ทั้ง Howl's Moving Castle (2004), Tales from Earthsea (2006), Ponyo (2008) , Arrietty (2010), The Wind Rises, The Tale of the Princess Kaguya (2014), When Marnie Was There (2014) และ Earwig and the Witch (2020-- แอนิเมชัน 3D เรื่องแรกของสตูดิโอ)
ส่วนแอนิเมชันที่ฮายาโอะ มิยาซากิสร้างเรื่องล่าสุดคือ “The Boy and the Heron” และมิยาซากิบอกว่า นี่เป็นเรื่องสุดท้ายของเขา โดยแอนิเมชันเรื่องนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ปี 2017 เพื่อให้ทันฉายช่วงโอลิมปิก 2020 แต่พึ่งฉายในญี่ปุ่นได้เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2023 ที่ผ่านมา
โทชิโอ ซูซูกิ อธิบายว่า The Boy and the Heron ใช้งบประมาณในการสร้างสูงที่สุด (ไม่มีการเปิดเผย) การที่แอนิเมชันเรื่องนี้เสร็จช้า ส่วนหนึ่งก็มาจากปัญหาสภาพคล่องทางการเงินและสถานการณ์โควิด-19 โดยทางสตูดิโอจิบลิต้องแก้ปัญหาด้วยการให้สตรีมมิงอย่าง Netflix นำแอนิเมชันเกือบทั้งหมดไปฉายเพื่อหาเงินทุน
“ฮายาโอะไม่เคยใช้สมาร์ตโฟน เขาไม่รู้ว่า Netflix หรือสตรีมมิงคืออะไร แต่ความกังวลใจในการสร้างแอนิเมชันเรื่องสุดท้ายของเขาให้สำเร็จนั้นใหญ่กว่า เมื่อผมบอกกับเขาว่า การยอมให้ Netflix นำผลงานไปฉายจะทำให้เรามีทุนไปสร้าง The Boy and the Heron เขาจึงตอบตกลง” ซูซูกิ กล่าว
และเมื่อ เด็กชายกับนกกระสา (The Boy and the Heron) ออกฉาย ก็ไม่ได้ทำให้สตูดิโอจิบลิและแฟน ๆ ผิดหวัง สามารถกวาดคำชื่นชมได้อย่างล้นหลาม ทำรายได้ในญี่ปุ่นไป 7,400 ล้านเยน (1,750 ล้านบาท) กำลังเดินหน้ากวาดรายได้ทั่วโลก และมีข่าวว่า ฮายาโอะ มิยาซากิ อาจเปลี่ยนใจกลับมากำกับผลงานเรื่องใหม่อีกในอนาคตด้วย