24 พ.ย. 2023 เวลา 04:00 • คริปโทเคอร์เรนซี

ทำความเข้าใจ Commos และ Polkadot

ในปัจจุบันมีระบบบล็อกเชนมากมายที่เดิดขึ้นมาบนโลก และหนึ่งในบล็อคเชนที่เกิดขึ้นคือ Commos และ Polkadot ซึ่งเป็นบล็อคเชนที่มีความสสามารถในการทพงานร่วมกับบล็อกเชนอื่น โดยมีคอนเซปต์ของ Interperability หรือการสื่อสารข้ามเครือข่าย
COSMOS เป็นบล็อคเชนที่ใช้โครงสร้างของ Tendermint ซึ่งเป็นอัลกอริทึมการเข้าร่วมความเห็นชอบ (consensus algorithm) ที่ใช้โปรโตคอล Proof-of-Stake (PoS) และ Inter-Blockchain Communication (IBC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการส่งข้อมูลและค่าเงินระหว่างบล็อคเชน COSMOS มีเป้าหมายที่จะเป็น “อินเทอร์เน็ตของบล็อคเชน” ที่สามารถเชื่อมต่อกับบล็อคเชนอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง
POLKADOT เป็นบล็อคเชนที่ใช้โครงสร้างของ Substrate ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการสร้างบล็อคเชนที่มีความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ POLKADOT ใช้ Cross-Chain Message Passing (XCMP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลสำหรับการส่งข้อมูลและค่าเงินระหว่างบล็อคเชน POLKADOT มีเป้าหมายที่จะเป็น “เว็บ 3.0” ที่สามารถรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันที่มีความเป็นธรรม โปร่งใส และปลอดภัย
COSMOS และ POLKADOT เหมือนกันไหม?
COSMOS และ POLKADOT เป็นบล็อคเชนที่มีความสามารถในการทำงานร่วมกันกับบล็อคเชนอื่นๆ แต่มีความแตกต่างกันในหลายด้าน
- COSMOS ใช้ Tendermint ซึ่งเป็นอัลกอริทึมการเข้าร่วมความเห็นชอบ (consensus algorithm) ที่ใช้โปรโตคอล Proof-of-Stake (PoS) และ Inter-Blockchain Communication (IBC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการส่งข้อมูลและค่าเงินระหว่างบล็อคเชน
- POLKADOT ใช้ Substrate ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กสำหรับการสร้างบล็อคเชนที่มีความยืดหยุ่นและปรับแต่งได้ และใช้ Cross-Chain Message Passing (XCMP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลสำหรับการส่งข้อมูลและค่าเงินระหว่างบล็อคเชน
- COSMOS ให้การรักษาความปลอดภัยแบบแยกแต่ละบล็อคเชน ซึ่งเรียกว่า Zone และมีบล็อคเชนหลักที่เรียกว่า Hub ที่เชื่อมต่อ Zone ต่างๆ กัน
- POLKADOT ให้การรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรทั่วทั้งเครือข่าย ซึ่งเป็นหนึ่งในข้อแตกต่างหลักระหว่าง COSMOS และ POLKADOT ทุกๆ Parachain ของ POLKADOT ได้รับการรักษาความปลอดภัยจากบล็อคเชนหลักที่เรียกว่า Relay Chain และมีบล็อคเชนที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นๆ ที่เรียกว่า Bridge
- COSMOS มีเป้าหมายที่จะเป็น “อินเทอร์เน็ตของบล็อคเชน” ที่สามารถเชื่อมต่อกับบล็อคเชนอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง
-POLKADOT มีเป้าหมายที่จะเป็น “เว็บ 3.0” ที่สามารถรองรับการทำงานของแอปพลิเคชันที่มีความเป็นธรรม โปร่งใส และปลอดภัย
COSMOS และ POLKADOT เป็นบล็อคเชนที่มีความสามารถในการทำงานร่วมกันกับบล็อคเชนอื่นๆ แต่มีข้อดี-ข้อเสียอย่างไรบ้าง ตามผลการค้นหาบนเว็บ ข้อดี-ข้อเสียของ COSMOS และ POLKADOT สามารถสรุปได้ดังนี้
ข้อดีของ COSMOS
- ให้การรักษาความปลอดภัยแบบแยกแต่ละบล็อคเชน ซึ่งเรียกว่า Zone และมีบล็อคเชนหลักที่เรียกว่า Hub ที่เชื่อมต่อ Zone ต่างๆ กัน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการโจมตีบนเครือข่าย
- ให้ความอิสระและความยืดหยุ่นในการสร้างบล็อคเชนที่มีความเฉพาะเจาะจง โดยใช้เฟรมเวิร์ก Cosmos SDK ที่มีส่วนประกอบที่สร้างไว้ล่วงหน้าแล้ว
- ใช้โปรโตคอล Inter-Blockchain Communication (IBC) ซึ่งเป็นมาตรฐานสำหรับการส่งข้อมูลและค่าเงินระหว่างบล็อคเชน ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่เปิดเผยและเป็นที่ยอมรับของชุมชน
ข้อเสียของ COSMOS
- ไม่มีการรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรทั่วทั้งเครือข่าย ซึ่งหมายความว่าแต่ละ Zone ต้องมีการรักษาความปลอดภัยของตัวเอง หรือขอใช้บริการจาก Zone อื่นๆ ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนและค่าใช้จ่าย
- ไม่มีการแบ่งส่วนข้อมูล (sharding) ซึ่งหมายความว่าแต่ละ Zone ต้องประมวลผลข้อมูลแบบเชิงเส้น ซึ่งอาจจำกัดความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย
- ไม่มีการกำหนดค่าธรรมเนียมของเครือข่าย ซึ่งหมายความว่าแต่ละ Zone ต้องกำหนดค่าธรรมเนียมของตัวเอง ซึ่งอาจทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันและความสับสนในการใช้งาน
ข้อดีของ POLKADOT
- ให้การรักษาความปลอดภัยแบบครบวงจรทั่วทั้งเครือข่าย ซึ่งหมายความว่าทุกๆ Parachain ของ POLKADOT ได้รับการรักษาความปลอดภัยจากบล็อคเชนหลักที่เรียกว่า Relay Chain และมีบล็อคเชนที่เชื่อมต่อกับเครือข่ายอื่นๆ ที่เรียกว่า Bridge
- ให้ความยืดหยุ่นและความสามารถในการปรับแต่งบล็อคเชน โดยใช้เฟรมเวิร์ก Substrate ที่มีส่วนประกอบที่สร้างไว้ล่วงหน้าแล้ว และให้ความอิสระในการเลือกอัลกอริทึมการเข้าร่วมความเห็นชอบ (consensus algorithm) และการกำหนดค่าธรรมเนียมของเครือข่าย
- ใช้โปรโตคอล Cross-Chain Message Passing (XCMP) ซึ่งเป็นโปรโตคอลสำหรับการส่งข้อมูลและค่าเงินระหว่างบล็อคเชน ซึ่งเป็นโปรโตคอลที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย
- ใช้การแบ่งส่วนข้อมูล (sharding) ซึ่งหมายความว่าสามารถประมวลผลข้อมูลพร้อมๆ กันบนเชนต่างๆ ที่เรียกว่า Parachain ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความสามารถในการปรับขนาดของเครือข่าย
ข้อเสียของ POLKADOT
- มีการจำกัดจำนวน Parachain ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Relay Chain ได้ ซึ่งหมายความว่าผู้พัฒนาบล็อคเชนต้องแข่งขันกันเพื่อได้รับช่องว่าง Parachain โดยใช้การประมูลหรือการระดมทุนจากผู้ถือเหรียญ DOT ซึ่งอาจเพิ่มความซับซ้อนและค่าใช้จ่าย
- มีการเปลี่ยนแปลงสถานะของเหรียญ DOT ในอัตราส่วน 1:100 ในปี 2563 ซึ่งทำให้เกิดความสับสนและความไม่เชื่อมั่นในตลาด
-มีการควบคุมและกำกับดูแลโดย Web3 Foundation ซึ่งเป็นองค์กรที่ไม่ใช่กำไร
สรุปแล้ว COSMOS และ POLKADOT เป็นบล็อคเชนที่มีวิสัยทัศน์และเป้าหมายที่คล้ายกัน แต่มีวิธีการและโครงสร้างที่แตกต่างกัน ทั้งสองเครือข่ายยังอยู่ในระหว่างการพัฒนาและปรับปรุง และมีโอกาสในการทำงานร่วมกันในอนาคต
- เรียบเรียงโดย natsu

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา