าจะเริ่มอย่างจริงจังตอนไหน ตอนนี้เหมือนยังไม่เริ่ม"
3
ผมเห็นด้วยกับอิชิอิ และคิดว่า ถ้าทีมชาติไทยยังหาคำตอบไม่ได้ ว่าตัวเองจริงจังกับฟุตบอลโลกแล้วหรือยัง เราไม่มีทางก้าวไปได้ไกลกว่านี้หรอกครับ
คืออย่าว่าแต่จะเข้ารอบต่อไปเลย ถ้ายังเป็นอยู่แบบนี้ แม้แต่เกมกับสิงคโปร์วันอังคารนี้ เราก็อาจต้องผิดหวังอีกครั้ง
#takeitseriously
โฆษณา