เมื่อฉันเป็นซึมเศร้า…ระดับกลาง(2)
สวัสดีซึมเศร้า ep.2
เราเปลี่ยนคนอื่นไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนความคิดและการกระทำตัวเองได้
คุณหมอท่านหนึ่ง
เราไม่เคยรู้เลยว่าอิทธิพลทางความคิดของคนอื่นมันจะมีผลต่อตัวเอง จนกระทั่งเราได้ยินเสียงความคิดคนอื่นในหัวตลอดเวลา และเราไม่รู้เลยว่าอะไรคือสิ่งที่เราต้องการจริงๆ เราไม่รู้เลยว่าตัวเองคือใคร ไม่รู้เลยว่าการที่เราฟังความคิดตัวเองนั้น มันจะดีเหรอ สุดท้ายกลายเป็นเราเดินไปไหนไม่ได้
เรามีโอกาสได้ทำงานในสถานที่ดีๆหลายครั้ง แต่สุดท้ายเราก็ไปไม่รอดสักที่ ได้แต่คิดว่าทำไมนะ ถ้าเป็นคนอื่นเขาจะทำไม่ได้เหมือนเราไหมนะ หรือมีแค่เราที่ไม่รู้จักอดทน มีแค่เราที่ทำไม่ได้หรือเปล่านะ
ดูอย่างคนนู่นสิ เขาก็ทำงานได้นี่นา ดูคนนี้สิเขาก็ทนได้ ปัญหามันต้องเป็นที่ตัวฉันเองแน่ๆ มีแค่ฉันที่ไม่ได้เรื่องเลย…
ฉันเคยคิดว่าการที่ฉันไปหาหมอเพื่อปรึกษาเรื่องนี้ มันอะไรที่ไม่เวิร์คหรอก มันคงเป็นที่ฉันเองนี่แหละ ฉันต้องคิดได้สิ คนอื่นยังทำได้เลย แต่ตอนนั้นฉันลืมไปว่าคนอื่นก็คือคนอื่น ฉันก็คือฉันเราไม่เหมือนกัน สภาพแวดล้อมที่เราเติบโตกันมาต่างกันโดยสิ้นเชิง ทำไมเรายังชอบเทียบตัวเองกับคนอื่นนะ
จนเมื่อหกเดือนก่อนฉันเริ่มลองไปหาหมอ คุณหมอได้ทำการประเมินเบื้องต้นถึงสุขภาพจิต พร้อมให้คำปรึกษานิดหน่อย(ไม่ใช่นักจิตแพทย์ จะเข้าพบนักจิตแพทย์ได้คิวประมาณปีหน้า)คุณหมอได้สอบถามปัญหาที่ตัวเราติดตอนนี้ว่าคืออะไรเป็นเพราะอะไรถึงยังติดอยู่ตรงนั้น…
เราจึงบอกหมอไปทุกปัญหาที่เรามีและปัญหาที่ใหญ่ที่สุดสำหรับตัวฉันคือ คำพูดของคนอื่นมีอิทธิพลกับการใช้ชีวิตมากเกินไป เราไม่สามารถกำจัดความคิดนั้นออกได้ อย่างเช่นถ้าเราพยายามให้มากกว่าคนอื่นเราก็จะทำได้ มันดูเหมือนเป็นความคิดที่ดีปกติทั่วไป แต่ในจิตใต้สำนึกของฉันมันทำให้คำๆนี้เข้ามาควบคุมทุกอย่างในชีวิตฉันเกินไป เหมือนกับว่าฉันจะหยุดพยายามไม่ได้ ฉันจะพลาดไม่ได้ เพราะถ้าพลาดก็จะถูกมองว่าไม่พยายาม ฉันจะทำให้เขาภูมิใจไม่ได้
และอย่างเช่นเวลาที่ฉันเล่าเรื่องที่ฉันเจอมาให้ฟัง ฉันรู้สึกว่านอกจากที่เขาจะไม่เข้าใจฉัน ไม่อยู่ข้างฉัน เขายังคงไม่เชื่อใจฉัน เมื่อเขาไม่เชื่อใจฉันๆยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองทำผิดพลาดไปสินะ ฉันมักจะรู้สึกแย่บ่อยครั้งที่คุยกับเขา…
คุณหมอถามว่าคนๆนั้นทำไมถึงมีอิทธิพลต่อความคิดเราขนาดนั้นละ เราจึงบอกไปเพราะเขาคือ "แม่" คำพูดการสื่อสารของแม่ เราเข้าใจความหมายได้ว่าเขาเป็นห่วง เขาคงอยากให้เราโตขึ้น เขาคงอยากเห็นเราได้ดี ไม่มีพ่อแม่คนไหนไม่เป็นห่วงลูก มันแค่เพราะสภาพจิตใจเราเอง และสมองเราที่จัดการความคิดความรู้สึกไม่ได้เอง
คุณหมอท่านกล่าว "เข้าใจแล้ว คำพูดการสื่อสารของคนเราสื่อสารออกมาได้หลายรูปแบบ คุณแม่ท่านคงเป็นคนตรงไปตรงมา คิดอะไรก็พูดออกมา อาจไม่ได้มีศิลปะในการพูด แต่ไม่มีแม่คนไหนคิดทำร้ายลูกหรอก เพราะฉะนั้นเราเปลี่ยนใครไม่ได้เปลี่ยนแม่ไม่ได้ แต่เราเปลี่ยนความคิดการกระทำตัวเองได้ ถ้าเรารู้ว่าคุยเรื่องไหนกับแม่แล้วมักจะไม่สบายใจ ให้เลี่ยงการคุยเรื่องนั้น…"
เชื่อไหมว่าตอนนั้น ฉันไม่รู้ว่ามีวิธีแบบนี้อยู่ด้วย ฉันไม่เคยคิดว่าฉันจะทำแบบนั้นได้เลยจริงๆ
ฉันแค่รู้สึกว่าถ้าฉันเล่าให้เขาฟัง เขาอาจฟังฉันแค่นั้นเลย ตลกไหมละที่วิธีแก้ปัญหาง่ายๆ แต่ฉันกลับไม่รู้มาก่อนเลย และหลังจากนั้นฉันก็เริ่มทำตามแนะนำคุณหมอ และทานยากลุ่มยาต้านซึมเศร้ามาตั้งแต่นั้น
To be continued…
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
