26 พ.ย. 2023 เวลา 06:16 • ท่องเที่ยว
จังหวัดฮกไกโด

เที่ยวฮอกไกโดแบบคนขี้เกียจ

Chapter 67/1: A Relaxing Hokkaido Trip
ชื่อ Blog นี้ฟังแล้วไม่น่าจะทำตามเลยเนอะ 5555 ความจริงมันเป็นกตัญญูทริปที่ครอบครัวเราพาสาวน้อยวัย 80 สองคนไปเที่ยวฮอกไกโดช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ก็เลยต้องจัดให้คุณเธอไม่บ่นเหนื่อยกัน เลยออกมาเป็นทริปขี้เกียจทริปนี้นี่เอง
6
ผู้รับอาสาแพลนทุกอย่างคือน้องชายผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นพอตัวกับพี่สาวผู้เป็นนักวางแผนชั้นเลิศ และเราก็จ้างไกด์คนไทยที่ญี่ปุ่นเพิ่ม 1 คนไว้คอยช่วยสื่อสารและติดต่อจองร้านอาหารต่างๆ ให้ ส่วนรถก็เช่ารสบัส 1 คันพร้อมคนขับ
ที่เราเลือกไปฮอกไกโดเพราะอากาศช่วงเดือนตุลากำลังดีเลย ยังไม่หนาวมาก ปลอดฝน คนไม่เยอะ และที่สำคัญเป็นช่วงใบไม้กำลังเปลี่ยนสีด้วย เราเคยมาฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนเดือนกรกฎา กะหน้าหนาวคือเดือนธันวามาแล้ว ขอมาดูใบไม้เปลี่ยนสีบ้าง น่าจะสวยไม่แพ้ช่วงอื่นๆ เลย
1
ส่วนผู้ร่วมทริปนี้มีทั้งหมด 12 คน ล้วนแล้วแต่เป็นสมาชิกสมาคมผู้สูงอายุทั้งนั้น 🤣 มีหลานสาวอายุ 15 หลงมา 1 หน่อ ทริปนี้สั้นๆ 5 วันพอ ป่ะ…พร้อมแล้วไปกันเลย
ถึง Sapporo แล้ว
สำหรับการเข้าประเทศญี่ปุ่น ก็ยังต้องกรอกฟอร์ม ต.ม. และศุลกากรเหมือนเดิมนะ แต่เปลี่ยนเป็นมาทำใน website แทนเพื่อความสะดวกและรวดเร็ว
ป.ล. สามารถเข้าไปทำใน Visit Japan Website ตามลิงค์นี้ได้เลยค่ะ https://www.vjw.digital.go.jp/main/#/vjwplo001
1
อย่าลืมกรอกข้อมูลทั้ง Immigration และ Customs นะ พอทำเสร็จจะได้เป็น QR Code ก็ให้เซฟเก็บไว้ พอไปถึงญี่ปุ่นก็เอาให้ จนท. ดูตอนผ่าน ต.ม. แค่นี้เอง…เสร็จ
ส่วนหน้ากาก ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นให้อิสระแล้วว่าจะใส่หรือไม่ใส่หน้ากากก็ได้แล้วแต่ความสมัครใจ
ออกมารับกระเป๋าเรียบร้อยก็เตรียมตัวขึ้นรถมุ่งหน้าไปที่แรกเลย Noboribetsu Date Jidaimura หรือหมู่บ้านนินจาค่ะ
รอขึ้นรถ
Noboribetsu Date Jidaimura เป็นหมู่บ้านจำลองที่จะพาเราย้อนกลับไปญี่ปุ่นเมื่อ 400 ปีก่อนในยุคเอโดะ
Noboribetsu Date Jidaimura
