28 พ.ย. 2023 เวลา 06:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

เหตุใดยานยนต์ไฟฟ้าของจีนถึงเจาะตลาดสหรัฐฯได้ยาก แม้มีราคาถูกก็ตาม

อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้ากำลังเติบโตอย่างรวดเร็วทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งยานยนต์ไฟฟ้าของจีน
ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนได้ชนะใจผู้บริโภคหลายล้านคนทั่วโลกด้วยราคาที่ไม่แพง โดยมีมากกว่า 100 ประเทศแล้วที่มีจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน
ในปี 2022 จีนเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเกือบ 60% ของโลก ทั้งรถยนต์ไฟฟ้าแบบแบตเตอรี่และรถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน และจีนกำลังจะกลายเป็นผู้ส่งออกรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลกแทนที่ญี่ปุ่น
ในทำนองเดียวกัน BYD ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดของจีนในปีที่แล้วผลิตรถยนต์ได้ 1.9 ล้านคัน ซึ่งมากกว่า Tesla ของสหรัฐฯที่ 1.4 ล้านคัน
อย่างไรก็ดี แม้ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของจีนจะสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าได้มากกว่าผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของสหรัฐฯ และแม้รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจะสามารถเจาะตลาดได้ในหลายๆประเทศอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ใช่สำหรับตลาดของสหรัฐฯ
แม้รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจะมีราคาที่ถูกและเข้าถึงได้ง่าย แต่พวกเขาไม่สามารถเจาะตลาดกำลังบริโภคสูงอย่างสหรัฐฯได้ ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายตั้งแต่ยุคที่โดนัลด์ทรัมป์ยังดำรงประธานาธิบดี
ตอนนั้นได้มีการกำหนดภาษี 25% สำหรับการนำเข้ารถยนต์สัญชาติจีน ซึ่งนโยบายดังกล่าวก็ยังคงดำเนินต่อมาเรื่อยๆถึงขณะนี้ ทำให้แม้รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจะมีราคาที่ถูกแต่ก็มีภาระเรื่องภาษีนำเข้ามาทดแทนในส่วนนี้ รถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนจึงไม่ได้ราคาถูกเท่าไหร่นักเมื่อเทียบกับราคารถยนต์ไฟฟ้าในประเทศอื่นๆที่จีนไปตีตลาดมาได้
ไม่เพียงเท่านั้นเพราะหากผู้บริโภคสหรัฐฯเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าของผู้ผลิตภายในประเทศ พวกเขาจะได้รับเครดิตซึ่งสามารถนำไปลดหย่อนหลายพันดอลลาร์สหรัฐ ตามเงื่อนไขและข้อกำหนดใหม่ของพระราชบัญญัติลดเงินเฟ้อ ทำให้สามารถประหยัดเงินได้อย่างมากในการซื้อรถ
อย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่ของเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) เกือบทุกรุ่นก็มีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษีเต็มจำนวนถึง 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ
1
ส่วนรถยนต์ไฟฟ้าจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้ารายอื่นๆนั้นจะได้รับเครดิตและนำไปลดหย่อนภาษีได้มากน้อยเพียงใดจะขึ้นอยู่กับว่า ส่วนประกอบของแบตเตอรี่และแร่ธาตุที่นำมาใช้นั้นเป็นไปตามข้อตกลงทางการค้าสำหรับแร่ธาตุที่ใช้ในเทคโนโลยีพลังงานสะอาดระหว่างสหรัฐฯกับญี่ปุ่นมากน้อยเพียงใด ซึ่งข้อกำหนดจะมีการเปลี่ยนแปลงใหม่ทุกๆ 2 ปี
ข้อตกลงทางการค้านี้ทำเพื่อจัดหาเงินอุดหนุนรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ในสหรัฐฯ และเปลี่ยนห่วงโซ่อุปทานพลังงานออกจากจีน
เพราะไม่อาจปฏิเสธความจริงที่ว่าจีนนั้นได้สร้างห่วงโซ่อุปทานที่โดดเด่นและแข็งแกร่งสำหรับแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าและแร่ธาตุที่ใช้ในการผลิต
โดยแค่สองบริษัทด้านแบตเตอรี่รายใหญ่ของจีนอย่าง CATL และ BYD ก็ครองสัดส่วนตลาดแบตเตอรี่ถึง 47% ของโลกแล้ว จึงเป็นที่มาว่าทำไมจีนถึงสามารถผลิตรถยนต์ได้ในราคาที่ถูกกว่าของสหรัฐฯ นั้นก็เพราะว่าพวกเขาสามารถประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale) ได้มากกว่านั่นเอง
1
จากที่กล่าวมา ทำให้สหภาพยุโรปที่ยังคงอัตราภาษีนำเข้าไว้ที่ 10% กลายเป็นตลาดสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีน โดยรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนได้ครองสัดส่วนตลาดอยู่ 8% จาก 1% และอาจเพิ่มได้อีกหากไม่มีมาตรการอะไรมากีดกันในส่วนนี้
2
อย่างไรก็ตาม การกีดกันรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนของสหรัฐฯที่ดูจะไม่เป็นธรรมในมุมมองของจีน ก็ได้กลายเป็นความกังวลถึงความเป็นไปได้ที่เจ้าหน้าที่จีนจะตอบโต้ด้วยอัตราภาษีของตนเอง เพราะอย่างไรจีนเองก็เป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองสำหรับรถยนต์จากผู้ผลิตของสหรัฐฯ
แต่ถึงกระนั้นผู้ร่างกฎหมายและผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ บางคนได้มีการเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของประธานาธิบดีโจไบเดน พิจารณาขยายอัตราภาษีสำหรับรถยนต์จีนเพิ่มเติม แม้จะมีความกังวลเรื่องการตอบโต้ด้านภาษีจากจีนก็ตาม
2
เนื่องจากพวกเขามองว่านี้อาจเป็นแค่ช่วงเวลาก่อนที่ผู้ผลิตของจีนจะสามารถรับภาระภาษีนำเข้าที่ 25% ได้ก็เป็นได้ เพราะอย่างไรในอนาคตต้นทุนของรถยนต์ไฟฟ้าก็มีแต่จะถูกลงนั่นเอง

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา