⚠️ วิเคราะห์การประชุม กนง. : แบงก์ชาติส่งสัญญาณชัดเจน “ดิจิตอลวอลเล็ต” มีแต่พังกับพัง ‼️
ตอนแรกนิคกี้กะว่าจะไม่เขียนเรื่องผลการประชุมของ กนง. เพราะคงดอกเบี้ยตามคาดเป๊ะๆ แต่พอมาดูการคาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจจากทางแบงก์ชาติแล้ว กลับพบว่ามีสัญญาณที่แรงมากๆจากจากแบงก์ชาติว่านโยบายดิจิตอลวอลเล็ตมีแต่ “พังกับพัง” นั่นเองค่ะ เลยต้องมาวิเคราะห์สิ่งที่แบงก์ชาติไม่กล้าบอกตรงๆ (แต่น่าจะอยากบอก) ให้แฟนเพจได้อ่านกันค่ะ
ความผิดปกติของการคาดการณ์ในรอบนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 ข้อค่ะ
1️⃣ แบงก์ชาติมีแบ่งตัวเลขคาดการณ์ GDP ของปี 67 และ 68 เป็น 2 แบบคือ ทั้งแบบที่ไม่รวม Digital Wallet และแบบที่รวม Digital Wallet ซึ่งนับเป็นสัญญาณว่าแบงก์ชาติเองก็ยังไม่เชื่อว่านโยบายนี้จะออกมาได้จริงๆ เพราะน่าจะขัดกับวินัยการคลัง
2️⃣ ตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของ GDP ในปี 67 แบบที่มี DW สูงกว่าแบบไม่มี DW (3.8% vs 3.2%) แต่ว่าประเด็นอยู่ที่ปี 68 ค่ะ เพราะ GDP ปี 68 แบบที่มี DW กลับต่ำกว่าแบบไม่มี DW (2.8% vs 3.1%) สะท้อนว่านโยบาย DW จะทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นในปีนี้เท่านั้น และหลังจากนั้นจะเป็นผลเสียต่อเศรษฐกิจนั่นเองค่ะ
3️⃣ ส่วนข้อสุดท้ายเป็นสิ่งที่เราต้องคำนวณกันต่อเองค่ะ (เดี๋ยวนิคกี้จะแนบตารางไว้ให้ดูในคอมเม้นนะคะ)
เรามาเริ่มกันที่ GDP ของไทยปี 2565 กันก่อนค่ะ เพราะว่าของปีนี้ยังไม่ออก เราจะพบว่า GDP ของไทยในปี 65 อยู่ที่ประมาณ 17,367.3 พันล้านบาท หรือ 17.3 ล้านล้านบาท (ข้อมูลจากสภาพัฒน์) ขณะที่การคาดการณ์การเติบ GDP ของไทยปี 2566 ล่าสุดจากทางแบงก์ชาติอยู่ที่ 2.4% เท่ากับว่า GDP ของไทยปี 66 จะอยู่ที่ประมาณ 17,784.1 พันล้านบาท หรือ 17.7 ล้านล้านบาท
เรื่องที่น่าสนใจจะอยู่หลังจากนี้ค่ะ เพราะส่วนต่างระหว่างการเติบโตของ GDP ปี 67 ระหว่างไม่รวม DW กับรวม DW อยู่ที่ +0.6% ซึ่งถ้าเราเอามาคิดเป็นตัวเงินโดยอ้างอิงจากตัวเลข GDP ปี 2566 ที่คำนวณมา จะพบว่าถ้ามีนโยบาย DW เศรษฐกิจไทยจะเติบโตสูงขึ้น 106.704 พันล้านบาท หรือคิดเป็น 1.06 แสนล้านบาทค่ะ
ขณะที่ปี 2568 กลับน่าสนใจยิ่งกว่าคือ ส่วนต่างของการเติบโตของ GDP อยู่ที่ -0.3% ซึ่งถ้าเราคิดโดยอ้างอิงจากตัวเลข GDP ปี 2566 เหมือนเดิม จะเท่ากับว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2068 จะเติบโตลดลง 53.352 พันล้านบาท หรือ 5.3 หมื่นล้านบาทนั่นเองค่ะ
ดังนั้นเท่ากับว่าเมื่อรวมส่วนต่างการเติบโตระหว่างมี DW กับไม่มี DW จะอยู่ที่ +53.352 พันล้านบาท หรือ 5.3 หมื่นล้านบาท หรือพูดง่ายๆก็คือ ถ้ามีการออกนโยบาย DW ได้จริง เศรษฐกิจจะเติบโตสูงขึ้น 5.3 หมื่นล้านบาทในช่วง 2 ปีข้างหน้านั่นเองค่ะ
⚠️ แต่สิ่งที่น่าสนใจสุดๆคือ เราจะต้องใช้เงินถึง 5 แสนล้านบาทในการออกนโยบาย Digital Wallet แต่ตอนนี้แบงก์ชาติกลับบอกเราว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตสูงขึ้นเพียง 5.3 หมื่นล้านบาทเท่านั้น ถ้าคิดเลขแบบลวกๆคือ ต่างกับเกือบ 10 เท่า!!
