"Attack On Titan รำลึกเรื่องราวตลอดระยะเวลา 2,000 ปี"
***บทความนี้จะเรียบเรียง Time Line ที่เกิดขึ้นใน Attack On Titan อย่างละเอียด มาให้ทำความเข้าใจกันนะครับ
ซึ่งจะเน้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนตอนแรก ให้เป็นเส้นตรงอย่างละเอียด เผื่อใครดูมาทั้งหมดแล้วยังสับสนกับการเล่าเรื่องลองมาอ่านประกอบได้ครับ
จริง ๆ จะปล่อยบทความนี้สักพักแล้ว แต่สาเหตุที่ใช้เวลาเขียนนานขึ้นเพราะผมมัวแต่เลือกรูป เอ๊ย ไปดูย้อนตั้งแต่ Episode แรกเลยครับ ฮ่า ๆ
โดยผมจะแบ่งเป็น Part นะครับจะได้กลับมาอ่านกันง่าย ๆ เผื่อใครไม่สะดวกอ่านรวดเดียว
แด่เธอในอีก 2,000 ปี อุบัติการณ์แรกเริ่มของการกำเนิด Attack On Titan
เริ่มจากมีเด็กสาวชื่อ ‘ยูมีร์’ ดันไปปล่อยหมูของราชาฟริทซ์ทำให้ราชาโกรธมาก สั่งให้ทหารไล่เธอเข้าไปในป่า ยูมีร์ดันบังเอิญตกไปในต้นไม้และพบเข้ากับ ‘ชีวิต’ ทั้งสองได้รวมร่างกันเกิดเป็นไททันตัวแรก ที่เรียกว่า ‘ไททันก่อกำเนิด’ ยูมีร์ใช้พลังไททันช่วยให้ราชาฟริทซ์สร้างความเจริญให้กับเผ่าพันธ์เอลเดีย จนกลายเป็นจักรวรรดิเอลเดียในที่สุด
ยูมีร์ในฐานะพลังใหม่ของเผ่าเอลเดียได้ใช้พลังดังกล่าวรบราฆ่าฟัน เป็นหอกหลักในการทำสงครามต่อสู้กับศัตรูคู่อาฆาตอย่างมาเลย์จนเผ่าเอลเดียเจริญเติบโตจนกลายเป็น ‘จักรวรรดิเอลเดีย’ ราชาฟริทซ์ตอบแทนการมีอยู่ของยูมีร์โดยการแต่งตั้งให้เป็นทาสรับใช้ผู้ใกล้ชิด และมีลูกด้วยกัน 3 คน ได้แก่ มาเรีย โรเซ่ และซีน่า *** ชื่อของทั้งสามคนถูกตั้งเป็นชื่อกำแพงในเกาะพาราดีส์ในภายหลัง
แต่หนึ่งเหตุการณ์พลิกฝันแห่งประวัติศาสตร์คือมีทหารนายหนึ่งปาหอกเพื่อที่จะสังหารราชาฟริทซ์ แต่ทันใดนั้นยูมีร์กลับเอาตัวเข้าแลกเพื่อบังหอกให้ราชาจนตนเองต้องตายไป แม้ร่างของยูมีร์จะตาย แต่จิตวิญญาณของเธอดันไปปรากฎอยู่ในสถานที่หนึ่งซึ่งถูกเรียกว่า Path หรือสายธาร เป็นสถานที่ที่จิตของชาวเอลเดียเชื่อมต่อถึงการ และอยู่เหนือกฎเกณฑ์ของเวลา ราชาฟริทซ์ไม่อยากให้พลังไททันนี้สลายหายไป จึงนำศพของยูมีร์ให้ลูก ๆ ทั้งสามกิน เพื่อหวังให้พวกเธอทั้งสามได้สืบทอดพลังของไททัน และก็เป็นเช่นนั้นจริง
เนื่องจากพลังไททันสามารถส่งต่อได้โดยกินผู้ใช้พลังคนก่อนเข้าไป ทำให้พลังไททันในตัวของยูมีร์ถูกแบ่งออกเป็นสามส่วน ผ่านมากว่า 1,700 ปี พลังไททันที่ถูกแบ่งแยกจากตัวยูมีร์ไปยังลูก ๆ ก็ถูกสืบทอดผ่านสายเลือดของชาวเอลเดียมาเรื่อย ๆ ถูกแยกย่อยเป็นหลายตระกูล และแบ่งพลังออกเป็น 9 ไททัน โดยยังมีจิตวิญญาณของยูมีร์ที่คงอาศัยอยู่ในสายธารคอยฟูมฟักและดูแล ทำหน้าที่ทาสต่อเนื่องเสมอมา
ยุคทองของเอลเดีย
หลังจากยูมีร์ตายไป จักรวรรดิเอลเดียก็ใช้พลังไททันปกครองมาโดยตลอด และพลังไททันของเธอถูกส่งต่อไปยังลูกหลานไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งพลังไททันทั้ง 9 (ที่ถูกแบ่ง) ถูกกระจายอยู่ตามเหล่าขุนนางของเอลเดีย ระหว่างนั้นมีโรคระบาดเกิดขึ้น ราชาของจักรวรรดิเอลเดีย ณ ตอนนั้นได้ใช้พลังไททันก่อกำเนิดที่มีดเปลี่ยนแปลงชีวะโมเลกุลของผู้คนบางส่วน ทำให้พวกเขาเหล่านั้นมีภูมิคุ้มกันโรคระบาดได้ และเป็นเหตุการณ์ที่ถือกำเนิด Ackerman หรือทหารชั้นเยี่ยมที่คอยคุ้มครองสายเลือดราชา
‘ยามศึกเรารบ ยามสงบเราสู้กันเอง’
เหตุการณ์ผ่านไปเรื่อยมาจนกระทั่งผู้ถือครองไททันทั้ง 9 ของแต่ละตระกูลห้ำหั่นกันเองเพื่อแย่งชิงพลังไททัน นั่นก่อให้เกิดสงครามกลางเมืองที่มีไททันต่อสู้กัน เรียกว่า ‘มหาศึกไททัน’ และส่งผลให้สิ้นสุดจักรวรรดิเอลเดีย
จบสิ้นเอลเดีย
กษัตริย์ของเอลเดียลำดับที่ 145 ‘คาล์ล ฟริทซ์’ เบื่อหน่าย และไม่เห็นพ้องด้วยกับมรดกความรุนแรงที่บรรพบุรุษของเขาทิ้งไว้ จงสมคบคิดกับตระกูล ‘ไทเบอร์’ เพื่อให้สร้างตำนานปลอม ๆ ว่าพวกเขาสามารถขับไล่ชาวเอลเดียให้ออกไปอยู่ในเกาะได้
คาล์ล ฟริทซ์ แสดงตนเป็นผู้พ่ายแพ้ในสงคราม ใช้พลังไททันก่อกำเนิดอพยพชาวเอลเดีย (บางส่วน) ไปยังเกาะพาราดีส์ โดยหวังว่าจะเป็นการเริ่มต้นใหม่ของชาวเอลเดียอย่างสงบสุข ไม่ยุ่งกับโลกภายนอก และมิให้โลกภายนอกมายุ่ง
คาล์ล ฟริทซ์ได้ลบความทรงจำของคนบนเกาะ (แต่มีบางตระกูลได้รับการยกเว้น เช่น ตระกูลเอคเคอร์แมน) และสร้างประวัติศาสตร์ว่าพวกเขาเป็นมนุษยชาติกลุ่มสุดท้ายบนโลก และประกาศว่าหากใครมารุกรานเกาะนี้จะให้ไททันนับล้าน ๆ ตัวเหยียบทุกชีวิตนอกเกาะให้จมดิน
ภายนอกกำแพง’ สู่ ‘ภายในกำแพง
หลังจากที่คาล์ล ฟริทซ์ย้ายชาวเอลเดียบางส่วนไปยังเกาะพาราดีส์ ชาวเอลเดียที่เหลืออยู่ในฝั่งมาเล่ย์ก็ถูกปฏิบัติอย่างกับทาส หรือบุคคลชั้นสอง ซึ่ง ณ ตอนนั้นฝั่งมาเล่ย์ครอบครองพลังไททันถึง 7 จาก 9 ตัว อีกทั้งหากชาวเอลเดียที่อยู่นอกเกาะทำการกบฎ หรือท้าทายมาเล่ย์ก็จะถูกส่งไปยังเกาะ และทำให้กลายเป็นไททันไร้สติปัญญา
*** ไททันดังกล่าวก็จะเดินไปเรื่อย ๆ รุกรานชาวเอลเดียบนเกาะที่ไม่รู้เรื่องอะไร และเป็นจุดเริ่มต้นของภายในกำแพงว่าไททันมาจากไหน
‘กริช่า เยเกอร์’ (พ่อของเอเรน) ซึ่งเป็นชาวเอลเดียนอกกำแพง เข้าร่วมขบวนการกอบกู้เอลเดีย และได้แต่งงานกับ ‘ไดน่า ฟริทซ์’ สายเลือดกษัตริย์องค์สุดท้ายของนอกกำแพง มีลูกด้วยกันหนึ่งคนชื่อ ‘ซีค เยเกอร์’ ด้วยเหตุนี้ทำให้ซีคเป็นลูกหลานชาวเอลเดียที่มีสายเลือดกษัตริย์โดยตรง
แต่ซีคกลับกบฎ หักหลังพ่อของเขาและกลุ่มต่อต้าน ทำให้กริช่าถูกส่งไปที่เกาะพาราดีส์ ในขณะที่กำลังจะถูกทำให้กลายเป็นไททันนั้นก็ได้รับการช่วยเหลือจาก ‘เอเรน ครูเกอร์’ ชาวเอลเดียที่แฝงตัวไปเป็นทหารของมาเล่ย์ ครูเกอร์ส่งมอบพลังไททันจู่โจมที่ตนเองมีให้กับกริช่า พร้อมบอกว่าให้ช่วยมิคาสะ กับอาร์มินด้วย (ซึ่งตอนนั้นมิคาสะ กับอาร์มินยังไม่เกิด แต่ครูเกอร์มีพลังของไททันจู่โจมที่สามารถมองเห็นอนาคตของผู้ถือครองได้)
นั่นทำให้กริช่า เยเกอร์ ได้รับพลังไททันจู่โจม และเข้าไปในกำแพงในบทบาทของแพทย์ในเขตชิกันชิน่า มีลูกกับคาร์ล่าอีกหนึ่งคนชื่อว่า ‘เอเรน เยเกอร์’
จนในที่สุดรัฐบาลมาเล่ย์ก็ได้ก่อตั้งเหล่ากองทัพรุ่นใหม่เพื่อสืบทอดพลังไททัน เพื่อจะได้บุกยึดเกาะพาราดีส์และแย่งชิงพลังไททันทั้งหมดมาเป็นของมาเล่ย์ โดยมีซีค เยเกอร์ (ผู้สืบทอดพลังไททันสัตว์ป่า) เป็นหัวหน้าทีม โดยพลังไททันถูกแบ่งดังนี้ครับ
แอนนี่ – ไททันหญิง ไรเนอร์ - ไททันเกราะ เบลทรูท - ไททันมหึมา พีค - ไททันเกวียน มาเซล (คนพี่) - ไททันกราม จนกระทั่งมาเล่ย์ก็ได้ส่ง ไรเนอร์ , แอนนี่ , เบลทรูท และมาเซล (แต่ถูกยูมิลกินก่อนถึงกำแพง) เข้ามายังเกาะพาราดีส์เพื่อเริ่มภารกิจ
จุดเริ่มต้นของ Attack On Titan
เรื่องราวของ AOT ใน Episode แรกนั่น เริ่มต้นที่ ‘เบลทรูท’ ใช้พลังไททันขนาดมหึมาทำลายกำแพงมาเรีย ปล่อยให้ไททันเข้ามาในเขตชิกันชิน่า ไดน่า ฟริทซ์ที่กลายเป็นไททันเข้ามาและกินแม่ของเอเรนเข้าไป ส่งผลทำให้เอเรนตั้งปนิพานว่าเขาจะฆ่าไททันให้หมดโลก
ในขณะนั่น (วันเดียวกันกับที่กำแพงถูกทำลาย) กริช่า เยเกอร์ ได้ไปขอความช่วยเหลือจากตระกูล ‘ไรส์’ ซึ่งได้รับสืบทอดพลังไททันบรรพบุรุษ เพื่อยับยั้งการบุกของมาเล่ย์
*** ตระกูลไรส์ คือผู้มีสายเลือดราชาจากฟริทซ์ แต่ปิดกั้นตนเองจากคนอื่น ๆ เก็บพลังไททันบรรพบุรุษไว้เงียบ ๆ โดยมีราชาตัวปลอมรักษาการผู้นำในกำแพงไว้แทนตนเอง
แต่ตระกูลไรส์ปฏิเสธการช่วยเหลือ จึงเกิดการต่อสู้ระหว่างกริช่าในฐานะไททันจู่โจม กับไททันบรรพบุรุษ กริช่าเอาชนะมาได้ และได้พลังไททันบรรพบุรุษมาครอบครอง (ตอนนี้กริช่ามีพลังไททันจู่โจม และไททันบรรพบุรุษในตนเอง) กริช่าออกมาตามหาเอเรน (ภายหลังจากที่กำแพงถูกบุก) ในเขตกักกัน พาเอเรนเข้าไปในป่า เขามอบกุญแจห้องใต้ดินในบ้านซึ่งเคยบอกเอเรนว่าจะเปิดให้ดูไว้กับเอเรน และได้ฉีดน้ำไขสันให้เอเรนกลายเป็นไททัน (ธรรมดา) เพื่อที่จะได้กินพ่อเขาเข้าไปทั้งตัว ทำให้เอเรนมีพลังของไททันจู่โจม และไททันบรรพบุรษตั้งแต่ตอนนั้น
นั่นส่งผลให้เอเรนตื่นขึ้นมาและสงสัยว่าทำไมตนเองถึงมีกุญแจห้องใต้ดินของพ่อ
*** เรื่องราวต่อจากนี้ก็เป็นไปตามทามไลน์ปกติเลยครับ พวกเอเรน และคนในกำแพงเริ่มจะรู้จักโลกภายนอกขึ้นเรื่อย ๆ รู้ว่าแอนนี่คือไททันหญิง รู้ว่าไรเนอร์ กับเบลทรูท คือคนจากนอกกำแพงที่แฝงตัวมา จนกระทั่งพวกเอเรนทำภารกิจพิชิตเขตชิกันชิน่าได้ และเข้าไปรู้ความลับนอกกำแพงในชั้นใต้ดินของกริช่า จนกระทั่งข้ามทะเลออกไปยังมาเล่ย์ได้
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
