28 พ.ย. 2023 เวลา 14:37 • ธุรกิจ

“ A i s t o r y “ …. Ai ไม่ได้มาแทนคน แต่คนใช้ Ai ต่างหากที่มาแทน

Generative Ai คืออะไร? ทำไมถึงโดดเด่นกว่า Ai ทั่วไป
มุมมองความเป็นไปได้ในอนาคต By Techsauce Team
ถึงแม้จะมีกระแสต่อต้านการใช้งาน Al โดยเฉพาะในแวดวงของวิชาการและงานศิลปะ แต่ดูเหมือนว่ามันจะเป็นเทคโนโลยีที่ไม่อาจเลี่ยงได้ในปี 2023 สิ่งที่เราทุกคนควรทำไม่ใช่การหวาดกลัวเพียงอย่างเดียว แต่เราควรที่จะศึกษาเพื่อเตรียมพร้อมในการปรับตัวเมื่อ Al Disruption Age มาถึง วันนี้เราจะชวนคุณทำความเข้าใจ "Generative AI" รวมไปถึงการขบคิดจินตนาการถึงความเป็นไปได้ของ AI ในแง่มุมอื่นๆ
“Ai vs Generative Ai”
Artificial Intelligence (Ai) คือ คำจัดความกว้างๆ ที่หมายถึงเทคโนโลยีที่มีการทำงานอย่างชาญฉลาด ไปจนถึงระบบขั้นสูงที่สามารถเลียนแบบกระบวนการคิดของมนุษย์ได้ เช่น การคิดคำนวน การวิเคราะห์ข้อมูล ผ่านกระบวนการเทรนด์ชุดข้อมูลขนาดใหญ่ต่างๆ ที่ซับซ้อนด้วยโมเดล Machine learning algorithm ทั่วไป
ในทางกลับกัน Generative Ai (Gen-Ai) คือ Ai ที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะให้มีความสามารถในการ "สร้างใหม่" จากชุดข้อมูลที่มีอยู่ ด้วยอัลกอริทึมแบบ Generative Model เช่น Generative adversarial network: GANs), Variational autoencoders:VAEs, Autoregressive models โดยสามารถนำมาใช้งานหลากหลาย เช่น การสร้างภาพ การประมวลผล การสร้างเสียงดนตรี
ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัดอย่าง DALL-E Ai Text-to-image ที่สามารถสร้างรูปภาพจากคำสั่ง (prompt) โดยที่รูปนั้นเป็นผลงานชิ้นใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นของตัวเอง หรือ ChatGPT AI Chatbot ที่ตอบคำถามเราอย่างเป็นธรรมชาติ และลื่นไหล
กล่าวง่ายๆ การสร้างเนื้อหาขึ้นใหม่จากข้อมูลที่มีอยู่ คือ นิยามสั้นๆ ของ Gen-Ai หรือสังเกตง่ายๆ ผลลัพธ์ไม่ว่าจะเป็นข้อความ รูปภาพ หรือเพลง จาก Gen-Ai จะแตกต่างกันไปตามข้อมูลที่เราป้อนเข้าไป (prompt) นั่นเอง
หากถามว่าต่างจาก Traditional Ai (TAI) แบบเดิมที่ถนัดด้านการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างไร ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ คือ TAI เป็นสมองซีกซ้ายส่วน Gen-Ai เป็นสมองซีกขวาที่ฤนัดเรื่องความคิดสร้างสรรค์ ด้วยศักยภาพของการประมวลเชิงลึกที่แม้แต่มนุษย์เองก็ไม่สามารถคิดลึก ครอบคลุมไปยังทุกแง่มุมเท่า
โครงสร้าง Deep Learning ได้รับการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องตามวัตถุประสงค์ต่างๆ อีกทั้งความก้าวหน้าของ GPU และความพร้อมใช้งานของ Cloud Computing ทำให้นักพัฒนาสามารถเทรนด์โมเดลขนาดใหญ่รวดเร็วกว่าที่เคยเป็นมา นำไปสู่ผลลัพธ์
หลายอย่างที่น่าทึ่ง
การใช้ Generative Ai ในชีวิตจริง
