19 พ.ย. 2023 เวลา 02:08 • ความคิดเห็น
เมื่อเราเกิดมามีกาย ที่พ่อแม่ให้มาครบอาการสามสิบสอง มีวิญญาณทั้งหกเป็นปกติเยี่ยงมนุษย์ทั่วไป เพียบพร้อมด้วยสติปัญญา ที่จะเรียนรู้ ใช้กายวาจาใจ ในการดำเนินชีวิตเป็นปกติ มีสุขภาพแข็งแรง ไปจนวันตาย ก็นับว่าโชคดีของชีวิต ที่ได้กายที่ดีได้อาศัย
หากเกิดมีเหตุ ทำให้ร่างกายพิการเกิดขึ้น การใช้ชีวิตดำเนินชีวิต ก็ไม่ปกติ ยิ่งถึงขนาดทุพลภาพ ก็ต้องลำบาก พึ่งตัวเองช่วยเลยตนเองยากลำบาก ส่วนผู้ที่เกิดมาไม่ปกติ ร่างกายไม่ครบอาการสามสิบสอง .ขาดทั้งสติปัญญาในการเรียนรู้ ชีวิตของเค้าก็ต้อง อาศัยผู้อื่น เมตตาช่วยเหลือเกื้อกูล ประคับประคองชีวิตของเค้า .เค้าเกืดมามีกรรม มาตั้งแต่เกิด..
คนเราเกิดมาพ่อแม่ให้กายมาครบอาการสามสิบสอง ก็ถือว่าดีที่สุดแล้ว แล้วเราก็สามารถใช้กายนี้ ไปทำในสิ่งที่เกิดเป็นคุณให้แก่จิตของตนเอง และผู้อื่นได้ ..สร้างบุญกุศลประพฤติปฏิบัติธรรมได้ ..เรียนรู้จักเรียกอารมณ์ได้ ฝึกให้มีสติสัมปชัญญะได้ ..ขาดสติสัมปชัญญะ รู้จักดีชั่วไม่ได้ที่อารมณ์นำพาไป เราก็เสียที่
เมื่อ..สติของจิตไม่เคยมี ไม่เคยจับอารมณ์ ที่เราใช้มาใคร่ครวญ หงายอารมณ์ขึ้นมาดูว่าว่า เราอยู่กับอารมณ์ ..อารมณ์มันเป็นอย่างไรเดี๋ยวพอใจ เดี๋ยวไม่พอใจ เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย .หงุดหงิด หน้าบึ้งตึง ..เป็นนางมารร้ายอันธพาล ชีวิตมันก็จมอยู่กับอารมณ์ที่เกิดขึ้นในเรือนกาย
กายเรานั้นมันเหมือนแก้วน้ำให้จิตอาศัย เราเอาอะไร ดีไม่ดีใส่ลงไปในกาย กายเริ่มต้นมาพ่อแม่ให้มาดีๆ พอเราเอาสิ่งที่ไม่ดี กินอาหารเป็นพิษ อารมณ์ที่เป็นพิษ กายก็ต้องอึดอัด จนวันหนึ่งกายที่ดี ก็เสียหาย ถึงขนาดกายแตกสลาย เหมือนแก้วแตกก็ต้องสูญเสียกาย หมดกายให้อาศัย ต้องไปเสาะแสวงหากายใหม่ ..ไปที่ชอบๆ .ชอบเกิดๆตายๆ เหมือนอารมณ์นี้นอารมณ์นี้นั้นมันเกิด เกิดแล้วดับ ต่อเนื่องกันไป ..ไปเกิดที่ไหนไม่รู้เลย ดับอารมณ์ที่ทำให้เกิดไม่ได้ .ก็ต้องเกิด..เกิดๆดับๆ เกิดตายเป็นอสงไขย..ชั่วกาลนาน
1
โฆษณา