และเมื่อดูจากผลกระทบของนโยบาย Digital Wallet ในปี 2568 จะแบงก์ชาติที่บอกว่าจะทำให้เศรษฐกิจเติบโตน้อยลง แสดงว่าแบงก์ชาติเชื่อว่าหลังจากนั้นผลกระทบจากนโยบายนี้จะหมดไป (จริงๆอาจมองถึงขึ้นเป็นตัวถ่วง) หลังจากปี 2568 อีกด้วยนั่นเองค่ะ
🆘 เงิน 5 แสนล้านมาจากการกู้โดยการออกพันธบัตร
ข้อสุดท้ายที่ต้องอย่าลืมคือ รัฐบาลจะหาเงิน 5 แสนล้านมาจากการกู้โดยการออกพันธบัตร ซึ่งแน่นอนว่าต้องเสียดอกเบี้ยนั่นเองค่ะ ซึ่งตรงนี้เองนิคกี้สมมติให้รัฐบาลออกพันธบัตรอายุ 10 ปี โดยถ้าอ้างอิงจากอัตราดอกเบี้ยในปัจจุบันจะอยู่ที่ประมาณ 2.96% (ตอนออกจริงอาจสูงกว่านี้อีกเพราะ crowding out effect) ดังนั้นเท่ากับว่านอกจากรัฐบาลต้องกู้เงิน 5 แสนล้านบาทแล้ว แต่ทุกๆปีรัฐบาลจะต้องจ่ายดอกเบี้ยอีก 14.8 พันล้านบาท หรือ 1.4 หมื่นล้าน และนิคกี้ย้ำว่านะคะว่าต้องจ่ายทุกปี
ดังนั้นถ้าเราเอาตัวเลขทั้งหมดมาปะติดปะต่อกันแล้วจะพบว่า ใน 2 ปีข้างหน้า นโยบาย Digital Wallet จะทำให้เศรษฐไทยโตขึ้น 5.3 หมื่นล้านบาท และผลบวกน่าจะหมดลงหลังจากนั้น ขณะที่ไทยจะเป็นหนี้ทันที 5 แสนล้านบาท และต้องจ่ายดอกเบี้ยทุกปี อีกปีละ 1.4 หมื่นล้านบาทนั่นเองค่ะ (แค่จ่ายเฉพาะดอกเบี้ยอย่างเดียว 5 ปี ก็มากกว่า GDP ที่จะได้เพิ่มเติมจาก Digital Wallet แล้ว)
โดยสรุปแล้วถ้าอ้างอิงจากตัวเลขคาดการณ์ของแบงก์ชาติ นิคกี้บอกได้เลยว่าแบงก์ชาติส่งสัญญาณชัดเจนว่านโยบาย Digital Wallet มีแต่พังกับพังนั่นเองค่ะ ซึ่งผลตรงนี้ยังไม่ได้รวมผลกระทบทางอ้อมจากการถูก downgrade rating ของประเทศไทยอีกด้วยค่ะ
ปล. ตัวเลขทั้งหมดนี้มาจากทั้งแบงก์ชาติและสภาพัฒน์นะคะ นิคกี้แค่เอามาวิเคราะห์ให้อ่านกันว่าตัวเลขนี้สะท้อนอะไรบ้างค่ะ
Source: BOT, สภาพัฒน์
#เศรษฐกิจ #การเงิน #ลงทุน #กองทุน #มือใหม่ #ข่าวเศรษฐกิจทั่วโลก #ข่าวทั่วโลก #หุ้น #กองทุนรวม #ดอกเบี้ย #นักลงทุน #GDP #Recession #เศรษฐกิจถดถอย #วิกฤติเศรษฐกิจ #วิกฤติ #ดิจิตอลวอลเล็ต #DigitalWallet #ธปท #กนง #แบงก์ชาติ #รัฐบาล
- 32
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
