26 พ.ย. 2023 เวลา 12:19 • ความคิดเห็น
มีพระองค์หนึ่งทีเราเจอท่าน เนื่องจากว่า เจ้าอาวาสให้ไปขอลูกกุญแจ เพื่อไปหาที่พัก .
ปรากฏว่า พอกราบท่าน ท่านก็ชี้ว่า ให้นอนตรงนี้แหละ แล้วเราก็ได้ค่อยๆ เห็น..สัมผัส ..วันที่สอง มีโยมผู้หญิงคนหนึ่งมากราบท่าน ..เราก็ดู..ว่า ผู้หญิงคนนี้ ทำไมกราบสวยจัง เราแค่นึก ท่านก็หันมาพูดว่า อย่างนี้เค้าเรียกว่า กราบด้วยจิต ..แล้วท่านก็บอกว่า ก็ชี้มาที่หน้าอก ..ที่เรานั่งห่างจากท่านประมาณห้าหกเมตร
เมื่อท่านชี้เข้ามาที่หน้าอก มันเหมือนมีกระแสอะไรบางอย่าง เสียบเข้าไปที่ใจเลย แล้วท่านก็บอกว่า ที่หน้าอกมีเครื่องหมาย มีโค้ดมากันทุกคน เราได้ฟังก็ก็รู้สึกแปลก แล้วท่านก็บอกว่า มาๆเรียนกัน เรื่องกายอารมณ์จิต แล้วจะสนุก แล้วตอนนั้นเวลาท่านโบกมือขึ้นมา มันก็เหมือนมีกระแสพลังงาน คล้ายลม แต่ไม่ใช่ลม ..พัดขึ้นมา วูบวาบ..นี่มันชั่งเหมือนหนังจีน ..
หลังจากนั่น เราก็ได้ค่อยเรียนรู้ ..อ้อ..อยู่ๆท่านก็บอกให้นวดให้หน่อย เราก็เลยได้ฝึกหัดเรื่องการนวด ก็นวดให้ท่าน เวลาท่านป่วยไปนอนโรงพยาบาล ไปโรงพยาบาลสงฆ์ ท่านก็ลุกขึ้นมาพูดเสียงดัง ..ว่า ..นักบวชพวกนี้ ตกนรกหมด ..เราก็นั่งก้มหน้า .พอมีคนมาถวายของ ..ถวายนมกล่อง พอเดินมาใกล้ท่านก็ทำตัวเป็นกุมาร ..กิริยเหมือนเด็กๆ ทั้งที่อายุก็หกสิบกว่าไปแล้ว
ท่านไปที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง เค้าเอาท่านไปนอนพักที่ห้องผู้..ที่หมดลม..เปิดแอร์เสียเย็น..เวลาไปเยี่ยมท่าน ท่านบอกว่า เมื่อไหร่เค้าจะย้ายห้อง .พอย้ายห้องไป ท่านก็เล่าว่า ที่ห้องนั้น มันมาทำเป็นหัวกะโหลก ลอยไปลอยมา น่องแน่งๆ ..ท่านบอกว่า ฉันไม่กลัวมันหรอก..
ท่านก็ค่อยสอนให้รู้จักอารมณ์ พิษของอารมณ์ที่เราใช้ .เป็นอย่างไร ท่านให้ฝึกหัด ไม่ติเตียนใต พอใจไม่พอใจอย่าเกิดขึ้นที่ตัวเรา ไม่ให้เห็นตัวเองดีแล้ว ไม่ให้เห็นคนนั้นคนนี้ผิดเลย การที่เราได้ดูแลท่าน มันก็มีเรื่องราว ที่ท่านสอนบอกกล่าวหลายอย่าง ให้เราเรียนรู้สังเกต ท่านชี้ให้ดู บางที่มีคนเค้าว่าเป็นซึมเศร้ามา กินยามา ท่านก็เรียกเอาสิ่งที่เกาะติดมา ..ครั้งเดียวก็หลุดออก หน้าตาเปลี่ยนแปลงไปเลย
สิ่งที่ท่านบอกให้เรียนนั้นมันก็เป็นเรื่องของอารมณ์กรรมที่เราใช้ใน ชีวิตประจำวัน ที่มันมีตัวอารมณ์นานาชนิดที่เกิดขึ้น มาปกคลุมจิต แล้วก็จิตนั่น ก็ต้องถูกอารมณ์นั้น บังคบให้สร้างกรรมไปตามอารมณ์ แล้วทุกสิ่งที่เราใช้อารมณ์ในชีวิตประจำวัน ดีก็บันทึก ไม่ดีก็บันทึก ลงไปในจิตใต้สำนึก หรือ ธาตุทั้งสี่
สิ่งที่ท่านบอกให้เรียนรู้นั่นมันหลายเรื่อง ..แต่รวมๆ ก็เรื่องกายอารมณ์จิต ..เรื่องการสร้างบุญกุศล ..เรื่องการที่จะสลัดอารมณ์ออกไปต้องทำอย่างไร ..ท่านก็ค่อยๆบอกที่นิดทีละหน่อย แล้วก็ไปถึงเรื่องราวของไสยศาสตร์นั่น มันทำให้เกิดอะไรขึ้น ท่านให้เราไปเรียนรู้ขึ้นมา เพราะมีคนอวดดี ..มากระทำ
..ท่านบอกว่า เค้าส่งมาให้ถึงกุฏิ ..ไปปฏิเสธเสียนี้ ..เรื่องของตัวหลง ..เราก็เลยได้เรียนรู้ มันน่ากลัว .ในสิ่งเหล่านี้ ..มันมีผลให้ร่างกายนอนไม่หลับดึกๆดื่นๆ ต่อสู้กับสิ่งที่มองไม่เห็น .ที่มันมาเกิดในตัวตนของเรา เป็นอารมณ์ที่เนื่องด้วยไสยศาสตร์ แล้วท่านก็บอกพวกนี้ ..กลัวอย่างเดียว คือ แสงของธรรม แสงรัตนะ
..นั่นก็คือ เราต้องฝึกหัดประพฤติปฏิบัติธรรม ..ให้จิตนั่นมีแสงขึ้นมา เพื่อประคับประคองจิตของตนเอง ..แล้วเราก็ได้ค่อยเรียนรู้ในสิ่งที่มันไม่เห็นด้วยสาย ที่เป็นนามธรรม ..มันเป็นการเรียนรู้ ไปจนถึงงเรื่องของสีที่อยู่กับธาตุทั้งสี ..สีเวรกรรม ที่เราจะต้องอาศัยการประพฤติ ความขันติ ในการคลี่คลาย สีต่างๆออกไป..สีนั่นก็เป็นเรื่องราวของกรรมที่จิตสะสมมาในอดีตชาติ แล้วไม่เคยสะสางมันออกไปเลย มีแต่นำเข้ามา
พอเราศึกษามากขึ้น..บรมครูของจิต ..ที่ดีที่สุด คือองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า นั่นสูงส่งที่สุดแล้ว ในการศึกษาธรรม ..สร้างบุญกุศลหนีกรรม ให้จิตเรามีสติสัมปชัญญะรู้จักกรรม ให้จิตเรามีสติสัมปชัญญะรู้จักธรรม สร้างบุญบารมีหนีเวรกรรมไปทุกข์ชาติๆ หนีกรรม ..จนไม่บัญชีกรรมตืดค้างในธาตุทั้งสี่ คือ จิตที่เป็นแก้วเจียระไน ที่เขียนนี่ จดจำมา ..ไม่รู้ว่าชาติไหน จะทำได้ ..
โฆษณา