19 พ.ย. 2023 เวลา 06:16 • หุ้น & เศรษฐกิจ

อัพเดทตลาดสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ

S&P500 ปิดที่ 4,514.03 +2.24%
NASDAQ ปิดที่ 14,125.48 +2.37%
STOXX600 ปิดที่ 455.81 +2.82%
NIKKEI ปิดที่ 33,509 +1.89%
KOSPI ปิดที่ 2,469.86 +2.50%
Hang Seng ปิดที่ 17,454.20 +1.46%
CSI300 ปิดที่ 3,568.07 -0.51%
SET ปิดที่ 1,415.78 +1.89%
VN30 ปิดที่ 1,103.53 -0.50%
SENSEX ปิดที่ 65,794.73 +1.37%
น้ำมัน WTI ปิดที่ 76.05 -1.63%
ทองคำ ปิดที่ 1,980.65 +2.19%
US Dollar Index ปิดที่ 103.84
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 2ปี 4.890%
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10ปี 4.439%
ค่าเงินบาท /USD 35.17
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นได้ดี ปัจจัยหลักมาจากการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาต่ำกว่าคาด โดยอัตราเงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐเดือนตุลาคม 2023 อยู่ที่ 3.2% ส่วนอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 4.0% ทั้งสองตัวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3% และ 4.1% ตามลำดับ เป็นสัญญาณที่นักลงทุนในตลาดทุนอยากเห็น และเป็นข่าวดีสำหรับเฟดที่กำลังมุ่งมั่นจัดการดึงเงินเฟ้อลงสู่เป้าหมาย 2% โดยนักลงทุนมองว่าอาจเป็นสัญญาณสิ้นสุดวงจรการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมเดือนธ.ค.2566, ม.ค.2567 และมี.ค.2567 ก่อนที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมเดือนพ.ค.2567
US Dollar Index อ่อนค่าจากระดับ 105 มาแถว 103 เช่นเดียวกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10ปี ลดลงจากระดับ 4.6% มาที่ 4.439% ผลักดันดัชนีตลาดต่างๆปรับตัวขึ้นแรง ระดับ 1-2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยกเว้นฝั่งจีนที่ยังกังวลด้านการเติบโตทางเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับน้ำมันที่ยังมีความกังวลด้านอุปสงค์ ดัชนีเวียดนามนั้นปรับตัวขึ้นได้ดีระหว่างสัปดาห์ก่อนมาพักลงในวันศุกร์
ส่วนตลาดหุ้นไทยฟื้นตัวตามตลาดต่างประเทศในวันพุธจนขึ้นมายืนเหนือระดับ 1,400 จุดได้อีกครั้ง ท่ามกลางประเด็นความสงสัยต่อการใช้โปรแกรมเทรดและการชอร์ตเซลล์ในตลาด
ส่วนประเด็นกองทุน Thailand ESG Fund หรือ TESG ปัจจุบันยังไม่ได้การเสนอขายกองทุน TESG อย่างเป็นทางการ ซึ่งล่าสุดอยู่ระหว่างการขออนุมัติจัดตั้งกองทุน คาดว่ากระทรวงการคลังจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2566 เพื่ออนุมัติออกกฎกระทรวงในการจัดตั้งกองทุน TESG และขอความร่วมมือจาก ก.ล.ต. ในการออกหลักเกณฑ์ต่อไป
โดยหลักเกณฑ์เบื้องต้นจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในหุ้นไทยกลุ่ม ESG ซื้อเพื่อลดหย่อนภาษีได้ 30% ของเงินได้แต่ไม่เกิน 100,000 บาทและต้องถือลงทุน 8 ปีนับจากวันที่ซื้อ จะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งประเภทกองทุนลดหย่อนภาษีนอกเหนือจาก RMF และ SSF
เครดิตภาพปก https://thestandard.co/get-to-know-tesg/
โฆษณา