หุ้นไทยแกว่งไซด์เวย์ !
โบรกคาดหุ้นไทยวันนี้แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,415-1,430 จุด กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity ตามการปรับตัวลดงของราคาสินค้าพลังงาน คัด 6 หุ้นเด่น
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) คาด SET Index วันนี้เคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ในกรอบ 1,415-1,430 จุด กลยุทธ์แนะนำเก็งกำไรหุ้นในกลุ่ม Anti-commodity เช่น ปิโตรเคมี โรงไฟฟ้า SPP และวัสดุก่อสร้างตามการปรับตัวลดงของราคาสินค้าพลังงาน
หุ้นเด่นตัวแรกคือ SAWAD ราคาเป้าหมาย 47 บาท โดยประเมินว่าหุ้นกลุ่ม Finance มีโอกาสฟื้นตัว เนื่องจาก 1.Bond Yield 10 ปีของไทย อ่อนตัวลงจาก 3.4% เหลือ 3.0% 2.คาดมาตรการแก้หนี้ของรัฐบาลในวันที่ 28 พ.ย. น่าจะเน้นที่การคุมหนี้นอกระบบ จึงคาดว่าจะเป็นบวกทั้ง Loan Growth ที่เพิ่มขึ้น และ Asset Quality ที่ดีขึ้น
แนวโน้มกำไร 4Q66 คาดเติบโต YoY และ QoQ จากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานที่ลดลง หลังผ่านพ้นช่วงเร่งเปิดสาขาใหม่แล้ว เราคาดกำไรปี 2567 เติบโต +22% YoY เป็น 6.7 พันลบ.
หุ้นเด่นตัวต่อมาคือ GPSC ราคาเป้าหมาย 50 บาท GDP 3Q66 ของไทยเพิ่มขึ้น +1.5% YoY และ +0.8% QoQ ต่ำกว่าคาดที่ +2.0% YoY และ +1.2% QoQ เราคาดว่าจะส่งผลให้การขึ้นอัตราดอกเบี้ยของไทยต่อจากนี้ไปมีโอกาสลดลง และเป็นบวกให้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่เป็นกลุ่ม Defensive มีโอกาสฟื้นตัว
ติดตามการพิจารณาการปรับขึ้นค่า Ft รอบใหม่ (ม.ค.2568-เม.ย.2568) เราคาดว่ามีโอกาสปรับขึ้นจากปัจจุบันที่ 20.48 สตางค์เป็น 89.55 สตางค์ (+69.07 สตางค์) จะเป็นบวกต่อหุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER2567 ไม่แพงที่ 18.5 เท่า
หุ้นเด่นอีกตัวคือ WARRIX ราคาเป้าหมาย 7 บาท คาดว่าหุ้นธุรกิจชุดกีฬาจะตอบรับเชิงบวก จากกระแสความนิยมฟุตบอลที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น หลังผลการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเซีย รอบ 2 ไทยบุกชนะสิงคโปร์ 3-1 แนวโน้มกำไร 4Q66 คาดเติบโต YoY และ QoQ เป็นไตรมาสที่ดีที่สุดรายไตรมาสของปี 2566 ขณะที่ปี 2567 ได้ประโยชน์มาตรการ e-Refund และ Digital Wallet คาดหนุนกำไรเติบโต +50% YoY เป็น 211 ลบ.
หุ้นเด่นตัวสุดท้ายคือ SCC ราคาเป้าหมาย 300 บาท ภาพทางเทคนิค แนวต้าน 300.00 บาท แนวรับ 293.00 บาท และ Stop loss หากต่ำกว่า 290.00 บาท ราคายืนไม่หลุดต่ำกว่าแนวรับของเส้น Uptrend Line ที่บริเวณ 290.00 จุด ทำให้ราคามีโอกาสปรับตัวขึ้นทำ Higher High ไปที่ 300.00 บาท
บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุว่า คาด SET แม้ชะลอตัวได้ หลังรายงานประชุมเฟดชี้ว่ายังจำเป็นในการคงดอกเบี้ยระดับสูงจนกว่าจะเห็นการชะลอตัวที่ชัดเจนของเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตาม ด้านแนวโน้มราคา ติดตามแนวรับ 1,418 และ 1,410 จฺด ตามลำดับ หากไม่ต่ำกว่า ยังเป็นสัญญาณที่ดีต่อการปรับขึ้นได้ต่อ โดยมีแนวต้านถัดไปที่ 1,430 และ 1,437 จุด ตามลำดับ
หุ้นเด่นตัวแรกคือ CPAXT (ราคาเป้าหมาย 35 บ.) ราคาหุ้นคาดจะปรับตัวดีขึ้น เนื่องจากยอดขายใน 4Q66TD เติบโตสูงกว่าบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเดียวกัน และกำไร 4Q66 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ โดยจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ อีกทั้งยังมีปัจจัยกระตุ้นราคาหุ้นในระยะสั้น จากเป็นหุ้น SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AAA” และการอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจใหม่ๆ
หุ้นเด่นอีกตัวคือ BDMS (ราคาเป้าหมาย 35 บ.) มองเป็นหุ้นใน SETESG Index ที่น่าสนใจ โดยได้ Rating “AA” ขณะที่ 4Q66 คาดกำไรปกติจะเติบโต YoY หนุนทั้งปี 2566 มีกำไรปกติเติบโต 12%YoY และยังเติบโตต่อเนื่องอีก 8%YoY ในปี 2567 จากบริการผู้ป่วยต่างชาติที่เติบโตมากขึ้น รายได้จากศูนย์ความเป็นเลิศที่เพิ่มขึ้น และการใช้ประโยชน์สินทรัพย์ได้ดีขึ้น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
