Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Krungsri Simple
•
ติดตาม
30 พ.ย. 2023 เวลา 08:00 • ท่องเที่ยว
5 เรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนต่างชาติ เมื่อไปที่ญี่ปุ่น
ประเทศญี่ปุ่น คือจุดหมายปลายทางในฝันของคนหลายคนที่อยากไปท่องเที่ยวต่างประเทศ สังเกตได้จากจำนวนนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ไปเที่ยวที่ประเทศญี่ปุ่นมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ปี
แม้กระทั่งเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 ทำให้ผู้คนไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศได้เหมือนเคย แต่ผมเชื่อว่า ใครหลายคนคงมีความตั้งใจว่า ถ้าหมดโควิด-19 เมื่อไหร่ จะไปท่องเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง
ผมไปเจอแบบสำรวจของ Development Bank of Japan ทำการสำรวจทางอินเทอร์เน็ตกับคน 12 ประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส จีน เกาหลีใต้ รวมทั้งสิ้น 6,200 คน ก็ได้คำตอบว่า ประเทศที่คนอยากไปมากที่สุดหลังโควิด-19 สิ้นสุดลงคือ “ประเทศญี่ปุ่น” อันดับ 2 และอันดับ 3 คือประเทศเกาหลีใต้ และประเทศไต้หวัน ตามลำดับ
สาเหตุอะไรที่ทำให้คนเป็นจำนวนมาก รู้สึกอยากไปประเทศญี่ปุ่น คงต้องมีอะไรบางอย่างที่ทำให้นักท่องเที่ยว หรือผู้อยู่อาศัยชาวต่างชาติรู้สึกประทับใจในประเทศญี่ปุ่น ในฐานะที่ผมเคยอยู่ญี่ปุ่นรวม 7 ปี ในฐานะนักศึกษามหาวิทยาลัย พนักงานบริษัทญี่ปุ่น และนักท่องเที่ยว จึงอยากเอาประสบการณ์มาเล่ากันครับ
1. ตรงต่อเวลา
“รถเมล์ รถไฟวิ่งตามเวลาเป๊ะ ๆ นัดใครไว้ให้ไปถึงก่อนเวลานัดหมาย 5 นาที”
เรื่องการตรงต่อเวลาที่ชาวต่างชาติสามารถสัมผัสได้ก่อนเป็นอันดับแรก ๆ คือ การตรงเวลาของการขนส่งสาธารณะแทบทุกประเภท ถ้าเพื่อน ๆ มีโอกาสไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น และได้ใช้บริการการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถประจำทาง รถไฟ ไปจนถึงรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็นเค้าจะมีกำหนดการชัดเจน ออกจากป้ายและถึงตามเวลาที่กำหนดไว้
เรียกได้ว่า คนต่างชาติตกใจกันหมด และเป็นที่เลื่องลือกันระดับโลก ยกตัวอย่างเช่น ชินคันเซ็นสาย Tokaido ซึ่งเป็นเส้นทางรถไฟความเร็วสูงเส้นทางแรกที่เปิดให้บริการตั้งแต่ปี 1964 เชื่อมต่อระหว่างกรุงโตเกียวและโอซาก้า เค้าเก็บสถิติรถไฟทุกขบวนว่า
ในปีนั้น ๆ แต่ละขบวนสายจากกำหนดการกี่นาที แล้วเอามาหาค่าเฉลี่ย อย่างสถิติในปี 2016 (อาจจะเป็นสถิติเก่าหน่อยนะครับ) รถไฟชินคันเซ็นสาย Tokaido สายเฉลี่ยเพียงแค่ 24 วินาทีเท่านั้น ซึ่งเมื่อเทียบกับเวลาเดินทางจากกรุงโตเกียวไปโอซาก้า ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง แทบจะไม่มีผลเสียอะไรต่อผู้โดยสารเลย
เมื่อระบบการขนส่งสาธารณะในประเทศญี่ปุ่นตรงเวลามาก ช่วยให้คนญี่ปุ่นสามารถวางแผนล่วงหน้าในการเดินทางไปตามสถานที่ต่าง ๆ ได้แม่นยำขึ้น ช่วยให้คนญี่ปุ่นมีนิสัยบริหารจัดการเวลา ยกตัวอย่างเช่น ตอนผมทำงานในบริษัทญี่ปุ่น ผมมีขบวนรถไฟที่ผมนั่งประจำ คือรอบ 8:22 น. โดยจะใช้เวลาเดินทางประมาณ 25 นาทีจะถึงสถานีปลายทาง ก็เข้างานสบาย ๆ ก่อน 9:00 น. ทุกเช้าผมจึงเผื่อเวลาสำหรับเดินจากไปที่สถานีรถไฟ โดยให้ถึงสถานีรถไฟไม่เกิน 8:10 น.
ถ้าทำได้แบบนี้ผมจะขึ้นรถไฟทันทุกครั้ง และมั่นใจได้ว่าถึงที่ทำงานทันทุกวันแน่นอน แต่ถ้ารถไฟขบวนดังกล่าวมาสาย ไม่มาตามกำหนด แล้วทำให้ผมไปถึงที่ทำงานไม่ทัน ทางสถานีรถไฟปลายทางจะแจกแผ่นกระดาษเล็ก ๆ ที่มีชื่อว่า 電車遅延証明書 (densha chien shoumeisho) เพื่อรับรองว่า ที่ผมมาสายไม่ได้เป็นเพราะตัวเราเองที่เลินเล่อ แต่มีเหตุจากปัญหารถไฟล่าช้า ซึ่งทางบริษัทจะยอมรับและเข้าใจเราครับ
นอกจากนั้น คนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเวลานัดหมายมาก โดยมารยาททางธุรกิจที่เป็นที่รู้กันในหมู่ของคนทำงานอยู่แล้วว่า ถ้านัดหมายใคร ต้องไปถึงก่อนเวลาอย่างน้อย 5 นาที ซึ่งตอนผมทำงานที่ญี่ปุ่นผมก็ติดนิสัยแบบนี้ จะไปให้ถึงก่อนเวลานัดหมาย 5-10 นาทีทุกครั้ง
แต่ที่น่าแปลกใจมีอยู่เรื่องเดียว คือ คนญี่ปุ่นจะตรงต่อเวลาตอนเข้างาน และมีการนัดหมาย แต่ทำไมเวลาเลิกงาน ไม่เคยตรงต่อเวลาซักที (เลิก 5 โมงแต่กลับบ้านกันดึกตลอด)
2. ปลอดภัย
“จะเที่ยวรู้สึกปลอดภัย จะอยู่รู้สึกอุ่นใจ”
อ้างอิงจากรายงาน Safe Cities Index 2019 สำรวจโดย Economist Intelligence Unit (EIU) ของนิตยสาร The Economist ประเทศอังกฤษ ที่ทำการจัดอันดับเมืองที่มีความปลอดภัยมากที่สุดในโลก ครอบคลุมความมั่นคง 4 ด้าน ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน ด้านดิจิทัล ด้านสุขภาพ ด้านความมั่นคงส่วนบุคคล พบว่า โตเกียวอยู่ในอันดับที่ 1 และโอซาก้าอยู่ในอันดับที่ 3 ของโลก
ซึ่งสิ่งนี้คือการการันตีความปลอดภัยที่ได้รับการยอมรับกันทั่วโลก แต่ในเชิงประสบการณ์นั้นผมได้มีโอกาสสอบถามคนที่เคยไปท่องเที่ยวในญี่ปุ่น หลายคนก็จะบอกว่า บ้านเมืองปลอดภัยทำให้รู้สึกสบายใจเมื่อไปเที่ยว ไม่ต้องกลัวโจรฉกชิงวิ่งราว ทำของหายก็มีเคสที่ได้กลับคืนมาค่อนข้างเยอะ
ถ้าถามว่าทำไมประเทศญี่ปุ่นถึงมีอัตราการเกิดอาชญากรรมน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่น ๆ เท่าที่ผมไปหาข้อมูลได้คำตอบมาดังต่อไปนี้
- เด็กญี่ปุ่นจะถูกพร่ำสอนตั้งแต่เด็กว่าให้รับผิดชอบตัวเอง และไม่สร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น ไม่โกหก ไม่ลักขโมย และคนญี่ปุ่นมองว่าการกระทำความผิด เช่น การลักทรัพย์ถือเป็นเรื่องน่าขายหน้าที่สุด
- ตำรวจญี่ปุ่นจับกุมทุกการกระทำผิด แม้กระทั่งความผิดเล็ก ๆ เช่น ความผิดฐานขโมยกระดาษชำระ ซึ่งเราอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ ก็จริง แต่ก็ไม่เว้นโทษโดนจับกุมในข้อหาลักทรัพย์ผู้อื่น
