ความเครียดต่ออนาคต
ด้วยพระนามของอัลลอฮผู้ทรงกรุณาปราณี ผู้ทรงเมตตาเสมอ
ความเครียดอันดับต้นๆของมนุษย์อย่างเรา โดยส่วนใหญ่คือความเครียดที่ยังมาไม่ถึง คือความกังวลเกี่ยวกับอนาคตว่าตัวฉันจะเป็นอย่างไร จะมีได้อย่างคนอื่นเขาไหม ใครจะดูถูกเราบ้างถ้าเราได้รับเงินเดือนเท่านี้ ค้าขายแบบนี้ และอีกสารพัดความกังวล
ในสมัยโบราณ ความเครียดของมนุษย์นั้นมีประโยชน์ เพราะคำนึงถึงแค่ 1-2 วันเท่านั้น และมันส่งผลต่อชีวิตโดยตรง เช่น ฉันจะกินอะไรดีในเย็นนี้ หรือพรุ่งนี้ต้องออกล่าสัตว์ตรงไหน นอนที่ไหน ความคิดเหล่านี้คือความเครียดที่มีประโยชน์ เพราะมันจะกระตุ้นให้ตัวเราไม่หยุดนิ่ง และรู้จักวางแผนเพื่อเอาชีวิตรอด
ทว่าในยุคปัจจุบัน อาหารได้มีพร้อมสำหรับทุกมื้อ ที่นอนก็ยังมีให้กลับไปพักผ่อนอยู่เสมอ แต่ความเครียดกลับเปลี่ยนแปลงรูปแบบ เป็นความกังวลเกี่ยวกับเรื่องภายนอกเสียส่วนใหญ่ เช่น คนอื่นจะคิดกับเราอย่างไร ถ้าเราทำแบบนี้ หรือ คนอื่นมีบ้าน มีรถกันหมดแล้ว แต่ตัวเรายังไม่มีแบบเขา สุดท้าย ต้องพยายามสร้างภาพลักษณ์ ด้วยการกู้หนี้ยืมสินมาซื้อบ้าน ซื้อรถ กินอาหารแพงๆ ดื่มกาแฟชั้นหรูเท่านั้น ใช้จ่ายเกินตัว เพื่อไม่ยอมให้คนอื่นมาดูถูกตน
แต่ลึกๆแล้ว เรากลับได้รับความเดือดร้อนจากดอกเบี้ย ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพื่อจ่ายหนี้ และทำงานหนักมากขึ้นเพื่อรักษาการใช้ชีวิตแบบหรูหราเอาไว้
สำหรับผู้ศรัทธาที่แท้จริงแล้ว พวกเราย่อมรู้ดีว่า อนาคตนั้นขึ้นอยู่กับการกำหนดของอัลลอฮ เรามีหน้าที่ในแต่ละวัน เพื่อปฏิบัติศาสนกิจ และกระทำความดีให้มาก ตัดสินปัญหาในปัจจุบันด้วยสิ่งที่ถูกอนุมัติและไม่ผิดหลักการของพระองค์ และทำตามแบบอย่างของท่านนบีมุฮัมมัด (ซ.ล.)
ที่ผมกล่าวมานั้น ไม่ใช่ว่าผู้ศรัทธาไม่จำเป็นต้องวางแผนการใช้ชีวิต การวางแผนการใช้ชีวิตเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่เราต้องพยายามทำในแต่ละวันให้ดีที่สุด ประณีต ละเอียดในงานที่เรากำลังทำและสอดคล้องกับเป้าหมายในอนาคต แล้วที่สำคัญ อย่าเครียดจนเกินไป เพราะความสำเร็จเป็นสิ่งที่พระองค์อัลลอฮทรงมอบให้ เรามีหน้าที่เป็นสาเหตุ (การกระทำต่างๆ) เพื่อให้ได้รับผลสำเร็จเท่านั้น
และสำหรับผู้ที่อาจจะเดินทางเข้าไปสู่ความผิดพลาดดังกล่าวแล้ว ก็ยังไม่สายครับที่จะวิงวอนขออภัยโทษ และอย่าลืมขอพรให้พระองค์มอบทางแก้ปัญหา มอบความรู้ มอบสติปัญญาในการแก้ปัญหาที่เราสร้างขึ้น และกลับเนื้อกลับตัวว่าจะไม่ทำและใช้ชีวิตแบบเดิมอีก อีกทั้งในโลกของเรา มีผู้เชี่ยวชาญอีกมากมาย ที่รับปรึกษาการแก้ปัญหาที่เรากำลังเจอ เพียงแต่คุณถ่อมตัว และทิ้งความเย่อหยิ่งให้ได้ คุณก็สำเร็จไปกว่าครึ่งแล้วครับ
เมื่อเรามีความอดทนและแก้ปัญหาตรงหน้าอย่างถูกต้องตามหลักการและแบบอย่างของศาสนาเรียบร้อย ขั้นตอนถัดไปนั้นง่ายมากสำหรับผู้ศรัทธา แต่อาจยากและยังเป็นกังวลอยู่สำหรับผู้ปฏิเสธ นั่นก็คือ การเชื่อมั่นในพระองค์อัลลอฮ การมอบหมายความไว้วางใจต่อพระองค์ผู้ทรงกรุณาปราณี ว่าพระองค์จะช่วยอำนวยความสะดวกในการหาทางออกให้กับปัญหานั้น หรือความช่วยเหลือนั้น อาจมาในรูปแบบที่คุณได้พบกับใครสักคนที่ช่วยเหลือคุณได้ก็ได้
อย่างที่กระผมได้เขียนไปในตอนต้นของบทความ มนุษย์ยุคปัจจุบัน มีความเครียดในระยะที่ยาวไกลมาก เป็นเดือน เป็นปี จึงไม่สามารถที่จะวางแผนเพื่อให้สำเร็จในระยาวมากๆขนาดนั้นได้อย่างแม่นยำ ชีวิตไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะไม่อย่างนั้น คงไม่มีผู้ที่ผิดหวัง มีเพียงการกระทำในวันนี้ให้ที่ดีที่สุด ทำดีต่อไปเรื่อยๆในทุกวัน ขยันหมั่นเพียร มอบหมายต่อพระเจ้าผู้ทรงปัญญา มีความหวังต่อพระองค์ว่าเราในฐานะผู้ศรัทธาจะไม่ถูกทอดทิ้ง และพระองค์ไม่ทรงทอดทิ้งบ่าวผู้ศรัทธาของพระองค์อย่างแน่นอน
และหลักฐานเรื่องการมอบหมายต่อพระองค์ คือคำตรัสของพระองค์อัลลอฮ ที่ว่า
“และแด่อัลลอฮนั้นพวกเจ้าจงมอบหมายเถิด หากพวกท่านเป็นผู้ศรัทธา” [อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ อัลมาอิดะฮ์ อายะฮ์ที่23]
“แท้จริงพวกเขาแข่งขันกันในการทำความดี และพวกเขาวิงวอนขอต่อเราด้วยความหวัง และหวั่นเกรงในการลงโทษของเรา และพวกเขาเป็นผู้ถ่อมตนต่อเรา” [อัลกุรอาน ซูเราะฮ์ อัลอัมบิยาอ์ อายะฮ์ที่ 90]
#อิสลาม #ศาสนาอิสลาม #ปรัชญา #ศาสนา
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
