Personal Color Analysis การวิเคราะห์สีประจำตัว ที่หลายคนยอมจ่ายเงิน เพื่อหาสีที่ใช่สำหรับตัวเอง
รู้หรือไม่ว่าปัจจุบัน การเช็ก Personal Color หรือสีประจำตัว ที่เหมาะกับโทนสีผิวของเรา กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก
จนเป็นจุดเริ่มต้นให้หลาย ๆ คน ลงทุนไปลงคอร์สเรียนเกี่ยวกับ Personal Color และออกมาเปิดโรงเรียนที่รับให้คำปรึกษา และวิเคราะห์เกี่ยวกับเรื่องสีประจำตัว เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ
ที่น่าสนใจก็คือ การเป็นนักวิเคราะห์สีประจำตัว หรือ Personal Color Analyst เป็นหนึ่งในอาชีพที่มีรายได้สูง โดยสามารถทำรายได้ ได้ครั้งละหลายพันบาท หรืออาจสูงถึงหลักหมื่นบาทเลยทีเดียว
การทำ Personal Color Analysis น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนเกิร์ลจะเล่าให้ฟัง
Personal Color Analysis คือ การวิเคราะห์สีประจำตัว ที่เหมาะกับโทนสีผิวของตัวเองมากที่สุด ซึ่งเป็นหนึ่งในตัวช่วยเรื่องการเสริมความงาม ที่ถูกคิดค้นมาแล้วหลายทศวรรษ
โดยการวิเคราะห์สีประจำตัว มีรากฐานมาจาก “ทฤษฎี Four-Season Color” หรือการแบ่งผู้คนออกเป็น 4 ฤดูกาล เพื่อจำแนกว่าโทนสีใดที่เหมาะกับแต่ละคนมากที่สุด
ซึ่งก่อนหน้านี้ การวิเคราะห์สีประจำตัว เคยเป็นที่นิยมในอุตสาหกรรมความงาม ช่วงยุค 70-80 มาก่อน
และในช่วงปีนี้ การวิเคราะห์สีประจำตัว ก็กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะบนแอปพลิเคชัน TikTok ที่เต็มไปด้วยฟีเชอร์ให้ผู้ใช้งานได้ลองเล่น เพื่อวิเคราะห์ว่าสีไหนที่น่าจะเป็นสีประจำตัวของเรา
โดยข้อดีของการรู้สีประจำตัวของตัวเอง จะทำให้เรารู้ว่า สีไหนที่มาอยู่บนใบหน้าหรือตัวของเราแล้ว จะช่วยเสริมบุคลิก ขับให้เราโดดเด่นและมีออราเป็นพิเศษ
สามารถนำผลลัพธ์ของโทนสีที่ได้ ไปปรับใช้กับโทนสีของเสื้อผ้า, เครื่องสำอาง, สีผม, สีลิปสติก ไปจนถึงสีของเครื่องประดับ เพื่อเสริมบุคลิกภาพและการแต่งตัวของเรา ให้ดูดีขึ้นได้อีกด้วย
ส่วนขั้นตอนในการวิเคราะห์ ก็จะแตกต่างกันไปในแต่ละที่ แต่มักจะเริ่มจากการนำผ้าหลายเฉดสี มาวางบนไหล่ และค่อย ๆ เปิดผ้าทีละชิ้น เพื่อเทียบสีให้ลูกค้าเห็นชัด ๆ ว่าสีไหนที่เหมาะ และสีไหนไม่เหมาะ จนได้พาเลตสีของตัวเองในที่สุด
เรียกได้ว่า การวิเคราะห์สีประจำตัว เป็นหนึ่งในศาสตร์ความงาม ที่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเราให้ดูดีขึ้น ถึงขั้นที่เสื้อบางสี อาจจะทำให้หน้าดูเด็กลงได้เลย
เรื่องนี้ส่งผลให้ผู้ที่ต้องมีภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือ และดูดีอยู่เสมอ เช่น เจ้าของธุรกิจ, นักการเมือง ไปจนถึงผู้บริหารหลายคน นิยมเช็กสีประจำตัวของตัวเองกันอย่างจริงจัง
จนปัจจุบัน มีสถาบันที่เปิดสอนด้านการวิเคราะห์สีประจำตัว ผุดขึ้นมาเรื่อย ๆ ทั่วโลก
แต่รู้หรือไม่ว่า ประเทศเกาหลีใต้ เป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียง เรื่องการวิเคราะห์สีประจำตัวมากที่สุด จนกลายเป็นหมุดหมายสำคัญ ของนักท่องเที่ยวต่างชาติจากทั่วทุกมุมโลก
ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะเกาหลีใต้ เป็นประเทศที่โด่งดังในเรื่องความงาม และการจัดการภาพลักษณ์ของเหล่าเซเลบริตี ให้ออกมาดูดีอยู่เสมอ จนทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ
ซึ่งราคาสำหรับการวิเคราะห์สีประจำตัว ในประเทศเกาหลีใต้ จะอยู่ที่ราว ๆ 3,000-6,000 บาทต่อครั้ง โดยใช้ระยะเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
โดยคุณ Baek นักวิเคราะห์สีประจำตัวของ Color Society ที่โด่งดังในเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เธอได้วิเคราะห์สีประจำตัวให้กับลูกค้าไปแล้วกว่า 470 ราย
หากลองคิดคร่าว ๆ จากราคาขั้นต่ำ คุณ Baek จะสามารถทำเงินได้มากกว่า 1.4 ล้านบาทในเดือนนั้น เลยทีเดียว
นอกจากนี้ บางบริษัทในเกาหลีใต้ ก็เริ่มขยายกลุ่มลูกค้าจาก B2C เป็น B2B มากขึ้น เช่น Korea Fashion Psychology Institute ที่มีการเสนอแพ็กเกจให้แบรนด์หรูหลายแบรนด์ จัดกิจกรรมเวิร์กช็อปเกี่ยวกับการวิเคราะห์สีประจำตัว สำหรับลูกค้า VIP โดยเฉพาะ
เรียกได้ว่า ธุรกิจเกี่ยวกับการวิเคราะห์สีประจำตัวในเกาหลีใต้ กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก จนองค์กรการท่องเที่ยวของประเทศเกาหลีใต้ ถึงขั้นนำธุรกิจนี้มาช่วยโปรโมต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศ
ส่วนในประเทศไทย ก็มีทั้งคอร์สเรียน และแบรนด์ที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการวิเคราะห์สีประจำตัวเช่นกัน โดยมีราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลักพัน ไปจนถึงหลักหมื่นบาท ขึ้นอยู่กับประเภทของการเรียน
ต้องบอกว่าปัจจุบัน นักวิเคราะห์สีประจำตัว เป็นหนึ่งในอาชีพที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก ถึงขั้นที่บางคนคืนทุนอย่างรวดเร็ว จากการลงคอร์สเรียนหลักแสนถึงหลักล้านบาท
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะลูกค้าหลายคนมองว่า มันคือการลงทุนเพื่อกรูมมิงตัวเองอย่างหนึ่ง
ซึ่งการรู้ว่าสีไหนที่เหมาะกับเรา จะยิ่งช่วยเสริมภาพลักษณ์ของเราให้ดูดี มีความมั่นใจ และเสริมเสน่ห์ให้เราเป็นคนน่าเชื่อถือมากขึ้น
โดยเรื่องนี้ สอดคล้องกับทฤษฎี “Enclothed Cognition” หรือทฤษฎีที่บอกว่า เสื้อผ้าที่สวมใส่นั้น สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมและความคิดของเราได้
หรืออาจจะคล้าย ๆ กับที่หลายคนให้ความสำคัญ กับการเลือกใส่เสื้อผ้าสีมงคลประจำวัน เพื่อเพิ่มความมั่นใจนั่นเอง..
Presented by กลุ่มบริษัทธนจิรากรุ๊ป (TANACHIRA) เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่นแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศได้แก่ Pandora (แพนดอร่า), Marimekko (มารีเมกโกะ), Cath Kidston (แคท คิดสตัน) และเจ้าของผลิตภัณฑ์เพื่อดูแลผิวพรรณ สปาแบบองค์รวมรายแรกในไทยภายใต้แบรนด์ HARNN (หาญ), VUUDH (วุฒิ), HARNN Heritage Spa (หาญ เฮอริเทจสปา) และ SCape by HARNN (เอสเคป บาย หาญ) มีสาขาอยู่ทั่วประเทศและในภูมิภาคกว่า 165 สาขา ภายใต้แนวคิด “Bring the Best of the Brand to the Best of Thailand”
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
