ในวันเสาร์ที่สี่ของเดือนพฤศจิกายนของทุกปี ชาวยูเครนจะรำลึกถึงเหยื่อของเหตุการณ์ "โฮโลโดมอร์" ด้วยการจุดเทียนวางภาชนะใส่เมล็ดพืชเพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความทรงจำ
วันรำลึกถึงความอดอยากและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในยูเครน "โฮโลโดมอร์" หมายถึง ภาวะขาดแคลนอาหารที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2475–2476 ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนหลายล้านคนในยูเครน ความอดอยากเกิดขึ้นเนื่องจากการดำเนินการตามนโยบายระบอบอาชญากรของโจเซฟ สตาลิน
ในปี พ.ศ. 2475 โซเวียตได้เพิ่มโควตาธัญพืชที่ยูเครนต้องจัดหาให้อีก 44% ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนธัญพืช เจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จากกองกำลังทหาร และหน่วยตำรวจลับ ถูกนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับชาวนาที่อาจซ่อนเมล็ดพืชจากรัฐบาลโซเวียต มีการใช้ระบบหนังสือเดินทางจำกัดการเคลื่อนไหวของชาวนายูเครน เพื่อไม่ให้พวกเขาเดินทางไปหาอาหารได้ ในขณะที่รัฐสภายูเครนและเกือบ 30 ประเทศทั่วโลกยอมรับว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทางรัสเซียได้ปฏิเสธว่าเหตุการณ์นี้เป็นการกระทำโดยเจตนา และการรำลึกถึงเหตุการณ์นี้ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมาย
เช้าวันที่ 25 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งเป็นวันรำลึกถึง "โฮโลโดมอร์ "(holodomor) ในยูเครน มีรายงานจากหัวหน้าฝ่ายบริหารการทหารของเมืองเคียฟ เมื่อเวลาประมาณ 04.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันที่ 25 พ.ย. ว่า กองกำลังรัสเซียเปิดฉากโจมตีด้วยโดรนทั่วชานเมืองเคียฟ มีรายงานผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 รายและเกิดเพลิงไหม้ในบริเวณโรงเรียนอนุบาลแห่งหนึ่ง เป็นผลจากเศษซากของโดรนตก นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่ามีเด็กอายุ 11 ปีได้รับบาดเจ็บอีกด้วย
นายกเทศมนตรีเมืองเคียฟ รายงานว่าเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 25 พฤศจิกายน รัสเซียส่งโดรน Geran-2 ที่ผลิตในอิหร่าน จำนวน 74 ลำโจมตีพื้นที่กรุงเคียฟ ซึ่งนับเป็นการใช้โดรนโจมตียูเครนครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อ กุมภาพันธ์ 2565 ผู้บัญชาการกองทัพอากาศยูเครน ระบุว่าสามารถทำลายโดรนดังกล่าวได้จำนวน 71 ลำ จากทั้งหมด 74 ลำ ซึ่งขณะนี้ ยังไม่มีการยืนยันการโจมตีทางอากาศครั้งนี้จากกระทรวงกลาโหมรัสเซียแต่อย่างใด
ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี กล่าวว่า การโจมตียูเครนครั้งใหญ่ของรัสเซียในคืนซึ่งตรงกับวันรำลึกถึงโฮโลโดมอร์ ถือเป็น "การจงใจก่อการร้าย" และในวันถัดมา เขาได้กล่าวว่ายูเครนต้องการการป้องกันทางอากาศเพิ่มเติม
ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปได้ตอบรับ โดยให้คำมั่นสนับสนุนในจดหมายถึงเซเลนสกีที่แชร์บนแพลตฟอร์ม X ว่าคณะกรรมาธิการจะจัดสรรเงิน 50 ล้านยูโรสำหรับ "การซ่อมแซมและอัพเกรดโครงสร้างพื้นฐานอย่างรวดเร็วในท่าเรือของยูเครน"
ที่มา :