- กฎหมายรุนแรง อีกทั้งยังถูกตราหน้าทางสังคมด้วย ทำให้ผู้คนเกรงกลัวการกระทำผิด ยกตัวอย่างเช่น ความผิดขโมยของเล็ก ๆ น้อย ๆ ครั้งเดียว จะถูกบันทึกเป็นประวัติอาชญากรรม ซึ่งจะส่งผลต่อหน้าที่การงานด้วย ตอนผมทำงานบริษัทผมจำได้แม่นว่า ที่แผนกติดป้ายไว้ใหญ่มากเขียนไว้ว่า “ความผิดฐานเมาแล้วขับ โทษจากบริษัทคือไล่ออกสถานเดียว” ตัวอย่างเหล่านี้ทำให้คนที่คิดถึงอนาคตข้างหน้าจะไม่กล้าทำความผิดแม้จะเป็นความผิดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม
- ป้อมตำรวจค่อนข้างเยอะ และตำรวจมีการออกตรวจตราความเรียบร้อยตอนกลางคืนอย่างขันแข็ง ทำให้คนไม่กล้าทำความผิด
นี่เป็นเพียงสาเหตุเพียงแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น นอกจากนี้แล้วยังมีอีกหลายปัจจัยที่ช่วยให้ญี่ปุ่นมีสวัสดิภาพความปลอดภัยสูง แต่ผมก็ไม่ได้หมายความว่าที่ญี่ปุ่นจะปลอดภัย 100% นักท่องเที่ยวหรือผู้อยู่อาศัยยังต้องระมัดระวังตัว อย่าประมาท เพราะเศรษฐกิจย่ำแย่มากขึ้นย่อมมีโอกาสที่จะเกิดอาชญากรรมตามมาเช่นกัน
3. บ้านเมืองสะอาด
“แม้เป็นประเทศที่ถังขยะหายาก แต่บ้านเมืองสะอาดจนน่าตกใจ”
สิ่งที่น่าแปลกใจในญี่ปุ่นอย่างหนึ่งคือ แม้จำนวนถังขยะน้อยมาก แต่แทบไม่เห็นขยะตามที่สาธารณะ หลายครั้งที่สื่อทั่วโลกพูดเกี่ยวกับมารยาทในการใช้พื้นที่สาธารณะของคนญี่ปุ่น เช่น หลังการแข่งขันกีฬาจะเห็นคนญี่ปุ่นเก็บขยะที่อยู่รอบตัวกลับบ้าน ไม่ทิ้งขยะไว้เรี่ยราดในสนามแข่งขัน ซึ่งถือว่านี่คือจิตสำนักต่อส่วนรวมที่ทำให้คนต่างชาติตกใจอยู่ทุกครั้งที่ได้พบเห็น
เรื่องนี้ก็มีที่มาที่ไปเช่นกันครับ คนญี่ปุ่นมีวิธีคิดว่า การทำความสะอาดพื้นที่สาธารณะคือหน้าที่ของทุกคน ไม่ใช่หน้าที่ของคนใดคนหนึ่ง ซึ่งมาจากการปลูกฝังนิสัยทำความสะอาดตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ โดยตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงชั้นมัธยมปลายเด็กญี่ปุ่นจะมีชั่วโมงทำความสะอาด เพื่อให้มีความรับผิดชอบและนิสัยรักความสะอาด
คนญี่ปุ่นมีความเคร่งครัดในการแยกขยะ ที่ญี่ปุ่นตามเขตต่าง ๆ จะมีการระบุชัดเจนว่า วันไหนคือวันทิ้งขยะเผาได้ วันไหนคือวันสำหรับการทิ้งขยะเผาไม่ได้ วันทิ้งขวดน้ำ กระป๋อง เป็นต้น
