22 พ.ย. 2023 เวลา 13:50 • หนังสือ

Aconite with Mythic ดอกอะโคไนต์กับตำนาน ความเชื่อต่างๆ

ทุกๆคนเคยเห็นดอกไม้นี้แล้วรู้สึกคุ้นๆหรือไม่ ถ้าหากว่าไม่คุ้น แสดงว่าพวกท่านอาจจะยังไม่ใช่แฟนตัวยงของหนังเรื่อง "Harry potter"
โดยในหนังชื่อของมันก็คือ ดอกอะโคไนต์ (Aconite) ซึ่งปรากฎอยู่ในวิชาสมุนไพร และหนังสือสารานุกรมสมุนไพรวิเศษของสก็อต คันนิงแฮมก็ยังเคยพูดถึงมัน
อีกทั้งในตำนานเวทมนตร์ ดอกอะโคไนต์ยังถูกนำไปใช้เป็นครีมวิเศษเพื่อให้แม่มดบินได้อีกด้วย
นอกจากนั้น ในความเชื่อของชาวกรีกโบราณได้บอกเอาไว้ว่า ดอกอะโคไนต์นั้นเกิดจากริมฝีปากของเซอร์เบอรัส เพราะว่าปากของสุนัขบ้าก็ขึ้นเป็นฟองฟอดคล้ายๆกันกับปากของเซอร์เบอรัสนั่นเอง
และด้วยเหตุนี้จึงอาจทำให้ภาพยนตร์แดร็กคิวล่าปี 1931 พระเอกใช้ดอกอะโคไนต์ทารอบคอของนางเอกเพื่อป้องกันจากแวมไพร์ อย่างที่รู้ๆกันว่าแวมไพร์กับหมาป่าไม่ค่อยถูกกันน่ะนะ
ซึ่งก็ดูมีเหตุผลดีที่ตั้งชื่อดอกอะโคไนต์ว่า wolf's bane (เมื่อแปลออกมาจะได้ว่า หายนะของหมาป่า(ในช่วงยุคกลางมักใช้อะโคไนต์เป็นยาพิษสำหรับล่าสัตว์ หรือลูกดอกที่ใช้ในการล่าหมาป่า)
และอีกทฤษฎีที่ทางคนเขียนคิดเอาเองเล่นๆ เนื่องจาก bane แปลว่าสารพิษได้อีกด้วย ทำให้คิดไปถึงว่าการที่น้ำลายเซอร์เบอรัสเป็นพิษและดอกนี้ออกมาจากปากของมัน จึงถูกเรียกว่าสารพิษของหมาป่าก็คงจะเป็นไปได้ ?)
จากที่อ่านๆมา ดอกไม้ชนิดนี้ดูเป็นดอกไม้วิเศษสุดๆดูไม่น่าจะมีจริง แต่ดอกไม้ชนิดนี้มีอยู่จริงๆบนโลกนี้ ! และมีชื่อเดียวกับที่ปรากฎในหนังและตำนานต่างๆ
แถมความพิเศษของมันนั้นก็ยังคงมีอยู่ ถึงแม้จะไม่ใช่เวทย์มนต์แต่ก็มีความรุนแรงเท่าๆกัน นั่นก็คือการมีพิษ พิษของดอกอะโคไนต์ถูกเรียกว่า "อะโคนิทีน"
ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นราชินีแห่งพิษอีกด้วย (สำหรับราชาแห่งพิษคือสารหนู) แค่เพียงไปดม สัมผัส หรือกินก็อาจมีอันตรายถึงชีวิตได้เลย
ดูๆแล้วดอกอะโคไนต์นั้นท่าทางจะอันตรายเป็นอย่างมากทีเดียวถ้าไปเจอะเข้าจะทำอย่างไร ?
คำตอบนั้นง่ายๆเลยคือ ในสมัยก่อนคุณอาจจะพบเจอได้ทั่วๆไป แต่ในสมัยนี้ ดอกอะโคไนต์จะขึ้นแค่เพียงภายในป่าซึ่งก็ไม่ใช่จะพบเจอได้ง่ายๆ
แต่ก็มีบางสถานที่ที่ปลูกเอาไว้ เช่นทางตอนเหนือของอังกฤษ เป็นสวนต้นไม้มีพิษซึ่งมีชื่อว่า Alnwick Garden
โฆษณา