อย่างที่เราทราบกันแล้วว่าหลายอาชีพนำ Gen-Ai บางตัวมาในชีวิตประจำวันแล้ว โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ในหลายกรณี ศิลปินทำงานร่วมกับเทคโนโลยี ผลักขอบเขตจินตนาการ สร้างไอเดียใหม่ที่อาจไม่สามารถทำได้หากไม่มีการใช้ Ai บางความเห็นกลับชอบใจเพราะ Gen-Ai ผลิตเนื้อหาที่สละสลวยอย่างรวดเร็วเพียงคลิก แถมปรับปรุงคุณภาพของ
เนื้อหาที่สร้างขึ้นได้โดยอัตโนมัติ ประหยัดเวลาให้เราไปโฟกัสกับส่วนด้านอื่นได้มากขึ้น เพื่อที่จะได้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น Content Creator
สำนักข่าว CNET ทดลองใช้ Ai ช่วยเขียนข่าวและบทความเชิงลึกมาเป็นระยะเวลาหลายเดือน ถึงแม้การกระทำนี้จะได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ถึงเรื่องความเหมาะสมแต่นี่ก็เป็นตัวอย่างการใช้งานที่ทำให้เห็นว่า Ai มีประสิทธิภาพมากแค่ไหน
Coding Github Copilot ตัวช่วยในการเขียนโค้ดสำหรับนักพัฒนาที่ใช้ Codex ของ OpenAi ทำให้เขียนโค้ดได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น สำหรับราคาการใช้งานเริ่มต้นที่เดือนละ 10 เหรียญ
Lawtech DoNotPay บริษัทสตาร์ทอัพเทคทางด้านกฎหมายที่มีทนายโรบอทช่วยเขียนและให้บริการทางด้านกฎหมาย ทำให้ผู้บริโภคมีตัวเลือกการใช้บริการกฎหมายในราคาที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น โดยล่าสุด Joshua Browder, CEO ของ DoNotPay ทวีตว่าจะจ่ายเงินจำนวน 1 ล้านดอลล่าห์ให้ทนายหรือใครก็ตามที่กล้า
ใช้ทนายโรบอทในการว่าความในศาลสูงสุดสหรัฐ โดยใส่ Air Pods แล้วพูดตามที่ Ai บอกแบบคำต่อคำ ซึ่งถือว่าเป็นก้าวสำคัญของการใช้เทคโนโลยี Ai กับกฎหมาย
Ai ในปี 2023 และในอนาคต
หลายสำนักต่างพูดกันว่า ปีนี้จะเป็นปีของ Ai อย่างเต็มรูปแบบ ถึงแม้ว่า Ai จะมีมาหลายปีแล้ว จนกระทั่งกระแสของ NVIDIA, GET3D, Midjourney หรือ DALL-E และ ChatGPT ที่เกิดขึ้นในช่วงปีที่ผ่านมา บางคนก็เปรียบเทียบว่าการเกิดขึ้นของ AI ให้อารมณ์เหมือนการเกิดขึ้นครั้งแรกของสมาร์ทโฟนหรือ อินเตอร์เน็ต
มองในอุตสาหกรรมอื่นๆ Ai นั้นผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดกระจายตัวไปในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของ ศิลปะ ธุรกิจ งานเขียน Coding วิทยาศาสตร์ กฎหมายและอื่นๆ อีกมากมาย สิ่งเหล่านี้ซื้ให้เราเห็นได้อย่างชัดเจนว่า Ai มาแน่และการพัฒนาก็จะรวดเร็วมากในแบบที่เราคาดไม่ถึง นำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานในหลายๆ งาน
แน่นอนว่าสิ่งที่ตามมา คือ เม็ดเงินที่ไหลเข้ามายังลงทุนในเทคโนโลยีนี้ ยิ่งกระตุ้นให้เกิดการการพัฒนาเป็นเท่าตัว นี่ยังไม่รวมถึงประเทศอื่นๆ ที่ต้องตื่นตัวและหันลงมาเล่นในสนามนี้โมเดลสร้างรายได้จาก Gen-Ai
ปัจจุบันมีการให้สิทธิ์ใช้งานเทคโนโลยีแก่บริษัทหรือองค์กรอื่นๆ ที่สามารถใช้เพื่อปรับปรุงผลิตภัณฑ์หรือบริการสร้างโซลูชันที่ใช้ประโยชน์จากความสามารถของAI และขายให้กับลูกค้าโดยตรง เปิดให้คนเข้าถึงระบบ AI ผ่านบริการสมัครสมาชิก ตลอดจนการขายผลลัพธ์ที่ได้จากการเจเนอเรท เช่น รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อความที่สร้างขึ้น
หลังจากนี้ เราจะเห็นกาเปลี่ยนแปลงสำคัญในโลกอันเป็นผลมาจาก Ai และข้อมูล ในกรณีที่ดีที่สุดอาจไปถึงขั้นที่สามารถหาทางรักษาโรคที่ปัจจุบันยังรักษาไม่ได้ หรือค้นพบคำตอบที่เราไม่อาจคิด พูดง่ายๆ Generative Ai ณ ปัจจุบัน คือ เป็นเพียงจุดเริ่มต้น
เหรียญมีสองด้านเสมอ
ถึงแม้ความสามารถของ Generative Ai น่าประทับใจก็จริง แต่ก็ทำให้เกิดคำถามสำคัญเกี่ยวกับอนาคตของงานและบทบาทของมนุษย์ เราลองมาคิดถึงเหรียญอีกด้านเจ้า Generative Ai ว่าจะส่งผลกระทบอย่างไรได้บ้าง เพื่อคำอธิบายที่ต่อเนื่องจากก่อนหน้านี้ เรามาลองให้ ChatGPT ตอบคำถามดูว่า เจ้าตัวนั้นมอง
ด้านมืดของตัวเองอย่างไรบ้าง
“Tell me the dark side of an Ai”
There are several potential downsides or "dark sides" of Ai, including:
1. Job displacement: As AI becomes more advanced, it may be able to perform tasks that
were previously done by humans, leading to job loss and unemployment.
2. Bias and discrimination: AI systems can perpetuate and even amplify biases that exist in
the data they are trained on. This can lead to discriminatory outcomes and perpetuate
societal inequalities.
3. Lack of transparency: Some AI systems, particularly those using deep learning methods,
can be difficult to understand and interpret, making it hard to understand how they
arrived at a decision.
4. Security risks: AI systems can be vulnerable to hacking or other malicious attacks, which
could have serious consequences.
5. Autonomy and control: As AI systems become more autonomous, there are questions
about who is responsible for their actions and how to ensure they are used ethically.
6. Privacy concerns: With the increasing amount of data being collected by AI systems,
there are concerns about how this data is being used and protected.
7. Singularity: Many experts are concerned about the possibility of a point in the future
where AI becomes so advanced that it is able to improve itself rapidly, leading to a
potential loss of control over the technology.
8. Weaponization: AI could be used in weapon systems and military operations, raising
ethical concerns about the use of autonomous weapons and the potential loss of human
control over their actions.
G Regenerate response
ㆍการแย่งงาน - ถ้า AI มีการพัฒนามากขึ้นจนถึงระดับที่จะมาแทนที่งานมนุษย์ได้ก็จะเกิดปัญหาการแย่งงานตามมา
ㆍอคติและการเลือกปฏิบัติ - AI ศึกษาและเทรนตามข้อมูลจากมนุษย์ ปัญหาที่ตามมาก็คือข้อมูลมนุษย์บางส่วนมีเรื่องของอคติ การเหยียดหรือการเลือกปฏิบัติ ทำให้ AI ก็ไม่ต่างจากมนุษย์ในแง่นี้
ㆍ ความโปร่งใส - บางโมเดลอย่าง Deep learning ทำให้เราไม่รู้ว่าทำไม AI ถึงให้คำตอบแบบนั้น
ㆍ ความปลอดภัย - Al อาจจะมีช่องโหว่และสามารถถูก
hack ได้
การควบคุม - ถ้า A! ทำเรื่องผิดกฎหมายหรือผิดจริยธรรม ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบ
ㆍ ความเป็นส่วนตัว - ขนาดของข้อมูลที่ใช้เทรน AI เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเป็นเรื่องน่ากังวลสำหรับข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ต
ㆍ การตื่นรู้ - ผู้เชี่ยวชาญหลายคนกังวลเกี่ยวกับอนาคตที่ AI พัฒนาจนไปถึงขั้นตื่นรู้และพัฒนาตัวเองได้โดยไม่ต้องผ่านการอนุญาตหรือการควบคุมจากมนุษย์
ㆍ ใช้เป็นอาวุธ - Al อาจจะถูกนำไปใช้เป็นอาวุธในเชิงการทหารหรือการรบของมนุษย์ แน่นอนว่าสิ่งที่น้องเขาบอกมันเป็นไปได้และน่าสนใจแต่ผู้เขียนก็มีความคิดเห็นเพิ่มเติมในบางมุมมอง ดังนี้
ㆍ การเมือง เช่นเดียวกับกรณีที่เคยเกิดขึ้นไปแล้วอย่าง
Cambridge Analytica อนาคตมีความเป็นไปได้ที่จะกลับมามีการใช้งานเพื่อสร้างผลประโยชน์ให้กับคนบางกลุ่ม รวมไปถึงอาจจะมีการสอดส่องและวิเคราะห์ข้อมูลของประชาชน สงครามข้อมูลและสื่อ ทุกวันนี้มีการใช้อัลกอริทีม ในการเก็บข้อมูลและหาวิธีการที่จะยิงโฆษณาให้ได้มากที่สุดและตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น รวมถึงการโน้มน้าวผ่านสื่อออนไลน์ในหัวข้อต่างๆ ก็จะเป็นไปได้ง่ายขึ้นผ่านการใช้งาน Al แค่คิดก็สยองแล้ว ขายตรงโดย AI
สุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้อนาคตและคงมองไม่ออกว่า Al จะพัฒนา และถูกใช้งานไปทางไหน แม้แต่ CEO ของบริษัท OpenAI อย่าง Sam AIltman ยังกล่าวว่า "นี่เป็นครั้งแรกที่เทคโนโลยี Ai นี้ถูกใช้งานโดยคนทั่วไป"
เหมือนตอนยุคเริ่มต้นของอินเตอร์เน็ตผู้คนก็ไม่คิดว่าเราจะดูเบสบอลสดๆ จากที่ไหนก็ได้ หรือใครจะไปคิดว่าโทรศัพท์มือถือ เครื่องใหญ่โตจะใส่ในกระเป๋ากางเกงได้แถมยังใช้งานสารพัดประโยชน์จนใครก็ต้องมีมัน แล้ว Al ล่ะ จะไปได้ไกลแค่ไหน?
รวบรวมข้อมูลจาก
What is generative AI, and why is it suddenly everywhere?
How Generative Al Is Changing Creative Work
Generative Al is changing everything. But what's left when the hype is gone?
#GenerativeAi
สิ่งที่หลายคนกังวลกันเรื่อง ai
อาจรู้สึกปลอดภัยขึ้น เมื่อได้ฟังแนวทางคำพูดนี้
จากคุณธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์
กรรมการผู้จัดการใหญ่
ของบริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566
”ต้องมีความรับผิดชอบใน Ai
Ai ต้องไม่ใช่ auto-pilot
แต่เป็น co-pilot และต้องมีกฎหมายกำกับ “
ฟังแล้วชื่นชม ชื่นใจกับคนเก่งๆ ที่เป็นคนไทย
โฆษณา