สิ่งก่อสร้างด้านในจะเป็นอาคารทรงญี่ปุ่นโบราณทั้งหมดเลย
ทางเดินด้านในกับบรรยากาศญี่ปุ่นในสมัยเอโดะ
เราจะได้เห็นชีวิตความเป็นอยู่ของคนในสมัยนั้นผ่านบ้านจำลองต่างๆ
Noboribetsu Date Jidaimura
มีร้านขายของที่ระลึก และร้านขายขนมน่ารักๆ เต็มไปหมดเลย
ร้านขายขนมและของที่ระลึก
นอกจากนั้นยังมีกิจกรรมสนุกๆ ให้นักท่องเที่ยวได้เล่นกันอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเกมส์หรือฝึกงานฝีมือ
อันนี้เป็นร้านสอนทำลูกข่างกะตุ๊กตาไม้นินจา
ห้องลานประลอง (Taiken-Dojo) ที่ให้เข้าไปฝึกสกิลการเป็นนินจา มีทั้งขว้างดาวกระจาย ยิงธนู ถ้าเข้าเป้าเค้ามีรางวัลให้ด้วยน้า
1
ห้องลานประลองนี่หนุกสุดเลย
มีสตูดิโอถ่ายรูป อุทซึโรอิคัง (Utsuroi-Kan) ที่เราสามารถเช่าชุดแล้วแปลงร่างเป็นเจ้าหญิง เป็นขุนนาง หรือเป็นโชกุนมาใส่ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกหรือจะใส่เดินเที่ยวในหมู่บ้านเลยก็ได้
นอกจากนี้ ที่นี่ก็มีโรงละครหลายโรงเลย ทั้งโรงละครวัฒนธรรมญี่ปุ่น (Japanese Culture Theatre) ซึ่งจะมีแสดงโชว์โออิรันให้ดู
1
โรงละครวัฒนธรรมญี่ปุ่น (Japanese Culture Theatre)
มีบ้านนินจาคาสุมิ (Kasumi Ninja House) ที่จะโชว์การต่อสู้แบบนินจา และโรงละครโอเอโดะ (O-Edo Theatre) ซึ่งตอนที่เราไปจะมีแต่โชว์นินจา นอกนั้นปิดอยู่
บ้านนินจาคาสุมิ (Kasumi Ninja House)
เดินลึกขึ้นไปจนสุดทางจะเจอกับ คาตาคุระโคะจูโรยะชิ (Katakura Residence) ซึ่งด้านในจะมีศูนย์ให้ความรู้เรื่องดาบคาตานะด้วย (Katana Museum)
คาตาคุระโคะจูโรยะชิ (Katakura Residence)
ระหว่างที่สมาชิกคนอื่นๆ เดินเข้าไปดูโชว์นินจากัน เราก็ออกมาเดินถ่ายรูปเล่น
เป็นป้ายทางเข้าห้องน้ำที่ได้อารมณ์มาก 🤣
ตรงกลางหมู่บ้านจะมีสระน้ำขนาดย่อมๆ พร้อมศาลากลางน้ำ และมีสะพานสวยๆ หลายอันเลย
1
สะพานโอตาคาระ (Otakara Bridge)
บ่อน้ำมัทสึงะอิเกะ (Matsuga Pond & Pavillian) และศาลาสีส้มที่โดดเด่นเห็นแต่ไกล
1
บ่อน้ำมัทสึงะอิเกะ (Matsuga Pond & Pavillian)
อันนี้เป็นกระท่อมสัตว์ประหลาด (House of Monsters) ที่น่ารักมาก
กระท่อมสัตว์ประหลาด (House of Monsters)
