21 พ.ย. 2023 เวลา 03:49 • บ้าน & สวน
กรุงเทพมหานคร

แชร์วิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ ไม่ง้อดิน ลงทุนน้อย ฉบับคนพื้นที่เล็กๆ

ไขข้อสงสัย ผักไฮโดรโปนิกส์ คืออะไร มีกี่ชนิด และมีวิธีการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์อย่างไร ตามไปดูกันเลย
ผักไฮโดรโปนิกส์ คืออะไร
ผักไฮโดรโปรนิกส์ (Hydroponics) คือ การปลูกผักแบบไม่ต้องใช้ดิน แต่จะปลูกด้วยน้ำที่ผสมกับสารละลายที่มีธาตุอาหารพืช เมื่อรากสัมผัสกับสารปลูกตัวนี้ก็จะสามารถดูดสารอาหารไปใช้ได้โดยตรง
ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้กับการปลูกผักสลัดและผักสวนครัว เหมาะสำหรับบ้านที่พื้นที่น้อย
1
ประเภทการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์มี 3 แบบ ได้แก่
1. ระบบ NFT (Nutrient Film Technique) : เป็นการปลูกผักโดยให้รากสัมผัสกับสารอาหาร โดยสารอาหารดังกล่าวจะมีลักษณะเป็นแผ่นฟิล์มบาง ๆ หนา 1-3 มิลลิเมตร เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับรากพืชโดยตรง และจะมีการไหลหมุนเวียนกลับมาใช้อีกครั้ง ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมมากในประเทศไทย
2. ระบบ DRFT (Dynamic Root Floating Technique) : หรือการปลูกผักแบบลอยน้ำ เป็นการปลูกผักโดยให้รากสัมผัสกับสารอาหารในน้ำที่มีความลึกประมาณ 3-5 เซนติเมตร โดยจะปลูกในราง ภาชนะ หรือถาดปลูก และมีการเติมออกซิเจนด้วยการใช้ปั๊มลม เหมาะกับพื้นที่เล็ก ประหยัดค่าใช้จ่าย สามารถปลูกเป็นงานอดิเรกได้
3. ระบบ DFT (Deep Flow Technique) : เป็นการปลูกผักโดยให้รากสัมผัสกับสารอาหารในน้ำลึก 5-10 เซนติเมตร โดยน้ำจะไหลผ่านรากพืชอย่างช้า ๆ แต่สม่ำเสมอ
วิธีปลูกผักไฮโดรโปนิกส์
  • เตรียมภาชนะปลูก : ขั้นตอนการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เริ่มจากการเลือกภาชนะที่ใช้ในการปลูก สามารถเลือกซื้อเป็นชุดสำเร็จรูปสำหรับครัวเรือนที่มีขายอยู่ทั่วไปก็ได้
  • เตรียมเครื่องมือตรวจวัด : สำหรับตรวจวัดค่าความเป็นกรด-ด่างของสารละลายธาตุอาหารพืช (pH meter) และเครื่องมือตรวจวัดค่าการนำไฟฟ้าของสารละลายธาตุอาหารพืช (EC meter) เพื่อให้สารละลายมีค่า pH และค่า EC ที่เหมาะสม
  • การเพาะเมล็ด : โดยเพาะเมล็ดในถ้วยเพาะสำเร็จรูปที่มีรูให้น้ำซึมผ่านได้อยู่ด้านล่าง จากนั้นใส่น้ำให้สูงประมาณ 2 เซนติเมตร แล้วนำถาดเพาะไปวางไว้ในกระบะหรือถาดที่ใส่น้ำเปล่า พร้อมกับวางไว้ในที่ที่มีแสงแดดรำไรและมีการระบายอากาศดี เมื่อผ่านไปประมาณ 3-4 วัน เมล็ดผักก็จะงอก หลังจากนั้นเพิ่มสารละลายธาตุอาหารให้กับพืชในความเข้มข้นต่ำ (ประมาณ 0.5 ms/cm) พอรากเริ่มยาวค่อยย้ายลงสู่รางปลูก
  • เตรียมสารละลายธาตุอาหาร : สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายอุปกรณ์สำหรับการปลูกพืชไฮโดรโปรนิกส์ ในการใช้งานต้องทำการปรับค่า EC และ pH (ค่าความเป็นกรด-ด่าง) ให้เหมาะสมกับพืชที่ปลูกด้วย ซึ่งโดยปกติค่า pH ที่เหมาะสมจะอยู่ที่ 5.8-6.5 ส่วนค่า EC อยู่ที่ 1.8-2.0 ms/cm และจะมีอายุการเก็บเกี่ยวอยู่ที่ประมาณ 45 วัน
ประโยชน์ของระบบไฮโดรโปนิกส์
  • 1.
    เนื่องจากไม่ได้ปลูกในดินจึงปลอดภัยจากสารพิษ ไม่มีสิ่งปนเปื้อน ไม่มีโรคที่เกิดในดิน ไม่มีวัชพืชมารบกวน อีกทั้งผักมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและสดกรอบกว่าผักที่ปลูกในดิน
  • 2.
    สามารถปลูกได้ทุกที่ ปลูกได้ในพื้นที่น้อย สามารถปลูกเพื่อบริโภคในครัวเรือนหรือปลูกจำหน่ายได้ด้วย
  • 3.
    สามารถควบคุมสิ่งแวดล้อมได้ง่ายกว่าปลูกในดิน สามารถควบคุมการให้น้ำได้ตามความต้องการของพืช จึงสามารถผลิตผักได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี
  • 4.
    พืชผักเจริญเติบโตและให้ผลผลิตได้เร็วกว่าการปลูกพืชผักในดินอย่างน้อยประมาณ 1-2 สัปดาห์
จะว่าไปการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ก็น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากสามารถปลูกบนคอนโดหรือหอพักก็ได้ มีผักให้ปลูกหลากหลายทั้งผักสลัดและผักสวนครัว ถ้าปลูกเองได้กินผักสด สะอาด ไร้สารเคมี และได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย
โฆษณา