พื้นที่สาธารณะก็จะมีถังขยะหลายประเภทวางเอาไว้ เพื่อให้ประชาชนได้แยกขยะ ตอนที่ผมเข้าเรียนมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่น ผมก็จำได้ว่า การสอนให้แยกขยะคือเรื่องแรก ๆ ที่มหาวิทยาลัยสอนผม เค้าให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากจริง ๆ ครับ
4. หัวใจบริการ
“เคยมั้ยที่เดินออกจากร้าน พนักงานออกมาส่งถึงหน้าร้าน
ไปเข้าพักที่โรงแรม ตอนออกจากโรงแรมพนักงานยืนส่งจนลับสายตา”
ผมเคยเอาเรื่องราวประทับใจเกี่ยวกับการบริการของพนักงานประเทศญี่ปุ่นมาเล่าให้ฟังในเพจ JapanSalaryman อยู่บ่อยครั้ง เพราะรู้สึกว่านี่คือเอกลักษณ์อย่างหนึ่งของญี่ปุ่นที่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกประทับใจ และอยากกลับมาเที่ยวญี่ปุ่นอีกครั้ง
เบื้องลึกที่ทำให้คนญี่ปุ่นมีหัวใจบริการ มาจากวิธีคิดหลายอย่าง ดังต่อไปนี้
- มีวิธีคิดว่า “ลูกค้าคือพระเจ้า” ทำให้พนักงานที่ทำงานบริการจะดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้ามีความพึงพอใจ พนักงานจะใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ลูกค้าเข้าร้าน การให้บริการลูกค้า และส่งลูกค้า นั่นทำให้ฝั่งลูกค้ารู้สึกว่า ได้รับการดูแลเป็นพิเศษ อยู่ในฐานะคนสำคัญ
- ในอุตสาหกรรมการให้บริการ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร มีการแข่งขันค่อนข้างสูง ทำให้ผู้ประกอบการส่วนใหญ่พยายามพัฒนาการให้บริการให้เหนือกว่าคู่แข่ง ทำให้ผลประโยชน์ตกอยู่กับผู้บริโภค
- งานคือเรื่องสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของชีวิตคนญี่ปุ่น เมื่อเทียบกับเรื่องอื่น ๆ ในชีวิต ถ้าเพื่อน ๆ ติดตามดูละครจากประเทศญี่ปุ่นจะสังเกตได้ว่า ละครแนวคนทำงานจะมีเยอะมาก เช่น ละครเกี่ยวกับทนายความ, ตำรวจ, บอดี้การ์ด, แพทย์ผ่าตัด, Concierge คอนเซียส เจ้าหน้าที่อำนวยความสะดวกและคอยช่วยเหลือลูกค้าในโรงแรม เป็นต้น ซึ่งนั่นสะท้อนให้เห็นว่าคนญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องงานจริง ๆ
ทั้งหมดนี้ทำให้งานบริการในประเทศญี่ปุ่นค่อนข้างโดดเด่นเมื่อเทียบกับงานบริการของประเทศอื่น ๆ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ช่วยดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวต่างชาติอยากไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วย
5. เรื่องน่าแปลกใจอื่น ๆ จากเพื่อน ๆ
ผมได้มีโอกาสถามเพื่อน ๆ ในเพจ JapanSalaryman ว่ามีเรื่องน่าตกใจ ประทับใจ แปลกใจอะไรมั้ยเมื่อไปในประเทศญี่ปุ่น เพื่อน ๆ ได้แชร์ประสบการณ์หลายอย่างที่น่าสนใจมาก ผมจึงขอคัดเลือกมาเล่ากันในที่นี้ด้วย
- ประทับใจเวลาคนเดิมข้ามทางม้าลาย แล้วรถหยุดให้ไม่บีบแตรไล่
- ฟุตบาทเรียบ ไม่มีกระเบื้องกระดก ช่วยให้เดินปลอดภัย
- เมื่อมีการซ่อมถนน หรือการทำถนน จะเห็นพนักงานอำนวยความสะดวกเสมอ บางจุดมีพนักงานโบกรถมากกว่า 2 คน
- ห้องน้ำในญี่ปุ่นที่มีปุ่มให้กดเยอะไปหมด
- เสียงของพนักงานเวลาต้อนรับลูกค้า “อิรัชชัยมาเสะ” แข็งขันมาก
- พยากรณ์อากาศแม่นยำมาก
- มนุษย์เงินเดือนญี่ปุ่นชอบซ้อมวงสวิงกอล์ฟ หรือตีเบสบอลอากาศ ทั้ง ๆ ที่ยืนอยู่ในที่สาธารณะ (ผมก็เคยเห็นอยู่บ่อย ๆ นะ)
- คนญี่ปุ่นกินเร็ว เดินเร็วมาก
ทั้งหมดนี้คือเรื่องน่าแปลกใจสำหรับคนต่างชาติเมื่อไปที่ญี่ปุ่น ซึ่งทั้ง 5 ข้อที่ว่านี้เป็นเพียงไม่กี่ตัวอย่างเท่านั้นจากประสบการณ์อีกร้อยพันอย่างที่คนไปเที่ยวญี่ปุ่นได้เจอ
สำหรับผม..ทุกครั้งที่ก้าวเท้าเข้าสู่ประเทศญี่ปุ่นทั้งในฐานะนักศึกษา คนทำงาน หรือนักท่องเที่ยวผมได้เจอประสบการณ์ใหม่ ๆ ทุกครั้ง ทำให้ไม่เคยรู้สึกเบื่อ และรู้สึกว่าอยากไปญี่ปุ่นอีกเรื่อย ๆ เพื่อน ๆ คนไหนที่อ่านบทความนี้และยังไม่เคยไปญี่ปุ่น ผมขออวยพรให้ได้ไปเยือนญี่ปุ่นสักวันหนึ่ง และขอให้เจอประสบการณ์ที่ดีกลับมาเหมือนผมนะครับ
Reference :
1. รายงาน Safe Cities Index 2019 สำรวจโดย Economist Intelligence Unit (EIU) ของนิตยสาร The Economist ของประเทศอังกฤษ
https://www.nec.com
2. สาเหตุที่ประเทศญี่ปุ่นมีอาชญากรรมน้อย
https://www.excite.co.jp
3. สาเหตุที่บ้านเมืองญี่ปุ่นสะอาด
https://livejapan.com
4. ทำไมรถไฟชินคันเซ็นญี่ปุ่นถึงตรงเวลา
https://gendai.ismedia.jp
5. ภาพลักษณ์ประเทศญี่ปุ่นในสายตาคนจีน
https://www.jetro.go.jp
บทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
อ่านเพิ่มเติม
krungsri.com
เช็กให้พร้อมก่อนเที่ยวญี่ปุ่น กับ 5 เรื่องที่เราควรรู้
ธนาคารกรุงศรีอยุธยามุ่งมั่นสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงิน เพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน รับผิดชอบต่อสังคม และสนองความต้องการของลูกค้าให้ดีที่สุด
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย