จีน เผยแพร่เอกสารชื่อ "วิสัยทัศน์และแนวปฎิบัติเพื่อความร่วมมือหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทางคุณภาพสูง : อนาคตที่สดใสยิ่งขึ้นในทศวรรษหน้า" (Vision and Actions for High-Quality Belt and Road Cooperation: Brighter Prospects for the Next Decade) ซึ่งมีการระบุประเด็นสำคัญและทิศทางสำหรับความร่วมมือ “หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง” ในอีก 10 ปีข้างหน้า (ปี 2566 - 2576) ไว้หลากหลายด้าน
สำนักข่าว Global Times รายงานว่า โครงการริเริ่ม หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (BRI) ที่เสนอโดยจีน ได้อัดฉีดโมเมนตัมการเติบโตใหม่ให้กับเศรษฐกิจโลกและสร้างพื้นที่กว้างใหญ่สำหรับการพัฒนาระดับโลก ซึ่งเชื่อว่าโครงการริเริ่มดังกล่าวจะนำผลประโยชน์มาสู่ประเทศหุ้นส่วนผ่านวิสัยทัศน์และแผนปฏิบัติการที่เพิ่งเปิดตัวสำหรับการพัฒนา BRI ในทศวรรษหน้า
Wang Peng ผู้ร่วมวิจัยจาก Beijing Academy of Social Sciences กล่าวว่า จะมีโอกาสสำหรับความร่วมมือด้านดิจิทัลระหว่างจีนและประเทศหุ้นส่วน BRI เข้ามามากมาย เนื่องจากจีนมีประสบการณ์ที่กว้างขวางในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลและการพัฒนาดิจิทัล นอกจากนี้ ยังมีอุตสาหกรรมดิจิทัลอยู่จำนวนมากในเวลาเดียวกัน พร้อมเสริมว่า "ในแง่ของ AI จีนและพันธมิตร BRI สามารถเสริมสร้างความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนเกี่ยวกับการกำกับดูแลกฎเกณฑ์ของ AI ตลอดจนทำการวิจัย รวมถึงพัฒนาเทคโนโลยี AI ร่วมกันได้"
ความเคลื่อนไหวของจีนแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับแนวทาง "Small yard, High fence” หรือ กลยุทธ์ปกป้องสินทรัพย์เชิงกลยุทธ์ โดยไม่สูญเสียผลประโยชน์ในวงกว้างที่ได้รับจากพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญของโลกตะวันตก ที่นำโดยสหรัฐฯ ในการกั้นตัวเองออกจากความร่วมมือระดับโลก Bao Jianyun ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาเศรษฐกิจการเมืองระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยเหรินหมินแห่งประเทศจีน (Renmin University of China) กล่าวทิ้งท้าย