ส่วนอันนี้เป็นวัดแมวผี (Goblin Cat Temple) ทีแรกก็กะว่าจะเดินเข้าไปแหละ แต่บรรยากาศข้างในไฟนี่สลัวสุดๆ แถมเสียงประกอบก็ทำซะน่าขนลุก เลยตัดสินใจเดินออกมาดีฝร่า นี่ถ้ามีพรรคพวกก็ไม่กลัวหรอก เดินคนเดียวก็แอบป๊อดเหมือนกันนะ
วัดแมวผี (Goblin Cat Temple)
หมู่บ้านนินจาก็จะประมาณนี้ค่ะ น่ารักดี วันนี้นักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อยเลย เท่าที่เห็นมีแต่นักท่องเที่ยวเกาหลี ยังไม่เห็นคนจีนเลย นับเป็นโชคดีของเราถ่ายรูปสบายเลย
ต้อนรับเทศกาล Halloween กะเค้าด้วย
ออกจากหมู่บ้านนินจาก็ได้เวลาอาหารเที่ยงพอดี โดยเราจะไปกินซูชิกันที่ร้าน Maruhira ค่ะ
1
Maruhira
เป็นร้านซูชิเล็กๆ บ้านๆ หน่อยแต่ปลาสดมากๆ เพราะที่ร้านบอกว่ามีเรือออกไปจับปลามาเองเลย ที่สำคัญเค้าให้เยอะจุกๆ แถมราคาก็ไม่แรงด้วย
1
บรรยากาศในร้าน
ไข่หอยเม่นที่คุณลุงเจ้าของโปะมาแบบไม่ยั้ง
1
อร่อยมาก ปลาสด เนื้อหวานไม่คาวเลย
ร้านแรกอิ่มสุดๆ พอหนังท้องตึงหนังตาก็เริ่มจะหย่อนเลย ป่ะ…รีบไปเที่ยวกันต่อดีกว่า และที่ต่อไปที่เราจะไปคือ Noboribetsu Bear Park ไปดูหมีญี่ปุ่นกัน
Noboribetsu Bear Park
Noboribetsu Bear Park เป็นศูนย์อนุรักษ์พันธุ์หมีสีน้ำตาล ซึ่งเจ้าหมีสีน้ำตาลนี้จะมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่เกาะฮอกไกโดและที่ไซบีเรีย เป็นหมีที่หายากและใกล้สูญพันธุ์แล้วจึงได้มีการสร้างศูนย์อนุรักษ์นี้ขึ้นมา
1
แม๋…แต่งตัวต้อนรับ Halloween ซะด้วย
วิธีจะไปชมน้องหมี เราก็จะต้องนั่งกระเช้าหรือ Ropeway ขึ้นไปบนเขาค่ะ
วิวสวยมากเลย
ที่ศูนย์อนุรักษ์นี้จะมีการเพาะพันธุ์หมีสีน้ำตาลด้วย เลยจะมีลูกหมีสีน้ำตาลน่ารักๆ ให้เราเห็นด้วย
1
ขึ้นมาข้างบนวิวยิ่งสวย
ด้านในมีนิทรรศการเกี่ยวกับหมีสีน้ำตาลให้นักท่องเที่ยวได้ความรู้ด้วย
มีภาพ 3 มิติให้ถ่ายรูปเป็นที่ระลึกด้วย น่ารักดี
ชมด้านในกันจนทั่วแล้ว ออกไปดูหมีของจริงกันต่อที่ด้านนอกค่ะ
น้องหมีตัวเบ้อเริ่มทั้งนั้นเลย
หมีที่นี่นี่ฉลาดและขี้เล่นสุดๆ รู้จักกวักมือขออาหารด้วยนะ เพราะที่ศูนย์อนุรักษ์นี้เค้าอนุญาติให้โยนอาหารเลี้ยงหมีได้ แต่ต้องเป็นอาหารสำหรับน้องหมีเท่านั้นนะ ซึ่งก็จะเป็นคุ๊กกี้และแครอทค่ะ
ซื้ออาหารได้ที่ตู้กดนี้
อย่าเอาอย่างอื่นให้น้องกินนะ เดี๋ยวเค้าจะป่วยเอา
ได้เวลานั่งกระเช้ากลับลงมาด้านล่างแล้วค่ะ
จาก Noboribetsu Bear Park เราก็นั่งรถต่อไปที่จุดชมวิวอีกที่
Shikotsu-Toya National Park
Shikotsu-Toya National Park หรือ "หุบเขานรก" ที่ได้ชื่อนี้ก็เพราะอยู่ตรงกลางของทะเลสาปปล่องภูเขาไฟขนาดใหญ่สองแห่งที่ก่อตัวเมื่อหลายพันปีก่อนและยังคงคุกรุ่นอยู่ ได้แก่ ทะเลสาป Shikotsu (ชิโคสึ) และทะเลสาป Toya (โทยะ)
1
เป็นภูเขาไฟที่ยัง active อยู่เห็นได้จากควันที่ยังลอยขึ้นมา
มีทางเดินให้นักท่องเที่ยวเข้าไปสำรวจแถวปล่องภูเขาไฟด้วย
ได้เห็นใบไม้กำลังเปลี่ยนสี สวยสุดๆ ไปเลย
ยืนถ่ายรูปก็จะได้กลิ่นกำมะถันลอยมาตลอดเวลา
จากจุดชมวิวก็ไปโรงแรมกันละค่ะ โดยเราจองโรงแรม The Lake View Toya Nonokaze Resort และจะนอนที่นี่ 2 คืน
1
วิวของโรงแรม…สวยโฮก
ขึ้นไปดูห้องกัน
The Lake View Toya Nonokaze Resort
ห้องใหญ่เลยทีเดียว มีส่วนที่นั่งแบบเสื่อตาตามิด้วย ได้บรรยากาศญี่ปุ่นมาก
1
มีชุดยูคาตะให้ใส่สำหรับไปออนเซ็น
ห้องน้ำสไตล์ญี่ปุ่นก็จะแยกห้องส้วมออกจากห้องอาบน้ำชอบมากเลย
1
เย็นนี้เราจะกินข้าวเย็นกันที่ห้องอาหารในโรงแรม เพราะแถวนี้ค่อนข้างเงียบไม่ค่อยมีร้านอาหาร และถึงมีก็อาจจะรับสมาชิกถึง 12 คนไม่ได้ เราก็เลยกินที่โรงแรมนี่แหละสะดวกดี
ห้องอาหาร Le Vent
เป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีไลน์อาหารเยอะและดูน่ากินมาก
ไลน์บุฟเฟ่ต์นานาชาติ
อาหารอร่อยใช้ได้เลย ฝากท้องได้สบาย
และช่วงที่เรามาจะมีการแสดงพลุที่ริมทะเลสาบโทยะด้วย โดยเค้าจะจุดพลุหรือที่เรียกว่า "เทศกาลดอกไม้ไฟ " ซึ่งเป็นเทศกาลที่จัดขึ้นทุกปี ตั้งแต่เดือนเมษายนถึงเดือนตุลาคมเป็นเวลา 6 เดือน และแสดงทุกคืนเวลา 20.45 น. จุดครั้งละ 20 นาที และโรงแรมที่เราอยู่ก็เห็นดอกไม้ไฟได้ชัดมากๆ
2
ได้ชมดอกไม้ไฟจากหน้าต่างห้องเลย
ช่างเป็นการต้อนรับที่สวยงามจริงๆ
ก็จบวันแรกของทริปประมาณนี้ค่ะ เห็นมะเป็นทริปขี้เกียจจริงๆ โปรแกรมหลวมมากๆ 😅
เดี๋ยว Blog ต่อไปจะพาไปล่องเรือชมทะเลสาปโทยะ ขึ้นไปกินอาหารฝรั่งเศสบนโรงแรมที่วิวซ้วยยยยสวย และไปกินไอติมอร่อยๆ ที่ร้านที่วิวก็ซ้วยยยยสวยอีกละ อย่าลืมติดตามกันนะคะ
1
สำหรับ Blog นี้ขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ 😊

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา